xs
xsm
sm
md
lg

ตร.รุกหนักปราบยาเสพติดทั้งใน ปท.-นำเข้าตามแนวชายแดน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“วงกต” เผย ตร.เน้นปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศ-นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังพบลักลอบขนถ่ายยาจากพม่าเข้ามายังตะเข็บชายแดนจังหวัดทางเหนือมากสุด ย้ำ ขอประณามผู้ผลิตยานรกที่หาประโยชน์จากไทย ยัน การปราบจะไม่ใช้ความรุนแรงแม้รู้มีทั้งผู้มีอิทธิพลในเครื่องแบบมีส่วนเกี่ยวข้อง

วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.(สป) กล่าวถึงมาตรการปราบปรามยาเสพติดหลังรัฐบาลประกาศต่อสู้ยาเสพติดโดยเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) ว่า สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทยขณะนี้ยาบ้ายังคงเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากแพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่นและเสพได้ง่าย เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้เสพและผู้ค้ายาเสพติดหลังจากมีการประกาศสงครายาเสพติดในปี พ.ศ.2546 ได้ลดลงเหลือเพียง 30% จากทั้งหมด แต่หลังจากนั้น จนถึงปัจจุบันทุกฝ่ายก็ยังทำงานปราบปรามยาเสพติดอยู่แต่ไม่ได้เข้มข้นเหมือนช่วงนั้นจึงขยับขึ้นมาเป็น 40% ซึ่งยังถือว่าไม่มีความรุนแรงเท่ากับช่วงแรกก่อนประกาศสงครามยาเสพติด

พล.ต.อ.วงกต กล่าวต่อไปว่า ตำรวจให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด จึงได้มีการรวบรวมข้อมูลจากทุก สน.ทั้ง 1,400 สน.ขึ้นเป็นบัญชีโดยพบว่า ในแต่ละเดือนสามารถจับผู้เสพยาและค้ายาได้จำนวนกว่า 2,000 ราย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีโดยมีรายชื่อทั้งหมดจำนวน 11,432 คน เป็นผู้ค้ารายย่อยจำนวน 4,482 ราย เครือข่ายผู้ค้ารายย่อยจำนวน 645 ราย เครือข่ายรายใหญ่จำนวน 131 ราย ทั้งนี้ สามารถขออนุมัติหมายจับได้แล้วจำนวน 9,514 ราย และมีที่สามารถจับกุมได้แล้วหลบหนีภายหลังประกันตัวจากศาลจำนวน 3,089ราย

“สำหรับความมุ่งหวังในปราบปราบปรามยาเสพติดของตำรวจมีแผนที่จะปราบปรามยาที่นำมาจากนอกประเทศ โดยประเทศที่ลักลอบนำขนถ่ายยาเข้ามามากที่สุด คือ ประเทศพม่า รองลงมา คือ ลาว และกัมพูชา โดยพม่าใช้เส้นทางภาคเหนือในแถบเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และตาก ส่วนประเทศลาวเข้ามาทางภาคอีสานในจังหวัดหนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอำนาจเจริญ ส่วนประเทศกัมพูชาจะเข้ามาทางจังหวัดสระแก้ว และสุรินทร์ ผู้ที่ติดคุกเพราะคดียาเสพติดมีมากกว่า 70% แต่ประเทศที่ผลิตยากลับไม่เคยถูกพิพากษา เราต้องประณามผู้ผลิตที่มุ่งหาประโยชน์จากประเทศไทยตรงนี้” รอง ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.วงกต ยังกล่าวถึงการปราบปรามยาเสพติดในปัจจุบันว่า แม้ว่าตำรวจจะมีรายชื่อบัญชีผู้ค้ารายใหญ่ ซึ่งถูกจับตามองโดยพบว่ามีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องจึงทำให้การจับกุมยาก เพราะพฤติกรรมคนร้ายที่อยู่ในขบวนการเหล่านี้มักจะต่อสู้เมื่อตำรวจเข้าจับกุม มีการหนักข้อถึงแอบซุ่มยิงตำรวจ มีการใช้อาวุธสงคราม ตำรวจต้องเสียชีวิต เพราะการปราบปรามยาเสพติดจำนวนมากแต่ไม่เป็นข่าว การปราบปรามเราก็ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่อยากให้เข้าใจว่าวิธีการต่อสู้ของขบวนการเหล่านี้เปลี่ยนไปเป็นวัฒนธรรมการต่อสู้ตำรวจ เราก็ต้องตอบโต้อาจมีผิดพลาดบ้างก็ให้มองว่าเป็นการทำหน้าที่ปราบปรามคนร้ายโดยยึดหลักนิติธรรม

พล.ต.อ.วงกต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา นครบาลมีเป้าหมายควบยาเสพติดในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นแหล่งพักยาที่ใหญที่สุดในประเทศ โดยลงไปดูแลในหลายชุมชน เช่น คลองเตย พระโขนง ร่มเกล้า จอมทอง บุปผาราม และสายไหม หากตำรวจสามารถปราบปรามในกรุงเทพฯ ได้ ก็ถือว่าเราสามารถเอาชนะสงครามยาเสพติดได้ด้วย ส่วนผู้เสพหน่วยงานในพื้นที่ก็ต้องช่วยดูแลในการบำบัดและพัฒนาฝึกฝนอาชีพ


กำลังโหลดความคิดเห็น