หนองคาย- ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย รวบแก๊งดัดแปลงรถยนต์ข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางรถยนต์ 4 คัน สารภาพทำมาแล้วเกือบ 100 คัน เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาที่มาของรถอาจโยงไปถึงแชร์รถเช่า
เช้าวันนี้ (17 ก.พ.) ที่ สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย, พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผกก.(สส.), พ.ต.ต.วิเศษ ลานอุ่น สวป., พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม แก๊งดัดแปลงรถข้ามชาติ ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ 1 คน คือ น.ส.ปิยะนุช สายสีดา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 12 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมของกลางรถยนต์ 4 คัน เป็นรถยี่ห้อโตโยต้าทั้งหมด
ประกอบด้วย รถยนต์รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขเครื่องยนต์ 1 KD 8977612, รถยนต์รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขเครื่องยนต์ 1KD 9221072, รถยนต์รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขเครื่องยนต์ 1KD 957100 และรถยนต์รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขเครื่องยนต์ 1KD 9916230 ทะเบียนป้ายแดงของจริงจากขนส่ง 4 แผ่น ทะเบียนป้ายแดงปลอมอีก 22 แผ่น, ปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก, กระสุนปืนคาร์บิน 24 นัดพร้อมแม็กกาซีน, กระสุนปืนลูกซอง 2 นัด, กระสุนเอ็ม 16 จำนวน 1 นัด กระสุนขนาด .38 จำนวน 4 นัด นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์สำหรับถอด-ประกอบและอะไหล่รถยนต์อีกเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า การจับกุมขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้สืบทราบว่าบ้านของ น.ส.ปิยะนุช สายสีดา ผู้ต้องหาได้มีการลักลอบนำรถยนต์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์ รถยนต์ที่เช่าซื้อ และรถยนต์ที่หลบหนีไฟแนนซ์ จากสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มาทำการดัดแปลงโดยเปลี่ยนพวงมาลัยจากด้านขวาไปเป็นด้านซ้าย และมีการตอกเปลี่ยนหมายเลขเครื่องยนต์ และหมายเลขตัวถังใหม่
จากนั้นก็นำทะเบียนพร้อมเอกสารรถยนต์ของประเทศเพื่อนบ้านมาสวมแล้วนำข้ามกลับไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาจจะขับผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้อย่างสะดวก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุม
โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วานนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.ต.วิเศษ ลานอุ่น สวป.สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าบ้านหลังดังกล่าวได้นำรถยนต์มาทำการดัดแปลงจำนวนหลายคัน จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งเส้นทางเข้าบ้านมีเพียงเส้นทางเล็กๆ เส้นทางเดียว รอบๆ บ้านมีการต่อสายไฟฟ้าใส่เส้นลวดไว้ พบรถยนต์ 4 คันดังกล่าวจอดทำการดัดแปลงอยู่ในบริเวณบ้าน
โดยทั้ง 4 คันมีการดัดแปลงพวงมาลัยให้ไปอยู่ด้านซ้ายเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งบริเวณคอนโซลด้านในเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็จะแล้วเสร็จพร้อมนำส่งข้ามประเทศ โดยเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ปิยนุช สายสีดา อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พร้อมตรวจยึดรถยนต์ของกลาง พร้อมอุปกรณ์และอะไหล่ทั้งหมดไว้
น.ส.ปิยะนุช สายสีดา ผู้ต้องหาสารภาพว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของตนเอง ไม่ได้เป็นอู่ซ่อมแต่อย่างใด แต่เป็นสถานที่สำหรับนำรถยนต์ที่ได้มาดัดแปลง โดยจะมีกลุ่มคนลาวที่เป็นช่างข้ามมาทำการดัดแปลง ก่อนนำข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งตนรู้จักกับนางดาว ไม่ทราบนามสกุล ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จากนั้นนางดาว ก็ได้มาขอเช่าบริเวณบ้านเป็นที่จอดและดัดแปลงรถยนต์ ตอนแรกๆ ก็มีเพียงไม่กี่คัน
จากนั้นก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 ที่เริ่มทำจนถึงขณะนี้ประมาณเกือบ 100 คันแล้ว
พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังทำการตรวจสอบว่า รถที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ เป็นรถที่มาจากที่ใด โดยตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ รถที่โจรกรรมมา รถที่หนีไฟแนนซ์ หรือเป็นรถที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่หรือแชร์รถเช่า ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
โดยทราบว่า ขบวนการนี้มีทั้งคนไทยและคนลาวร่วมมือกันพอที่จะทราบตัวบุคคลแล้วและจะได้ขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการที่ยังคงหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป