xs
xsm
sm
md
lg

อัยการเลื่อนสั่งคดีเอสซีแอสเสท รอผลสอบดีเอสไอเพิ่ม!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ” เผย สั่งคดีเอสซีแอสเสท ไม่ทัน 3 เม.ย.เหตุต้องรอผลสอบเพิ่มเติม ดีเอสไอ หลังพยานเอกสารที่ได้รับจากสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ขาดความสมบูรณ์ ไม่มี จนท.เซ็นรับรอง ด้าน “รองอธิบดีดีเอสไอ” ปัด ไม่ได้รับแจ้งประเด็นสอบเพิ่ม ส่วนทนายความทักษิณ เผย ยังไม่ร้องขอความเป็นธรรม

วันนี้ (1 เม.ย.) นายสุทธิ ภู่เอี่ยม รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ คณะทำงานอัยการรับผิดชอบสั่งคดีสำนวนการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นผู้ต้องหา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวน ว่า ที่ผ่านมา อัยการพิจารณาตรวจหลักฐานที่ปรากฎสำนวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยที่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่าผู้ต้องหารายใดกระทำผิดหรือไม่ เบื้องต้นเห็นว่าพยานเอกสารที่ดีเอสไอรวบรวมเป็นหลักฐาน ซึ่งได้รวบรวมมาจากหน่วยงานต่างๆ ในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย ยังขาดความชัดเจนเรื่องการรับรองความถูกต้องของเอกสารจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เป็นผู้ครอบครองเอกสารนั้น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะหากมีการยื่นฟ้องคดีในชั้นศาลแล้ว ปรากฏว่า พยานเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานในคดี มีปัญหาเรื่องความถูกต้องของเอกสารที่ไม่มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นโดยตรง ก็จะทำให้น้ำหนักการรับฟังพยานเอกสารในชั้นศาลนั้นส่งผลเสียหายต่อรูปคดีได้ ดังนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการจึงสั่งให้ดีเอสไอ ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนที่จะต้องติดตามให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ครอบครองพยานเอกสาร ลงนามรับรองความถูกต้องมาให้ครบถ้วน เพื่ออัยการจะได้นำหลักฐานที่สมบูรณ์นั้นมาพิจารณาต่อไปว่า ผู้ต้องหากระทำผิดหรือไม่ เพื่อมีความเห็นที่จะสั่งคดีต่อไป โดยขณะนี้อัยการยังไม่ได้รับรายงานการสอบสวนเพิ่มเติมจากดีเอสไอ ดังนั้น คงต้องเลื่อนนัดการสั่งคดีที่กำหนดไว้ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ออกไปก่อน โดยอัยการจะมีความเห็นสั่งคดีได้ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานที่สมบูรณ์และมีความชัดเจนแล้ว

ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ รองอธิบดี ดีเอสไอ ดูแลสำนักคดีการเงินและการธนาคาร กล่าวว่า ดีเอสไอ ยังไม่ได้รับแจ้งจากอัยการเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมาเพียงทราบจากข่าวเท่านั้น

ส่วน นายกิตติพร อดุลรัตน์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก กล่าวถึงการฟังคำสั่งคดีดังกล่าวในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ว่า ตามหลักการเมื่ออัยการนัดสั่งคดีหากตัวผู้ต้องหาทั้งสี่อยู่ในกรุงเทพฯ ก็ต้องไปพบอัยการเพื่อรายงานตัวและฟังคำสั่ง แต่ถ้าตัวผู้ต้องหาเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สามารถมาฟังคำสั่งได้ ผู้ต้องหาต้องแจ้งอัยการให้ทราบและเลื่อนนัดสั่งคดี แต่อย่างไรก็ดี ในส่วนของผู้ต้องหาทั้งสี่ ขณะนี้ยังไม่ได้ประสานกับอัยการว่าจะขอเลื่อนสั่งคดีหรือไม่ แต่เนื่องจากคดีนี้ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่ปลายปี 2549 ถึงเดือน ก.พ.2551 จึงส่งสำนวนให้อัยการสั่งคดี จึงเชื่อว่า อัยการคงต้องใช้เวลาเช่นกันในการพิจารณาสำนวน ซึ่งคาดว่าคงไม่สามารถสั่งคดีได้ทันในกำหนดนัดสั่งคดีครั้งแรกวันที่ 3 เม.ย.นี้ ดังนั้น ถ้ามีการเลื่อนนัดสั่งคดีผู้ต้องหาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาพบอัยการ แต่มอบหมายให้ทนายความรายงานตัวแทนได้

ส่วนการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการนั้น นายกิตติพร กล่าวว่า ขณะนี้ลูกความของตนยังไม่ได้ตัดสินว่าจะยื่นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ ลูกความของตนได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นอยู่แล้วที่ให้มีการสอบสวนพยานบุคคล และพยานเอกสารเพิ่มเติม แต่ดีเอสไอ ไม่ดำเนินการ แต่อย่างไรก็ดี หนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวก็ปรากฏอยู่ในสำนวนที่ส่งให้อัยการสั่งคดีอยู่แล้ว เชื่อว่า อัยการคงจะได้ตรวจพิจารณาหนังสือดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอีกในชั้นสั่งคดีของอัยการ
กำลังโหลดความคิดเห็น