หนุ่มใหญ่สุดแสบ อ้างตัวเป็นตำรวจ ยศ “พ.ต.ท.” กำลังจะมารับตำแหน่งผู้กำกับการโรงพักชนะสงคราม แล้วเข้าไปขู่รีดเงินร้านขายรองเท้าในถนนข้าวสาร ให้ซื้อสติกเกอร์ราคา 4 หมื่น ติดร้านไว้เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่โดนซ้อนแผนถูกฝ่ายสืบสวนเจ้าของพื้นที่ตัวจริงปลอมตัวเป็นเจ้าของร้านมอบเงินให้ก่อนรวบตัวไว้ได้ พอถูกจับยังอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ ซี 5 มาสืบหาข่าว
เมื่อเวลา 21.30 น.วานนี้ (16 เม.ย.) พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ สว.สส.สน.ชนะสงคราม ร.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รอง สว.สส.นำกำลังจับกุมตัว นายสมพงษ์ วนิชไพบูลย์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่1 ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 5,000 บาท และกระดาษจดชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ต้องหาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ พ.ต.ท.สุรชัย พุ่มไพศาลชัย 1 แผ่น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณล็อบบี้โรงแรมเจริญดี ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร
พ.ต.ท.สมิง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ (16 เม.ย.) นายสมบัติ บุญเลิศ ลูกจ้างร้านขายรองเท้าในถนนข้าวสาร ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ว่าผู้ต่องหาได้เข้ามาที่ร้านพร้อมอ้างตัวเองว่า ชื่อ พ.ต.ท.สุรชัย พุ่มไพศาลชัย หรือ “รองกล้วย” และอีก 10 วันจะเข้ามารับตำแหน่งผู้กำกับการ (ผกก.) สน.ชนะสงคราม พร้อมทั้งจะจับกุมร้านค้าในถนนข้าวสารที่ละเมิดลิขสิทธิ์ และทำผิดเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า หากไม่อยากถูกจับก็ให้ซื้อสติกเกอร์ไปติดที่ร้านใน 40,000 บาท แต่นายบุญเลิศแจ้งผู้ต้องหาว่าไม่มีเงินและเจ้าของร้านไม่อยู่ ให้กลับมาใหม่ในช่วงเย็น ผู้ต้องหาจึงจดชื่อ พ.ต.ท.สุรชัย พุ่มไพศาลชัย พร้อมเบอร์โทรศัพท์ใส่กระดาษให้กับนายสมบัติไว้
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนจับกุมโดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปลอมตัวเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 21.00 น.ผู้ต้องหาได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นเจ้าของร้านรองเท้าไปนั่งคุยที่ล็อบบี้โรงแรมเจริญดี พ.ต.ท.สมิง จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตด้านข้างล็อบบี้ โดยผู้ต้องหาได้อ้างตัวอีกครั้งว่าชื่อ พ.ต.ท.สุรชัย พุ่มไพศาลชัย กำลังจะเข้ามารับ ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมทั้งเสนอให้ซื้อสติกเกอร์ไปติดที่ร้านในราคา 40,000 บาท แลกกับการไม่ถูกจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่จะไม่ซื้อสติกเกอร์ดังกล่าว ผู้ต้องหาก็ขู่จะเข้าจับสินค้าที่ร้านทันที ทางเจ้าหน้าที่จึงออกอุบายว่ามีเงินสดติดตัวอยู่แค่ 5,000 บาทเท่านั้น ผู้ต้องหาจึงสั่งให้จ่ายมาก่อน แล้วที่เหลือให้นำมาจ่ายภายหลัง เมื่อผู้ต้องหารับเงินไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที พร้อมควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม
จากการสอบสวนนายสงพงษ์ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ระดับ 5 มีหน้าที่สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เคยออกไปจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กับตำรวจมาแล้วหลายครั้ง โดยที่มาที่ร้านขายรองเท้าในวันนี้ก็เพราะได้รับรายงานว่า ร้านดังกล่าวขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ได้มารีดไถ ส่วนที่อ้างเป็นนำตำรวจนั้นเป็นเทคนิคการสืบสวนหาข่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีหลักฐานที่ผู้ต้องหาในการรับเงินจำนวน 5,000 บาทไป จึงแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจนั้น ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “พ.ต.ท.สุรชัย พุ่มไพศาลชัย” ที่ผู้ต้องหาอ้างถึงนั้น แท้จริงชื่อ “พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย” ที่ปัจจุบันเป็น รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม และไม่ได้กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สน.ชนะสงคราม แต่อย่างใด