ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องคอลัมนิสต์มติชน หมิ่นประมาท นักเขียนซีไรต์ “วาณิช จรุงกิจอนันต์” กรณีหนอนบ่อนไส้ ไม่แจ้งข่าวแกรมมี่ฮุบหุ้นมติชน
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่ นายวาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพิเชียร คุระทอง บรรณาธิการอำนวยการหนังสือพิมพ์มติชน นายสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และละเมิด เรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีที่นายพิเชียร เขียนบทความลงในคอลัมน์ “ทวนน้ำ ขวางโลก” หน้า 2 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน เมื่อวันที่ 20 ก.ย.48 เรื่อง “มิตรแท้-มิตรเทียม” ทำนองว่าโจทก์เป็นมิตรเทียม กินบนเรือน ขี้บนหลังคา และเป็นไส้สึก-หนอนบ่อนไส้
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.49 เห็นว่า จำเลยที่ 1 เขียนบทความด้วยความรู้สึกน้อยใจโจทก์ เคลือบแคลงสงสัยโจทก์เกี่ยวพันที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นของจำเลยที่ 3 เปรียบเทียบกับคำว่า มิตรแท้ในนิยามพุทธศาสนา มิได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์มิใช่มิตรแท้แต่อย่างใดแม้จะมีบทสรุปว่ากินบนเรือนขี้บนหลังคา และความเป็นไส้ศึก หนอนบ่อนไส้ ซึ่งมีความหมายว่า เนรคุณ ไม่สำนึกบุญคุณ และเข้ามาทำดีเป็นพวกเพื่อบ่อนทำลาย เป็นข้อความที่เลื่อนลอยไม่ยืนยันข้อเท็จจริงให้เห็นว่าโจทก์เป็นเพื่อนที่คบไม่ได้อย่างไร อีกทั้งข้อความดังกล่าวไม่รุนแรงถึงขนาดทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนเนรคุณหรือบ่อนทำลายเพื่อน ขาดความเชื่อถือ หรือน่าจะทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง บทความดังกล่าวที่จำเลยที่ 1 เขียนไม่หมิ่นประมาท คดีโจทก์ไม่มีมูลเป็นความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาพยานหลักฐานโจทก์ชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 เขียนบทความหัวข้อเรื่องมิตรแม้มิตรเทียม ลงในหนังสือพิมพ์มติชนรายวันของจำเลยที่ 3 เนื่องจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรมการและโจทก์มีตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระกับกรรมการตรวจสอบเข้าซื้อหุ้นของจำเลยที่ 3 เป็นจำนวนที่เป็นผู้ถือหุ้นข้างมาก ขณะนั้นเองโจทก์ก็ยังเป็นผู้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์รายวันมติชนกับข่าวสด และหนังสือพิมพ์สุดสัปดาห์ของจำเลยที่ 3
การที่จำเลยที่ 1 เขียนบทความเช่นนั้นน่าจะเป็นการเคลือบแคลงพฤติกรรมของโจทก์ในกรณีที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นของจำเลยที่ 3 จำนวนมาก โดยคำเปรียบเทียบของจำเลยที่ 1 อาจจะใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้างก็ยังไม่ถึงกับการเป็นการยืนยันว่าโจทก์ไม่ใช่มิตรแท้แต่อย่างใด ทั้งข้อความที่สรุปว่าโจทก์กินบนเรือนขี้บนหลังคาและเป็นไส้สึกหนอนบ่อนไส้นั้น ก็เป็นเพียงคำเปรียบเทียบที่ไม่สุภาพไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าโจทก์เป็นบุคคลที่เนรคุณ หรือบ่อนทำลายเพื่อนให้ขาดความเชื่อถือแต่อย่างใด ดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยชัดแจ้งไว้นั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน