ศาลอาญาพิพากษาประหาร 6 นักค้ายานรก ถูก ปส.ล่อซื้อยากว่า 3 หมื่นเม็ด มูลค่ากว่า 3.5 ล้าน สารภาพศาลปรานีลดโทษให้ 2 คน เหลือจำคุกตลอด กับจำคุก 50 ปี ที่เหลือ 4 คนประหารหมด
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายชาญ พรรณมณี, นายชิด พูนมา, นายอนุภาพ ทรงมีทอง, นายมนัส แซ่ไฮ้, นายบรรลือศักดิ์ ธรรมะธัญญา และนายสมหวัง ศุภใจดี เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.50 จำเลยทั้ง 6 กับพวกที่ยังหลบหนีร่วมกันได้จำหน่ายยาบ้าจำนวน 17 มัด รวม 34,000 เม็ด ให้กับสายลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ปลอมตัวล่อซื้อราคา 3,570,000 บาท เหตุเกิดที่ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจำเลยที่ 1 ได้ขอค่านายหน้า 100,000 บาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ.50 โดยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปพบจำเลยที่ 1 ที่บ้านพักใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะพาพบกับจำเลยที่ 6 ที่บ้านพัก เพื่อตรวจนับเงิน พบจำเลยที่ 2-5 อยู่ที่บ้านของจำเลยที่ 6 ด้วย เมื่อส่งมอบเงินจำเลยที่ 3 เป็นผู้ตรวจนับเงิน
จากนั้นจำเลยที่ 3 ได้พาเจ้าหน้าที่ขึ้นรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน บน 4465 พิษณุโลก ไปที่ปั๊มปิโตรนาส ที่ ต.บ้านกรด เมื่อไปถึงพบรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บง 6214 ตาก จอดรออยู่ จำเลยที่ 3 ได้ลงไปคุยกับชายที่อยู่ในรถ 2 คน จึงทำการจับกุมจำเลยทั้งหมดพร้อมของกลางดังกล่าว จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 และ 6 ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นการค้ายาเสพติด ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ ไม่ติดใจนำสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ไปที่บ้านของจำเลยที่ 6 เพื่อพูดคุยกัน ซึ่งจำเลยทั้งหมดต่างรู้เห็นในทุกขั้นตอน และพยานโจทก์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รู้เห็นเหตุการณ์มาตลอด ต่างเบิกความสอดคล้องต้องกัน ไม่มีที่ใดเป็นข้อพิรุธหรือขัดต่อเหตุผล เชื่อว่าเป็นความจริงพยานหลักฐานที่จำเลยนำมาไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ เชื่อว่าจำเลยทั้งหมดทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลย 3 ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 50 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 5 และ 6 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว ริบของกลาง
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายชาญ พรรณมณี, นายชิด พูนมา, นายอนุภาพ ทรงมีทอง, นายมนัส แซ่ไฮ้, นายบรรลือศักดิ์ ธรรมะธัญญา และนายสมหวัง ศุภใจดี เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.50 จำเลยทั้ง 6 กับพวกที่ยังหลบหนีร่วมกันได้จำหน่ายยาบ้าจำนวน 17 มัด รวม 34,000 เม็ด ให้กับสายลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ปลอมตัวล่อซื้อราคา 3,570,000 บาท เหตุเกิดที่ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจำเลยที่ 1 ได้ขอค่านายหน้า 100,000 บาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ.50 โดยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปพบจำเลยที่ 1 ที่บ้านพักใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะพาพบกับจำเลยที่ 6 ที่บ้านพัก เพื่อตรวจนับเงิน พบจำเลยที่ 2-5 อยู่ที่บ้านของจำเลยที่ 6 ด้วย เมื่อส่งมอบเงินจำเลยที่ 3 เป็นผู้ตรวจนับเงิน
จากนั้นจำเลยที่ 3 ได้พาเจ้าหน้าที่ขึ้นรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน บน 4465 พิษณุโลก ไปที่ปั๊มปิโตรนาส ที่ ต.บ้านกรด เมื่อไปถึงพบรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บง 6214 ตาก จอดรออยู่ จำเลยที่ 3 ได้ลงไปคุยกับชายที่อยู่ในรถ 2 คน จึงทำการจับกุมจำเลยทั้งหมดพร้อมของกลางดังกล่าว จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 และ 6 ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นการค้ายาเสพติด ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ ไม่ติดใจนำสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ไปที่บ้านของจำเลยที่ 6 เพื่อพูดคุยกัน ซึ่งจำเลยทั้งหมดต่างรู้เห็นในทุกขั้นตอน และพยานโจทก์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รู้เห็นเหตุการณ์มาตลอด ต่างเบิกความสอดคล้องต้องกัน ไม่มีที่ใดเป็นข้อพิรุธหรือขัดต่อเหตุผล เชื่อว่าเป็นความจริงพยานหลักฐานที่จำเลยนำมาไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ เชื่อว่าจำเลยทั้งหมดทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลย 3 ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 50 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 5 และ 6 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว ริบของกลาง
