ตร.กองปราบบุกรวบหนุ่มปลาดิบคาห้องพัก หลังรับการประสาน ตร.ญี่ปุ่น มีผู้ต้องหาคดีผลิตอาวุธปืนหลบหนีมาอยู่ ก่อนบุกค้นห้องพักพบอาวุธปืน แบบร่างผลิตอาวุธปืน และอุปกรณ์อื่นอีกเพียบ สารภาพ เคยรับจ้างผลิตอาวุธปืนสมัยอยู่ญี่ปุ่น ปัจจุบันเลิกทำแล้ว เผย ผู้ต้องหาอาจมีส่วนเชื่อมโยงขายอาวุธปืนให้กับแก๊งยากูซ่า
วันนี้ (4 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.สั่งการให้ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป. พ.ต.ท.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.ฝป.10 บก.ป.นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลอาญา ที่ ค 126/2551 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2303 ชั้น 3 อินทราแมนชั่น อาคาร 2 เลขที่ 72 หมู่ 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นว่ามีผู้ต้องหาคดีผลิตอาวุธปืน หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นพบ นายโอโนดะ ซาโตชิ (MR.ONODA SATOSHI) อายุ 54 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หลบอยู่ในห้องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังตำรวจบุกเข้าตรวจค้นห้องพัก นายโอโนดะ ได้ปิดไฟและปิดล็อกประตูห้องไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม จึงประสานผู้ดูแลอาคารพาช่างทำกุญแจมาสะเดาะกุญแจห้องออกมา เมื่อเปิดประตูได้ก็พบนายโอโนดะ ซึ่งพกมีดไว้ที่เอว จึงเข้าควบคุมตัมาสอบสวนที่กองปราบปราม
จากการตรวจค้นภายในห้องพบปืนคิงส์คอปบร้าจำนวน 1 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก กระสุนขนาด .22 6 นัด ปืนอัดลม 1 กระบอก กระดาษแบบร่างการผลิตอาวุธปืน 6 ฉบับ เครื่องช็อตไฟฟ้า 2 อัน มีดซามูไร 1 เล่ม มีดพก 2 เล่ม สว่านไฟฟ้า 1 ชุด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง บัตรสมาชิกชมรมทหาร-ตำรวจพลเรือนบุรีรัมย์ และ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของ นายโอโนดะ พบว่า ขาดอายุไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
สอบสวน นายโอโนดะ ให้การว่า ตนได้เดินทางเข้ามาอยู่กับหญิงสาวชาวไทยตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2550 โดยเดินทางเข้าออกหลายครั้งซึ่งครั้งล่าสุดเข้ามาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2550 หลังจากหนังสือเดินทางจะหมดอายุจึงเดินทางออกนอกประเทศทางด่าน ตม.หนองคาย เพื่อย้อนกลับมาประทับตราในหนังสือเดินทางในฐานะบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราว เพิ่มเวลาในการอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าเคยรับจ้างผลิตอาวุธปืนเมื่อสมัยที่อยู่ประเทศญี่ปุ่นแต่ปัจจุบันตนเลิกทำไปแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย ซึ่งหลังจากดำเนินคดีกับนายโอโนดะ ในประเทศไทยแล้วก็จะพิจารณาส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากทางตำรวจญี่ปุ่นต้องการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า นายโอโนดะ ได้ขายอาวุธปืนให้กับแก๊งมาเฟียต่างๆ เช่น แก๊งยากูซ่า ที่ก่อคดีในประเทศญี่ปุ่นด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน ตำรวจญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจค้นบ้านนายโอโนดะ ซาโตชิ ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยพบของกลางเป็นปอาวุธปืนปากกาหลายกระบอก ทั้งนี้ ทางตำรวจญี่ปุ่นเชื่อว่า อาวุธปืนดังกล่าว ผลิตไปจากเมืองไทย และส่งไปขายให้กับชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบปืนในราคากระบอกละ 100,000 บาท ส่วนนายโอโนดะ จะนำอาวุธปืนส่งไปยังประเทสญี่ปุ่นด้วยวิธีใดนั้น ตำรวจอยุ่ระหว่างการสอบสวนแและสืบสวนขยายผล
วันนี้ (4 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.สั่งการให้ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป. พ.ต.ท.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.ฝป.10 บก.ป.นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลอาญา ที่ ค 126/2551 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2303 ชั้น 3 อินทราแมนชั่น อาคาร 2 เลขที่ 72 หมู่ 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นว่ามีผู้ต้องหาคดีผลิตอาวุธปืน หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นพบ นายโอโนดะ ซาโตชิ (MR.ONODA SATOSHI) อายุ 54 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หลบอยู่ในห้องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังตำรวจบุกเข้าตรวจค้นห้องพัก นายโอโนดะ ได้ปิดไฟและปิดล็อกประตูห้องไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม จึงประสานผู้ดูแลอาคารพาช่างทำกุญแจมาสะเดาะกุญแจห้องออกมา เมื่อเปิดประตูได้ก็พบนายโอโนดะ ซึ่งพกมีดไว้ที่เอว จึงเข้าควบคุมตัมาสอบสวนที่กองปราบปราม
จากการตรวจค้นภายในห้องพบปืนคิงส์คอปบร้าจำนวน 1 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก กระสุนขนาด .22 6 นัด ปืนอัดลม 1 กระบอก กระดาษแบบร่างการผลิตอาวุธปืน 6 ฉบับ เครื่องช็อตไฟฟ้า 2 อัน มีดซามูไร 1 เล่ม มีดพก 2 เล่ม สว่านไฟฟ้า 1 ชุด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง บัตรสมาชิกชมรมทหาร-ตำรวจพลเรือนบุรีรัมย์ และ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของ นายโอโนดะ พบว่า ขาดอายุไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
สอบสวน นายโอโนดะ ให้การว่า ตนได้เดินทางเข้ามาอยู่กับหญิงสาวชาวไทยตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2550 โดยเดินทางเข้าออกหลายครั้งซึ่งครั้งล่าสุดเข้ามาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2550 หลังจากหนังสือเดินทางจะหมดอายุจึงเดินทางออกนอกประเทศทางด่าน ตม.หนองคาย เพื่อย้อนกลับมาประทับตราในหนังสือเดินทางในฐานะบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราว เพิ่มเวลาในการอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าเคยรับจ้างผลิตอาวุธปืนเมื่อสมัยที่อยู่ประเทศญี่ปุ่นแต่ปัจจุบันตนเลิกทำไปแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย ซึ่งหลังจากดำเนินคดีกับนายโอโนดะ ในประเทศไทยแล้วก็จะพิจารณาส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากทางตำรวจญี่ปุ่นต้องการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า นายโอโนดะ ได้ขายอาวุธปืนให้กับแก๊งมาเฟียต่างๆ เช่น แก๊งยากูซ่า ที่ก่อคดีในประเทศญี่ปุ่นด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน ตำรวจญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจค้นบ้านนายโอโนดะ ซาโตชิ ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยพบของกลางเป็นปอาวุธปืนปากกาหลายกระบอก ทั้งนี้ ทางตำรวจญี่ปุ่นเชื่อว่า อาวุธปืนดังกล่าว ผลิตไปจากเมืองไทย และส่งไปขายให้กับชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบปืนในราคากระบอกละ 100,000 บาท ส่วนนายโอโนดะ จะนำอาวุธปืนส่งไปยังประเทสญี่ปุ่นด้วยวิธีใดนั้น ตำรวจอยุ่ระหว่างการสอบสวนแและสืบสวนขยายผล