โชเฟอร์รถทัวร์สายธาตุพนม 2 คน ระหองระแหงกันมานาน สุดท้ายโชเฟอร์มือ 1 จ่อยิงทิ้ง โชเฟอร์มือ 2 ที่นอนอยู่เบาะหลังดับคารถ แล้วขับรถที่มีศพเพื่อนอยู่หลังรถจากสกลนคร มาถึงเมืองกรุง ก่อนบังคับเด็กรถขับต่อให้ถึงหมอชิต แล้วกระโดดลงรถหลบหนีไป
วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.20 น. พ.ต.ท.ทรงพล กาญจนพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางซื่อ รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ถูกยิงภายในรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด จอดอยู่บริเวณลานจอดรถ 35 ไร่ สถานีขนส่งสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผกก.สน.บางซื่อ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ ในลานจอดรถดังกล่าวพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สีฟ้าเทา ทะเบียน 14-1081 กทม.หมายเลขข้างรถ ม.1ข/27-766 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ธาตุพนม จอดอยู่ โดยด้านหลังรถ ซึ่งเป็นที่เบาะนอนยาว สำหรับนอนพักของพนักงานขับรถ พบศพ นายนลินทร์ เจือสุวรรณ อายุ 40 ปี สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีเหลือง มีผ้าห่มคลุมตัวไว้ ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ไหล่ขวา ทะลุแขนขวา 1 นัด ไหล่ซ้ายทะลุหลัง 1 นัด หน้าท้องทะลุกลางหลัง 1 นัด นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังตัวถังรถ มีรอยกระสุนปืนทะลุออกไป 1 นัด และที่กระจกหลังแตกเป็นรู 1 นัด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบ นายกำธร อิศรางกูล ณ อยุธยา อายุ 30 ปี เด็กรถ ให้การว่า ผู้ตายเป็นโชเฟอร์มือ 2 ประจำรถคันดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 19.15 ของวานนี้ (8 เม.ย.) ได้รับผู้โดยสารเต็มคันรถไปส่งยังอ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีโชเฟแอร์มือ 1 ชื่อนายวทัญญู คำเพชร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 2 ต.ตองโขก อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เป็นคนขับออกจาก กทม.ไปจนถึงอ.ธาตุพนมในเช้าวันนี้ เมื่อส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว นายวทัญญู ได้ตีรถกลับมา เพื่อจะมารับผู้โดยสารที่ กทม.ต่อในวันเดียวกัน
นายกำธร ให้การต่อว่า เมื่อรถออกจาก อ.ธาตุพนม มาจนถึงเวลาประมาณ 08.00 น.ถึงบ้านคำเพิ่ง อ.ภูพาน จ.สกลนคร นายวทัญญู ได้จอดรถและไล่ให้ตนลงไปปัสสาวะข้างทาง และช่วงจังหวะที่ลงมาปัสสาวะนั้น ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุดจากในรถ เมื่อกลับขึ้นไป ก็พบนายวทัญญู จ่อปืนเล็งมาที่ตนและบังคับให้เดินไปที่ด้านหลังรถที่นายนลินทร์นอนอยู่ เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่านายนลินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะนั้นนายวทัญญู พยายามที่จะยิงตนอีก แต่ด้วยความกลัวตาย จึงได้ก้มลงกราบเท้าขอชีวิตไว้ จากนั้น นายวทัญญู ยอมใจอ่อนไม่สังหารตน แต่ได้บังคับให้ตน กลับมานั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ จากนั้น นายวทัญญู บึ่งรถมาจนถึงรังสิต แล้วจอดรถ บังคับให้ตนเป็นคนขับรถต่อไปให้ถึงหมอชิต 2 ไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย โดยเมื่อรถออกตัว นายวทัญญูได้กระโดดลงจากรถหลบหนีไป ตนจึงขับรถทัวร์จากรังสิตมาจนถึงที่ลานจอดรถดังกล่าว แล้วรีบวิ่งไปแจ้งผู้คุมวินรถ ก่อนที่จะแจ้งตำรวจให้ทราบ
ต่อมา มี นางขนิษฐา สุวรรณดี อายุ 37 ปี พี่สาวภรรยานายนลินทร์ ผู้ตาย เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า ผู้ตายอยู่กินกับ นางทัดดาว สุวรรณดี อายุ 34 ปี น้องสาวตนมาได้ 3 ปีแล้ว โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุขวบเศษ ทั้งนี้ ผู้ตายมีอาชีพรถทัวร์มานานแล้ว และตั้งแต่มาคบกับน้องสาว ก็เห็นขับรถทัวร์คู่กับนายวทัญญูมาโดยตลอด แต่ทั้ง 2 คน เคยมีปัญหาทะเลาะกันมานานแล้ว ครั้งที่หนักที่สุด เป็นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยผู้ตายกับนายวทัญญูขับรถไปด้วยกัน แต่ระหว่างทาง ทรัพย์สินผู้โดยสารหายไป ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายวทัญญูเป็นคนขับ ทั้งยังเป็นผูที่นำของผู้โดยสารไปเก็บ ซึ่งเมื่อทำทรัพย์สินผู้โดยสารหาย คนขับทั้ง 2 คนต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ โดยทั้งคู่จะต้องออกเงินกันคนละครึ่ง แต่ทางฝั่งนายวทัญญูไม่ยอม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เรื่องกระจกรถ ที่ผู้ตายขับถอยหลังไปชนรถอีกคันที่จอดอยู่ด้านหลัง แต่ก็ตกลงกันได้ โดยผู้ตายยอมจ่ายคนเดียว เรื่องจึงจบกันไป และยังมีเรื่องไม่พอใจกันเล็กๆน้อยๆอีก เช่นเวลาไปนั่งดื่มด้วยกัน ต่างฝ่ายก็ต่างเกี่ยงกันจ่ายเงิน
ด้านพล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า เท่าที่สอบปากคำเด็กรถ ให้การว่า ทั้ง 2 คน มีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด ซึ่งความจริง หากผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 คน ทราบเรื่อง ก็ไม่น่าจะให้มาขับรถคู่กะกัน ส่วนสาเหตุทั้งคู่เคยมีเรื่องทะกันรุนแรง ในเรื่องที่ทรัพย์สินผู้โดยสารหาย ซึ่งต่างก็โทษกันและกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพาน จ.สกลนคร ท้องที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินการต่อไป
วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.20 น. พ.ต.ท.ทรงพล กาญจนพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางซื่อ รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ถูกยิงภายในรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด จอดอยู่บริเวณลานจอดรถ 35 ไร่ สถานีขนส่งสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผกก.สน.บางซื่อ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ ในลานจอดรถดังกล่าวพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สีฟ้าเทา ทะเบียน 14-1081 กทม.หมายเลขข้างรถ ม.1ข/27-766 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ธาตุพนม จอดอยู่ โดยด้านหลังรถ ซึ่งเป็นที่เบาะนอนยาว สำหรับนอนพักของพนักงานขับรถ พบศพ นายนลินทร์ เจือสุวรรณ อายุ 40 ปี สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีเหลือง มีผ้าห่มคลุมตัวไว้ ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ไหล่ขวา ทะลุแขนขวา 1 นัด ไหล่ซ้ายทะลุหลัง 1 นัด หน้าท้องทะลุกลางหลัง 1 นัด นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังตัวถังรถ มีรอยกระสุนปืนทะลุออกไป 1 นัด และที่กระจกหลังแตกเป็นรู 1 นัด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบ นายกำธร อิศรางกูล ณ อยุธยา อายุ 30 ปี เด็กรถ ให้การว่า ผู้ตายเป็นโชเฟอร์มือ 2 ประจำรถคันดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 19.15 ของวานนี้ (8 เม.ย.) ได้รับผู้โดยสารเต็มคันรถไปส่งยังอ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีโชเฟแอร์มือ 1 ชื่อนายวทัญญู คำเพชร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 2 ต.ตองโขก อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เป็นคนขับออกจาก กทม.ไปจนถึงอ.ธาตุพนมในเช้าวันนี้ เมื่อส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว นายวทัญญู ได้ตีรถกลับมา เพื่อจะมารับผู้โดยสารที่ กทม.ต่อในวันเดียวกัน
นายกำธร ให้การต่อว่า เมื่อรถออกจาก อ.ธาตุพนม มาจนถึงเวลาประมาณ 08.00 น.ถึงบ้านคำเพิ่ง อ.ภูพาน จ.สกลนคร นายวทัญญู ได้จอดรถและไล่ให้ตนลงไปปัสสาวะข้างทาง และช่วงจังหวะที่ลงมาปัสสาวะนั้น ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุดจากในรถ เมื่อกลับขึ้นไป ก็พบนายวทัญญู จ่อปืนเล็งมาที่ตนและบังคับให้เดินไปที่ด้านหลังรถที่นายนลินทร์นอนอยู่ เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่านายนลินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะนั้นนายวทัญญู พยายามที่จะยิงตนอีก แต่ด้วยความกลัวตาย จึงได้ก้มลงกราบเท้าขอชีวิตไว้ จากนั้น นายวทัญญู ยอมใจอ่อนไม่สังหารตน แต่ได้บังคับให้ตน กลับมานั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ จากนั้น นายวทัญญู บึ่งรถมาจนถึงรังสิต แล้วจอดรถ บังคับให้ตนเป็นคนขับรถต่อไปให้ถึงหมอชิต 2 ไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย โดยเมื่อรถออกตัว นายวทัญญูได้กระโดดลงจากรถหลบหนีไป ตนจึงขับรถทัวร์จากรังสิตมาจนถึงที่ลานจอดรถดังกล่าว แล้วรีบวิ่งไปแจ้งผู้คุมวินรถ ก่อนที่จะแจ้งตำรวจให้ทราบ
ต่อมา มี นางขนิษฐา สุวรรณดี อายุ 37 ปี พี่สาวภรรยานายนลินทร์ ผู้ตาย เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า ผู้ตายอยู่กินกับ นางทัดดาว สุวรรณดี อายุ 34 ปี น้องสาวตนมาได้ 3 ปีแล้ว โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุขวบเศษ ทั้งนี้ ผู้ตายมีอาชีพรถทัวร์มานานแล้ว และตั้งแต่มาคบกับน้องสาว ก็เห็นขับรถทัวร์คู่กับนายวทัญญูมาโดยตลอด แต่ทั้ง 2 คน เคยมีปัญหาทะเลาะกันมานานแล้ว ครั้งที่หนักที่สุด เป็นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยผู้ตายกับนายวทัญญูขับรถไปด้วยกัน แต่ระหว่างทาง ทรัพย์สินผู้โดยสารหายไป ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายวทัญญูเป็นคนขับ ทั้งยังเป็นผูที่นำของผู้โดยสารไปเก็บ ซึ่งเมื่อทำทรัพย์สินผู้โดยสารหาย คนขับทั้ง 2 คนต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ โดยทั้งคู่จะต้องออกเงินกันคนละครึ่ง แต่ทางฝั่งนายวทัญญูไม่ยอม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เรื่องกระจกรถ ที่ผู้ตายขับถอยหลังไปชนรถอีกคันที่จอดอยู่ด้านหลัง แต่ก็ตกลงกันได้ โดยผู้ตายยอมจ่ายคนเดียว เรื่องจึงจบกันไป และยังมีเรื่องไม่พอใจกันเล็กๆน้อยๆอีก เช่นเวลาไปนั่งดื่มด้วยกัน ต่างฝ่ายก็ต่างเกี่ยงกันจ่ายเงิน
ด้านพล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า เท่าที่สอบปากคำเด็กรถ ให้การว่า ทั้ง 2 คน มีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด ซึ่งความจริง หากผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 คน ทราบเรื่อง ก็ไม่น่าจะให้มาขับรถคู่กะกัน ส่วนสาเหตุทั้งคู่เคยมีเรื่องทะกันรุนแรง ในเรื่องที่ทรัพย์สินผู้โดยสารหาย ซึ่งต่างก็โทษกันและกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพาน จ.สกลนคร ท้องที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินการต่อไป