กองปราบปราม จับสาวใหญ่ ผู้ต้องหาแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ยึดของกลางเอกสารสำนักพระราชวังปลอม 17 ฉบับ และเอกสารจากกระทรวงการคลัง ตอบไปยังเลขาธิการสำนักพระราชวัง จำนวน 2 ฉบับ สารภาพทำเป็นครั้งแรก ตำรวจไม่เชื่อ เตรียมสอบขยายผล
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง โดย พ.ต.ท.ธนเดช เหลืองรัชนาท พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป.พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิชัย สว.ฝป.10 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.ประภัสสรา ซังปลื้ม อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 759/2551 ลงวันที่ 22 ก.พ.2551 ข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ได้ที่วัดท่าตอน ต.ท่าตอย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเอกสารสำนักพระราชวังปลอม 17 ฉบับ และเอกสารจากกระทรวงการคลัง ตอบไปยังเลขาธิการสำนักพระราชวัง จำนวน 2 ฉบับ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายธีรพงศ์ สวัสดิ์ชูโต นิติกร ฝ่ายกฎหมายสำนักพระราชวัง เข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดกับข้าราชการระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการพระราชวังปลอมเอกสารไปยังหน่วยงานราชการหลายแห่งจนเกิดความเสียหาย โดยมอบเอกสารปลอมที่ทำถึงกรมศุลกากร และกระทรวงการคลัง มาให้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ พงษ์ละมัย เลขา อธิบดีกรมศุลกากร ทราบว่า ก่อนหน้านี้ มีบุคคล นำเอกสารอ้างถึงสำนักพระราชวังลงนามโดยข้าราชการระดับสูง มีเนื้อความขอความอนุเคราะห์ในการอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเช็คสินค้าให้กับบริษัท จูกู้ อินเตอร์เนชั่นแนลเทรดดิ้ง จำกัด และต่อมาพบ นางสาวประภัสสรา ซึ่งแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบสีกากี ไม่ติดเครื่องหมาย นำเอกสารอ้างถึงสำนักพระราชวังลงนามโดยข้าราชการระดับสูง มีเนื้อความขอความอนุเคราะห์ รับบุคคลเข้าทำงานในกรมศุลกากกร 2 ตำแหน่ง ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีพิรุธหลายอย่าง นอกจากนี้บริษัทจูกู้ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีฐานสำแดงเท็จไม่ผ่านพิธีกรมศุลกากร 2-3 ครั้ง และมีหนังสือถึงสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ขอความอนุเคราะห์ในการอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเช็คสินค้าให้กับบริษัท จูกู้ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า นางสาวประภัสสรา เคยทำเอกสารปลอมดังกล่าวถึงนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และผู้บริหารบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) เพื่อขอเงินช่วยเหลือให้กับ นางเบญจลักษณ์ คำศิริ ภรรยา ร้อยตรี เกียรติศักดิ์ คำศิริ ที่เสียชีวิตจากการถูกรถของบริษัทในเครือเฉี่ยวชน เป็นเงิน 3 ล้านบาท ด้วย
สอบสวนเบื้องต้น นางสาวประภัสสรา อ้างว่า มีอาชีพรับจ้างพิมพ์เอกสารทั่วไป และเพิ่งก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะมีคนมาว่าจ้างซึ่งแล้วแต่คนจ้างจะให้ โดยเอกสารปลอมที่ทำถึงอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อให้บรรจุคนเข้ารับราชการนั้นเป็นคนร่างขึ้นเองแล้วสำเนาตราครุฑมาจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นได้นำไปให้คนใกล้ชิดในสำนักงานเลขาธิการก็หมดหน้าที่ของตนแล้ว ส่วนเอกสารปลอมอื่นๆ ที่พบในแฟ้มเอกสารนั้นก็มีคนมาจ้างให้พิมพ์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากพูดจาวกวนไม่อยู่กับร่องกับรอย จึงประสานหน่วยงานราชการต่างๆที่ระบุอยู่ในเอกสารของกลางอีกครั้ง และจะได้ตรวจสอบด้วย ว่า ก่อนหน้านี้ ที่มีการปลอมเอกสารขอฝากคนเข้าทำงาน หรือขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ นั้น มีหน่วยงานใดตอบรับบ้างหรือไม่และหากหน่วยงานใดได้รับความเสียหายขอให้แจ้งข้อมูลมาที่กองปรามได้ตลอดเวลา
