ผู้บังคับบัญชา และญาติของสารวัตรทหารที่ถูกตำรวจสายสืบ สน.ประชาชื่น ยิงเสียชีวิต เข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้เข้าไปทำคดี เพื่อความโปร่งใส เพราะหวั่นถูกดองและเป่าคดี
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.สุรสิทธิ์ ถาวร รองเจ้ากรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และ นายทหารพระธรรมนูญ พา จ.ส.อ.ศักดิ์ชัย ประสมศรี อายุ 67 ปี นางเจริญพร ประสมศรี อายุ 68 ปี นางนกแก้ว ประสมศรี อายุ 21 ปี บิดา มารดา และภรรยาของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัด ร้อย สห.กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ถูก ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่ (ป) ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ยิงเสียชีวิตกลางตลาดนัดหน้าอาคารสวัสดิการประชาชื่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย ร.ต.พิเชฏฐ์ พิมพ์ทอง ผู้บังคับหมวด ร้อย สห.และ จ.ส.อ.วิชิต เอื้อเฟื้อกลาง สังกัดกองดุริยางค์ กรมยุทธบริการทหาร พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.และ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้โอนคดีฆ่า ส.ต.ชัยวุฒิ จาก สน.ประชาชื่น มาให้ บก.ป. สอบสวนคดีแทน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจประชาชื่น นอกจากนี้ ร.ต.พิเชฏฐ์ ยังแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.ประสาท เพิ่มเติมในข้อหาพยายามฆ่าอีกข้อหาหนึ่งด้วย
พล.ต.สุรสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้พาครอบครัวของ ส.ต.ชัยวุฒิ และ ร.ต.พิเชฏฐ์ มาร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพราะเห็นว่าเป็นหน่วยงานที่จะให้ความเป็นธรรม และนำคดีนี้เข้าสู่การพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้นเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับคดีอาญาที่มาร้องทุกข์ในครั้งนี้
“ขณะนี้เรายังเก็บรักษาคลิปวิดีโอดังกล่าวไว้อยู่ ส่วนจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนหรือไม่นั้นต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายและผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง” พล.ต.สุรสิทธิ์ กล่าว
ร.ต.พิเชฏฐ์ กล่าวว่า ตอนแรกที่ให้ทางพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ทำคดีเพราะคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทางผู้บังคับบัญชา จึงเกรงว่าคดีนี้จะไม่รับความเป็นธรรมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาก็อยู่ในสังกัด สน.ประชาชื่น ซึ่งคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการช่วยเหลือกัน จึงเห็นว่าควรมาร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ทั้งนี้นอกจากจะร้องขอให้โอนสำนวนแล้วตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.ประสาท เพิ่มเติมในข้อหาพยายามฆ่าด้วย
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่องของสองหน่วยงานระหว่างตำรวจและทหาร ซึ่งทางกองปราบปรามจะเข้าไปดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ คดีที่เกิดขึ้นสามารถพิสูจน์ความจริงได้และสามารถชี้แจงได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.จัดทีมงานที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำเนินการสอบสวนแล้ว
ส่วน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานขอให้กองปราบปรามเข้าสอบสวนคดีนี้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขอให้เชื่อมั่นว่าพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า กรณีที่ญาติของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ผู้ตาย ได้เดินทางไปร้องขอให้ทางกองปราบรับทำคดีแทนสน.ประชาชื่น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ขอชี้แจงว่า สำหรับคดีนี้มีคำสั่งจาก สตช.แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบคดีนี้ขึ้นมาเป็นคณะทำงาน โดยในระดับของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น มี พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.เป็นผู้ควบคุมดูแล ส่วนในระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 นั้น มี พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร รอง ผบก.น.2 เป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงาน และในส่วนของสน.ประชาชื่น มี พ.ต.ท.ถวัลย์ พวงเกษม รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น เป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงาน ซึ่งหากคดีมีการตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมานั้นความเป็นธรรมย่อมต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
พ.ต.อ.มานพ กล่าวต่อว่า หากญาติผู้ตายไปร้องขอให้ทางกองปราบทำคดีก็ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ทาง สน.ประชาชื่น ก็จะมีการประสานงานกับทางกองปราบต่อไป ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกสอบปากคำพยานไปหลายปากแล้ว ยังคงเหลือพ่อแม่ของ ส.ต.ชัยวุฒิ เท่านั้น ที่ยังไม่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากติดภาระกิจในเรื่องของพิธีทางศาสนา ซึ่งทางสน.ประชาชื่นได้ทำหนังสือให้ทางนายทหารพระธรรมนูญ เป็นผู้ติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว
สำหรับเรื่องคลิปวิดีโอที่มีการกล่าวถึงว่ามีพยานสามารถถ่ายไว้ได้นั้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น เนื่องจากจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีพยานรายใดนำมามอบให้ตนหรือพนักงานสอบแต่อย่างใด แต่หากใครมีคลิปดังกล่าวก็สามารถนำมามอบสวนก็ได้ เพื่อทางตำรวจจะได้นำมาประกอบสำนวนเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.สุรสิทธิ์ ถาวร รองเจ้ากรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และ นายทหารพระธรรมนูญ พา จ.ส.อ.ศักดิ์ชัย ประสมศรี อายุ 67 ปี นางเจริญพร ประสมศรี อายุ 68 ปี นางนกแก้ว ประสมศรี อายุ 21 ปี บิดา มารดา และภรรยาของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัด ร้อย สห.กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ถูก ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่ (ป) ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ยิงเสียชีวิตกลางตลาดนัดหน้าอาคารสวัสดิการประชาชื่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย ร.ต.พิเชฏฐ์ พิมพ์ทอง ผู้บังคับหมวด ร้อย สห.และ จ.ส.อ.วิชิต เอื้อเฟื้อกลาง สังกัดกองดุริยางค์ กรมยุทธบริการทหาร พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.และ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้โอนคดีฆ่า ส.ต.ชัยวุฒิ จาก สน.ประชาชื่น มาให้ บก.ป. สอบสวนคดีแทน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจประชาชื่น นอกจากนี้ ร.ต.พิเชฏฐ์ ยังแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.ประสาท เพิ่มเติมในข้อหาพยายามฆ่าอีกข้อหาหนึ่งด้วย
พล.ต.สุรสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้พาครอบครัวของ ส.ต.ชัยวุฒิ และ ร.ต.พิเชฏฐ์ มาร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพราะเห็นว่าเป็นหน่วยงานที่จะให้ความเป็นธรรม และนำคดีนี้เข้าสู่การพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้นเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับคดีอาญาที่มาร้องทุกข์ในครั้งนี้
“ขณะนี้เรายังเก็บรักษาคลิปวิดีโอดังกล่าวไว้อยู่ ส่วนจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนหรือไม่นั้นต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายและผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง” พล.ต.สุรสิทธิ์ กล่าว
ร.ต.พิเชฏฐ์ กล่าวว่า ตอนแรกที่ให้ทางพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ทำคดีเพราะคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทางผู้บังคับบัญชา จึงเกรงว่าคดีนี้จะไม่รับความเป็นธรรมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาก็อยู่ในสังกัด สน.ประชาชื่น ซึ่งคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการช่วยเหลือกัน จึงเห็นว่าควรมาร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ทั้งนี้นอกจากจะร้องขอให้โอนสำนวนแล้วตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.ประสาท เพิ่มเติมในข้อหาพยายามฆ่าด้วย
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่องของสองหน่วยงานระหว่างตำรวจและทหาร ซึ่งทางกองปราบปรามจะเข้าไปดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ คดีที่เกิดขึ้นสามารถพิสูจน์ความจริงได้และสามารถชี้แจงได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.จัดทีมงานที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำเนินการสอบสวนแล้ว
ส่วน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานขอให้กองปราบปรามเข้าสอบสวนคดีนี้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขอให้เชื่อมั่นว่าพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า กรณีที่ญาติของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ผู้ตาย ได้เดินทางไปร้องขอให้ทางกองปราบรับทำคดีแทนสน.ประชาชื่น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ขอชี้แจงว่า สำหรับคดีนี้มีคำสั่งจาก สตช.แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบคดีนี้ขึ้นมาเป็นคณะทำงาน โดยในระดับของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น มี พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.เป็นผู้ควบคุมดูแล ส่วนในระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 นั้น มี พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร รอง ผบก.น.2 เป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงาน และในส่วนของสน.ประชาชื่น มี พ.ต.ท.ถวัลย์ พวงเกษม รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น เป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงาน ซึ่งหากคดีมีการตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมานั้นความเป็นธรรมย่อมต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
พ.ต.อ.มานพ กล่าวต่อว่า หากญาติผู้ตายไปร้องขอให้ทางกองปราบทำคดีก็ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ทาง สน.ประชาชื่น ก็จะมีการประสานงานกับทางกองปราบต่อไป ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกสอบปากคำพยานไปหลายปากแล้ว ยังคงเหลือพ่อแม่ของ ส.ต.ชัยวุฒิ เท่านั้น ที่ยังไม่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากติดภาระกิจในเรื่องของพิธีทางศาสนา ซึ่งทางสน.ประชาชื่นได้ทำหนังสือให้ทางนายทหารพระธรรมนูญ เป็นผู้ติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว
สำหรับเรื่องคลิปวิดีโอที่มีการกล่าวถึงว่ามีพยานสามารถถ่ายไว้ได้นั้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น เนื่องจากจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีพยานรายใดนำมามอบให้ตนหรือพนักงานสอบแต่อย่างใด แต่หากใครมีคลิปดังกล่าวก็สามารถนำมามอบสวนก็ได้ เพื่อทางตำรวจจะได้นำมาประกอบสำนวนเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป