กลุ่มผู้เสียหายจากขบวนการรถเช่า ไม่ยอมขาดทุน นัดรวมพลผู้เสียหาย เดินทางฟังผลการช่วยเหลือจากกระทรวงพาณิชย์ และ สคบ.ขณะที่รถของกลาง พบเพิ่มอีกในพื้นที่ สภ.หนองคาย ดัดแปลงพวงมาลัย เตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เต็นท์รถหน้า สน.มีนบุรี มีผู้เสียหายที่ถูกบริษัท ยูฟูกุ เดคเคอเรท จำกัด หลอกเชิดรถไป เดินทางมารวมตัวกันเพื่อรวบรวมเอกสาร เช่น สัญญาเช่า และเอกสารการซื้อรถ เพื่อเตรียมนำไปยื่นให้กับกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นอกจากนี้ แกนนำผู้เสียหายยังขึ้นป้ายกำหนดการไว้บนกระดาษเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้เสียหายทราบ โดยมีการกำหนดไปฟังความคืบหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ก่อนจะเดินทางไปฟังความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือที่ สคบ.จากนั้นในวันที่ 25 ก.พ.จะเดินทางไปขอรับฟังความคืบหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีเจ้าของรถจากจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมารับรถที่ตำรวจพบแล้วตรวจยึดมาไว้ที่ สน.มีนบุรี จำนวน 3 คัน ประกอบด้วย รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผฉ-8199 ชลบุรี รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ถก-5647 กทม. และรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กบ-9848 ชลบุรี
นายนพรัตน์ ศิลปะชัย อายุ 30 ปี ผู้เสียหายที่เดินทางมารับรถ เปิดเผยว่า ตนได้นำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผฉ-8199 ชลบุรี ไปให้บริษัท ช.โชคอุดมรัตน์ จำกัด เช่า แต่รถได้หายไป จนกระทั่งเมื่ออ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดรถของตนคืนมาได้ จึงเดินทางมารับรถคืน โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่า พบรถของตนภายในบ้านหลังเล็กๆ ย่านหลัง สน.มีนบุรี โดยตำรวจไปสังเกตเห็นว่าเป็นเพียงบ้านหลังเล็กๆ แต่กลับมีรถจอดอยู่จำนวนหลายคัน เมื่อเข้าตรวจสอบขอดูเอกสารครอบครองรถ เจ้าของบ้านกลับไม่สามารถนำเอกสารมาให้ดูได้ จึงได้ยึดมา ทั้งนี้ ยังมีรถของพี่สาวและเพื่อนตนอีก 2 คัน คือ รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน 7955 นนทบุรี และ รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ผก-1254 ชลบุรี ซึ่งพวกตนก็ยังติดตามข่าว และตระเวนตามหาอยู่
ด้าน พ.ต.ท. สมคิด ตันสกุล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ลำผักชี ช่วยราชการงานสอบสวน สน.มีนบุรี กล่าวว่า ทาง สน.มีนบุรี ได้รับประสานจาก สภ.หนองคาย ว่า ได้เข้าไปตรวจสอบอู่ดัดแปลงรถยนต์ และพบรถยนต์จำนวน 4 คัน เป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบ 4 ประตู จำนวน 3 คัน และรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน นอกจากนี้ ยังพบป้ายทะเบียนรถยนต์ทั้งป้ายแดง และป้ายทะเบียนปกติอีกจำนวนกว่า 40 แผ่น พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเป็นผู้หญิง 1 คน ตาม พ.ร.บ.ครอบครองอาวุธปืน อย่างไรก็ตาม เมื่อ สน.มีนบุรี ได้ตรวจสอบของกลางก็พบว่า เป็นทะเบียนรถที่ได้มีการแจ้งหายไว้ในคดีแชร์รถยนต์อีกด้วย ส่วนรถที่พบนั้นถูกเปลี่ยนจากพวงมาลัยขวาเป็นซ้ายแล้ว เชื่อว่าน่าจะเตรียมนำส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
มีรายงานว่า ในวันนี้ พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รอง ผบก.น.3 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพื้นที่ บก.น. 3 และพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เพื่อสรุปความคืบหน้า และแบ่งงานกันเพื่อให้การทำงานไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังได้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องการให้ข่าวว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ให้ข่าวเท่านั้นเพื่อจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน