นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสั่งคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า อัยการนัดคุณหญิงพจมาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้ต้องหาอื่นรวม 4 คน ฟังการสั่งคดีในวันที่ 3 เมษายนนี้ ซึ่งแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปต่างประเทศก็ไม่เป็นเหตุที่อัยการจะต้องเลื่อนนัด โดยก่อนหน้านี้ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าต้องไปทำธุรกิจต่างประเทศ ดังนั้นหากอัยการมีความเห็นแล้วก็สามารถสั่งคดีได้ทันที ซึ่งถ้าสั่งฟ้องก็จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไปส่งฟ้องต่อศาลภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาสำนวนนั้น ตนได้ประสานกับนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ซึ่งรับผิดชอบสำนวนแล้ว ทราบว่าเตรียมสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้งหมด และมีหลายประเด็นส่วนใหญ่เกี่ยวพยานเอกสารที่ได้รับมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการแปลและรับรองเอกสารให้ถูกต้อง โดยคดีนี้เป็นคดีสำคัญ เชื่อว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็จะเร่งดำเนินการให้ทันภายในกำหนดนัดสั่งคดี แต่ถ้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอส่งผลสรุปสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาให้อัยการไม่ทัน ก็จำเป็นต้องเลื่อนสั่งคดีออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาสำนวนนั้น ตนได้ประสานกับนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ซึ่งรับผิดชอบสำนวนแล้ว ทราบว่าเตรียมสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้งหมด และมีหลายประเด็นส่วนใหญ่เกี่ยวพยานเอกสารที่ได้รับมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการแปลและรับรองเอกสารให้ถูกต้อง โดยคดีนี้เป็นคดีสำคัญ เชื่อว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็จะเร่งดำเนินการให้ทันภายในกำหนดนัดสั่งคดี แต่ถ้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอส่งผลสรุปสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาให้อัยการไม่ทัน ก็จำเป็นต้องเลื่อนสั่งคดีออกไปก่อน