นครบาลโชว์จับ 7 ผู้ต้องหาแก๊งลักทรัพย์และซื้อของโจรจากร้านอุปกรณ์ก่อสร้างย่านป้อมปราบฯ พร้อมของกลางกว่า 10 ล้านบาท หลังสืบทราบพบ 1 ในผู้ต้องหาและเป็นหัวหน้าแก๊งร่ำรวยผิดปกติ ก่อนเชิญมาสอบปากคำ สารภาพสิ้นร่วมกับเพื่อนอีก 8 คนอาศัยก่อเหตุในช่วงสงกรานต์เนื่องจากไม่มีใครอยู่ พบประวัติแก๊งนี้สุดแสบก่อเหตุมาโชกโชน เตรียมล่าอีก 2 ที่ยังหลบหนี
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.6 และพ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น ผกก.ศส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ประกอบด้วย 1.นายสมชาย ศรีอำพรรณ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369/1 ถ.รองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 2.นายวันชัย หรือเก่ง เหรียญตระกูล 3.นายสมบัติ อยู่เจริญ 4.นายสมชาย หรือตี๋อ่าง วิมุตสี 5.นายนาท หรือตึ๋ง สีเป้ 6.นายพรมมา หรือเล็ก บุญครอง 7.นายพิสิทธิ์ หรือเซี้ยะ อรรถพงศ์เมธี พร้อมของกลาง เครื่องทองรูปพรรณจำนวนมาก เงินสด โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีแดง หมายเลขทะเบียน 3ว-4006 กทม.(รถที่ใช้ก่อเหตุ) และอุปกรณ์งัดแงะ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 364, 365, 485, 486, 488, 489, 491/2551 ลงวันที่ 26 เมษายน 2551 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์หรือบุคคลโดยเข้าทางช่องทางที่ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12-16 เมษายนที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ และทรัพย์สินอื่นๆ ภายในร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างชื่อ “ร้าน ช.กิจเจริญ” ตั้งอยู่เลขที่ 1878 ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ในท้องที่ของ สน.พลับพลาไชย 2 ได้ทรัพย์สินไปทั้งสิ้น 59 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 22,797,000 บาท แล้วหลบหนีไป จนกระทั่ง ศส.บช.น.ร่วมกับ กก.สส.บก.น.6 สืบทราบว่านายสมชายซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งและมีประวัติเคยถูกจับร่ำรวยผิดปกติซื้อรถยนต์คันใหม่ด้วยเงินสด จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ ศส.บช.น. ซึ่งนายสมชายให้การรับสารภาพว่าร่วมกับพวกอีก 9 คนก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าบริษัท เพชรไทยเคมีภัณฑ์ จำกัด แล้วตัดเหล็กหน้าต่างชั้น 4 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วใช้ชะแลงงัดตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ ได้เงินสดประมาณ 1,000,000 บาท และทรัพย์สินอีกกว่า 59 รายการ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ มีนายสุชัย หรือเฮีย พะนอจันทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนีเป็นผู้ชี้เป้าให้ไปลักทรัพย์บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากนายสุชัยรู้จักกับผู้เสียหายเป็นการส่วนตัวจึงรู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหาย จากนั้นจึงได้มาบอกแก่นายสมชายให้ชวนพรรคพวกไปร่วมก่อเหตุซึ่งหลังจากที่ได้ทรัพย์สินมาแล้วผู้ต้องหาได้นำไปขายให้กับนายพิสิทธิ์ เจ้าของร้านศุภฤกษ์ ที่แยกสะพานควาย กทม.ได้เงินมาจำนวน 1,950,000 บาท
“จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายสมชายและผู้ต้องหาในกลุ่มนี้หลายรายมีคดีลักทรัพย์ในท้องที่ต่างๆ อย่างโชกโชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความให้มาแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในเขตพื้นที่ นอกจากนี้จะสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี ประกอบด้วย 1.นายศุภเศก หรือกอล์ฟ ไชยเกตุ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/3 ม.19 ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ 2.นายชาตรี หรือตี๋ฟู ธรรมรักษา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/52 ม.4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และ 3.นายสุชัย หรือเฮีย พะนอจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2036/31 อ.สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 484, 487, 490/2551 ลงวันที่ 26 เมษายน 2551 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์หรือบุคคลโดยเข้าทางช่องทางที่ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร เช่นกัน” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.6 และพ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น ผกก.ศส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ประกอบด้วย 1.นายสมชาย ศรีอำพรรณ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369/1 ถ.รองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 2.นายวันชัย หรือเก่ง เหรียญตระกูล 3.นายสมบัติ อยู่เจริญ 4.นายสมชาย หรือตี๋อ่าง วิมุตสี 5.นายนาท หรือตึ๋ง สีเป้ 6.นายพรมมา หรือเล็ก บุญครอง 7.นายพิสิทธิ์ หรือเซี้ยะ อรรถพงศ์เมธี พร้อมของกลาง เครื่องทองรูปพรรณจำนวนมาก เงินสด โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีแดง หมายเลขทะเบียน 3ว-4006 กทม.(รถที่ใช้ก่อเหตุ) และอุปกรณ์งัดแงะ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 364, 365, 485, 486, 488, 489, 491/2551 ลงวันที่ 26 เมษายน 2551 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์หรือบุคคลโดยเข้าทางช่องทางที่ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12-16 เมษายนที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ และทรัพย์สินอื่นๆ ภายในร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างชื่อ “ร้าน ช.กิจเจริญ” ตั้งอยู่เลขที่ 1878 ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ในท้องที่ของ สน.พลับพลาไชย 2 ได้ทรัพย์สินไปทั้งสิ้น 59 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 22,797,000 บาท แล้วหลบหนีไป จนกระทั่ง ศส.บช.น.ร่วมกับ กก.สส.บก.น.6 สืบทราบว่านายสมชายซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งและมีประวัติเคยถูกจับร่ำรวยผิดปกติซื้อรถยนต์คันใหม่ด้วยเงินสด จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ ศส.บช.น. ซึ่งนายสมชายให้การรับสารภาพว่าร่วมกับพวกอีก 9 คนก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าบริษัท เพชรไทยเคมีภัณฑ์ จำกัด แล้วตัดเหล็กหน้าต่างชั้น 4 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วใช้ชะแลงงัดตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ ได้เงินสดประมาณ 1,000,000 บาท และทรัพย์สินอีกกว่า 59 รายการ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ มีนายสุชัย หรือเฮีย พะนอจันทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนีเป็นผู้ชี้เป้าให้ไปลักทรัพย์บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากนายสุชัยรู้จักกับผู้เสียหายเป็นการส่วนตัวจึงรู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหาย จากนั้นจึงได้มาบอกแก่นายสมชายให้ชวนพรรคพวกไปร่วมก่อเหตุซึ่งหลังจากที่ได้ทรัพย์สินมาแล้วผู้ต้องหาได้นำไปขายให้กับนายพิสิทธิ์ เจ้าของร้านศุภฤกษ์ ที่แยกสะพานควาย กทม.ได้เงินมาจำนวน 1,950,000 บาท
“จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายสมชายและผู้ต้องหาในกลุ่มนี้หลายรายมีคดีลักทรัพย์ในท้องที่ต่างๆ อย่างโชกโชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความให้มาแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในเขตพื้นที่ นอกจากนี้จะสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี ประกอบด้วย 1.นายศุภเศก หรือกอล์ฟ ไชยเกตุ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/3 ม.19 ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ 2.นายชาตรี หรือตี๋ฟู ธรรมรักษา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/52 ม.4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และ 3.นายสุชัย หรือเฮีย พะนอจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2036/31 อ.สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 484, 487, 490/2551 ลงวันที่ 26 เมษายน 2551 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์หรือบุคคลโดยเข้าทางช่องทางที่ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร เช่นกัน” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว