พนักงานสอบสวนดีเอสไอ หอบสำนวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซี แอสเสทฯ ส่งอัยการ เอาผิด “ทักษิณ-พจมาณ-บุษบา” อธิบดีสุนัยมั่นใจสำนวนรัดกุม ยันรีบส่งสำนวนไม่ใช่เพราะกลัวการเมืองแทรก ด้านหญิงอ้อยื่นสด 1 ล้านประกันตัว ทนายเผยอาจร้องขอความเป็นธรรม อสส. อัยการเตรียมตั้งคณะทำงานตรวจสำนวนนัดฟังคำสั่งคดี 28 มี.ค.นี้
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.30 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำสำนวนคดีพร้อมเอกสารหลักฐานรวม 7 กล่อง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นโดยนางเพ็ญโสม กรรมการบริษัท , นางบุษบา อดีตกรรมการบริษัท ฯ และคุณหญิงพจมาน ฐานกระทำผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ส่งมอบให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งคดี
ภายหลังรับมอบสำนวนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นัดผู้ต้องหาฟังคำสั่งในวันที่ 28 มี.ค.เวลา 10.00 น. โดยในชั้นนี้อัยการได้พิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสามไป โดยใช้หลักทรัพย์เดียวกันกับที่ผู้ต้องหายื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ พร้อมกำหนดเงื่อนไขการประกันตามที่ดีเอสไอเคยกำหนดไว้ ว่า หากจะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องแจ้งอัยการให้พิจารณาอนุญาตทุกครั้ง
นายเศกสรรค์ เปิดเผยว่า ตนจะเข้าพบนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เพื่อรายงานการส่งสำนวนของดีเอสไอให้ทราบ ซึ่งหลังจากนี้จะได้แต่งตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาพิจารณาสำนวนและมีความเห็นด้วยความรอบคอบต่อไป
ด้านนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า หลังจากนี้กระบวนการพิจารณาสั่งคดีต้องขึ้นอยู่กับอัยการว่าจะมีความเห็นอย่างไร ซึ่งในชั้นพิจารณาสั่งคดีคุณหญิงพจมาน , นางบุษบา และนางเพ็ญโสม จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหรือไม่นั้น ขณะนี้ทีมทนายความกำลังหารือกันอยู่
ขณะที่นายพรชัย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลจนรอบคอบรัดกุม จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการ โดยยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนทำสำนวนคดีด้วยความละเอียด รอบคอบ และมีความมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่นำส่งให้พนักงานอัยการ หลังจากนี้คดีดำเนินต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม
ด้าน นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนได้ประชุมสรุปความเห็นในสำนวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซีแอสเสทฯ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 โดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนต้องเขียนสำนวนคำฟ้อง พร้อมกับบรรยายพฤติการณ์ความผิดในคดีให้สอดคล้องกับพยานเอกสาร ซึ่งรวบรวมไว้มากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งขั้นตอนการเขียนบรรยายคำฟ้องต้องใช้เวลานานพอสมควรเนื่องจากดีเอสไอต้องการเขียนคำฟ้องให้ชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจง่าย และยังต้องเรียงลำดับพยานเอกสารให้สอดรับไปกับสำนวนคำฟ้องด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวการแทรกแซงหรือไม่จึงรีบส่งสำนวนคดีซุกหุ้นเอสซีแอสเสทฯ หลังนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรมคนใหม่เข้ารับตำแหน่งเพียงวันเดียว นายสุนัย กล่าวว่า การที่ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งฟ้องแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐมนตรีไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ สำนวนการสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 4 คน ประกอบด้วย บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นโดยนางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ กรรมการบริษัท ที่ 1 , นางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตกรรมการบริษัท ฯ ที่ 2 , พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ 3 และ คุณหญิงพจมาน ภริยา ที่ 4 แต่เนื่องจากขณะนี้ ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ต่างประเทศ วันนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงส่งมอบตัวเฉพาะผู้ต้องหาที่ 1,2 และ 4 พร้อมแจ้งให้อัยการทราบแล้ว ขณะที่ คุณหญิงพจมานใช้หลักทรัพย์เดิมที่ใช้ยื่นประกันตัวไว้กับดีเอสไอ เป็นเงินสด 1 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัวออกไป