นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บขส. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ บขส.วันที่ 17 เมษายนนี้ จะมีการติดตามความคืบหน้าการจัดทำแผนการหารายได้จากที่ดินของ บขส. คือ สถานีขนส่งสายใต้ พื้นที่ประมาณ 15 ไร่ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หลังจากย้ายสถานีขนส่งสายใต้ไปยังถนนบรมราชนนี ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยเบื้องต้นอาจมีการเสนอแนวทางการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวด้วยการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาเสนอรูปแบบโครงการ เช่น ศูนย์การค้า คอนโด ซึ่งทางคณะกรรมการจะพิจารณาแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อ บขส.ให้มากที่สุด และอาจมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุดในการหารายได้เพิ่มให้ บขส.
สำหรับรายได้ บขส.ปีที่ผ่านมา มีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท และคาดว่าหลังจากสามารถจัดทำแผนและหารายได้จากที่ดินที่ บขส.มีอยู่ก็จะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนจะเป็นเท่าใดนั้นจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
ส่วนการย้ายสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือเอกมัยนั้น นายปิยะพันธ์ กล่าวว่า ในอนาคตจะต้องมีการย้ายออกไปจากย่านเอกมัยอย่างแน่นอน เพราะพื้นที่คับแคบ แต่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับการนำไปพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหรือศูนย์การค้า เพราะเดินทางไปมาสะดวก รวมถึงจะมีการพิจารณาสถานที่แห่งใหม่เพื่อย้ายสถานีขนส่งสายตะวันออกไปดำเนินการ โดยในเบื้องต้นเคยมีการพิจารณาพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พระราม 9 แต่อาจมีการพิจารณาพื้นที่ใหม่ คือ สถานีขนส่งกรุงเทพ หรือหมอชิต รวมถึงบางส่วนที่ดำเนินการบริเวณอาคารผู้โดยสารรถขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ปัจจุบันได้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งแนวทางดังกล่าวน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะ บขส.ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการก่อสร้าง หรือพัฒนาพื้นที่แห่งใหม่ ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อผู้โดยสารผู้ใช้บริการ เพราะคุ้นเคยกับการขึ้นรถสายตะวันออกทั้งที่หมอชิตและสถานีขนส่งสาธารณะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับรายได้ บขส.ปีที่ผ่านมา มีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท และคาดว่าหลังจากสามารถจัดทำแผนและหารายได้จากที่ดินที่ บขส.มีอยู่ก็จะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนจะเป็นเท่าใดนั้นจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
ส่วนการย้ายสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือเอกมัยนั้น นายปิยะพันธ์ กล่าวว่า ในอนาคตจะต้องมีการย้ายออกไปจากย่านเอกมัยอย่างแน่นอน เพราะพื้นที่คับแคบ แต่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับการนำไปพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหรือศูนย์การค้า เพราะเดินทางไปมาสะดวก รวมถึงจะมีการพิจารณาสถานที่แห่งใหม่เพื่อย้ายสถานีขนส่งสายตะวันออกไปดำเนินการ โดยในเบื้องต้นเคยมีการพิจารณาพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พระราม 9 แต่อาจมีการพิจารณาพื้นที่ใหม่ คือ สถานีขนส่งกรุงเทพ หรือหมอชิต รวมถึงบางส่วนที่ดำเนินการบริเวณอาคารผู้โดยสารรถขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ปัจจุบันได้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งแนวทางดังกล่าวน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะ บขส.ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการก่อสร้าง หรือพัฒนาพื้นที่แห่งใหม่ ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อผู้โดยสารผู้ใช้บริการ เพราะคุ้นเคยกับการขึ้นรถสายตะวันออกทั้งที่หมอชิตและสถานีขนส่งสาธารณะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
