“ปฐม อัญสกุล” อดีต หน.พรรคไทยร่ำรวย ยืนกรานปฏิเสธคดีแชร์ข้าวสาร อัยการร้องขอรวมคดีลูกน้องอีก 3 ราย ด้านทนายจำเลยแถลงคัดค้าน ศาลจึงเลื่อนคดีเพื่อฟังคำสั่งการรวมคดีไปวันที่ 2.มิ.ย.นี้
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์นัดแถลงเปิดคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท อีซี่ เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และนายปฐม อัญสกุล อายุ 28 ปี ประธานกรรมการบริษัทฯ และเป็นอดีตหัวหน้าพรรคไทยร่ำรวย เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่ฉ้อโกงประชาชน และไม่ดำเนินกิจการให้เป็นไปตามแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ยื่นจดต่อนายทะเบียนอันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาด แบบขายตรง พ.ศ.2527 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 กรณีร่วมกันหลอกลวงให้ประชาชนมาร่วมลงทุนธุรกิจขายตรงซึ่งอ้างว่าประกอบกิจการขายตรงสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร เครื่องสำอาง
โดยในวันนี้มีสมาชิกกลุ่มบริษัทมาให้กำลังใจนายปฐมกว่า 80 คน ซึ่งศาลได้กำชับว่าให้กำลังใจได้ แต่ขอให้อยู่ในความสงบ แต่ขณะนั้นปรากฏว่าหนึ่งในกลุ่มกองเชียร์ได้ตะโกนตอบศาลว่าที่เดินทางมาเพื่อขอความเป็นธรรมแก่นายปฐม ซึ่งศาลได้กล่าวย้ำกับกองเชียร์ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถบอกว่าได้ว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ ต้องรอการสืบพยานหลักฐานก่อน พร้อมกำชับให้กลุ่มที่มาให้กำลังใจอยู่ในความเรียบร้อยด้วย จากนั้นศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้นายปฐมจนเป็นที่เข้าใจ ก่อนจะสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่านายปฐมได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ขณะที่ อัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาลว่าขอรวมคดีนี้กับคดีหมายเลขดำที่ อ.989/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ดา มีมุ่งกิจ และคดีหมายเลขดำที่ อ.1271/2551 ที่มีพนักงานฝ่ายอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายราชภัฏ สุขเทวี และนายปรัชญ์ปรีชา สุระวิโรจน์ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งทั้งสองคดีดังกล่าวเป็นจำเลยที่ร่วมกันกระทำความผิดกับนายปฐม และมีความผิดในฐานเดียวกัน ประกอบกับพยานโจทก์ที่ทั้ง 3 คดี เป็นพยานชุดเดียวกัน อัยการโจทก์จึงขอให้ศาลพิจารณรวมคดีทั้ง 3 เป็นคดีเดียวกัน ฝ่ายทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่าในการแต่งตั้งทนายจำเลยที่ 1 นั้นยังไม่แล้วเสร็จ
ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนการตรวจพยานหลักฐาน และการพิจารณารวมคดีออกไปเป็นวันที่ 2 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.