พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรถภาค 1 นำนายโคกะ ทัสสึกาซะ (***) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น พร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 710 เออีซี อพาร์ตเมนต์ ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 22 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา เนื่องจากซักทอดมีผู้ร่วมขบวนการ คือ นายชิดะ โทชิฟูมิ พักอยู่ในห้องดังกล่าว จึงเข้าจับกุม และรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือ นายโคอิจิ โอกิ ชาวญี่ปุ่น และ น.ส.คิวตี้ หรือชื่อไทยว่า จอย ชาวฟิลิปปินส์ ติดต่อ นายทนิคุชิ คาซึมิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ทางอินเทอร์เน็ตให้มาร่วมลงทุนในประเทศไทย จนเป็นที่ตกลง แล้วไปรับผู้เสียหายที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาพักที่โรงแรมอู่ทองอินท์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธา แล้วมอมเหล้า ก่อนรูดทรัพย์เป็นเงินสด 720,000 เยน หรือประมาณ 200,000 บาท กล้องโซนี่ ไซเบอร์ชอต ราคาประมาณ 35,000 เยน แล้วหลบหนี เหตุเกิดวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายจึงแจ้งความ สภ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงสืบสวนและจับกุม
พล.ต.ท.รชต กล่าวว่า เชื่อว่าแก๊งนี้ทำกันเป็นขบวนการก่อคดีมาโชกโชน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นถูกก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายราย ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเชื่อมโยงแก๊งนี้ และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นถูกฆ่าชิงทรัพย์ ในคืนวันลอยกระทง ที่จังหวัดสุโขทัย หรือไม่ และเร่งสืบสวนพฤติกรรมว่าเข้าข่ายแก๊งยากูซ่า หรือไม่ เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากหนังสือเดินทางหมดอายุ
พล.ต.ท.รชต กล่าวว่า เชื่อว่าแก๊งนี้ทำกันเป็นขบวนการก่อคดีมาโชกโชน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นถูกก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายราย ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเชื่อมโยงแก๊งนี้ และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นถูกฆ่าชิงทรัพย์ ในคืนวันลอยกระทง ที่จังหวัดสุโขทัย หรือไม่ และเร่งสืบสวนพฤติกรรมว่าเข้าข่ายแก๊งยากูซ่า หรือไม่ เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากหนังสือเดินทางหมดอายุ
