รวบสองพ่อค้ายาบ้า ซิ่ง จยย.แหกด่านชน ตร.เจ็บ

สองพ่อค้ายาบ้าซิ่ง จยย.จะไปส่งของ แต่มาจ๊ะเอ๋ด่านตรวจของตำรวจบุปผาราม กลัวถูกจับได้เลยเร่งเครื่องพยายามจะแหกด่าน นายดาบใจกล้ากระโดดเข้าขวางจนโดนชนเจ็บ แต่สุดท้ายก็หนีไปไม่รอด สารภาพทั้งเสพทั้งขายมาตั้งแต่เด็ก ติดคุกแล้วออกมาก็ยังขายอีกจนโดนจับเป็นรอบที่ 3

เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ สน.บุปผาราม พ.ต.อ.ทรงภูมิ ประภานนท์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.วัชรินทร์ บุญรักษ์ รองผกก.จร. สน.บุปผาราม พ.ต.ต.ฤทธิไกร กะระกล สว.จร.สน.บุปผาราม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจราจร สน.บุปผาราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายภวัต สุวรรณโชติ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 ซอยวัดราชสิถาราม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ และนายจักรกฤษ ขำยะจิตร อายุ 23 ปี พร้มอของกลางยาบ้าจำนวน 190 เม็ด

พ.ต.ต.ฤทธิไกร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บุปผาราม ได้ไปตั้งด่านตรวจ เพื่อป้องกันอาชญากรรม และจับกุมผู้ที่กระทำผิดกฏจราจรบนถนนตากสิน บริเวณหน้าธนาคารเอเชีย ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง หมายเลขทะเบียน ลมต-138 กทม. โดยมีนายภวัต เป็นผู้ขับขี่ และนายจักรกฤษ นั่งซ้อนท้าย ผ่านเข้ามาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกตรวจค้น แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมจอดรถจยย. กลับเร่งเครื่องเพื่อพยายามจะฝ่าด่านออกไป

พ.ต.ต.ฤทธิไกร กล่าวต่อว่า ขณะนั้น ด.ต.ทนงศักดิ์ สุขสมิตร ผบ.หมู่งานจร. สน.บุปผาราม ซึ่งยืนอยู่คนสุดท้ายในด่านตรวจได้กระโดดเข้าขวางรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา ทำให้ถูกชนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนเจริญรัถ แต่ก็ถูก เจ้าหน้าที่ไล่ตามไปจนสามารถจับกุม ซึ่งจากการตรวจค้นภายในตัวนายภวัต พบยาบ้าจำนวน190 เม็ด ก่อควบคุมตัวมาสอบปากคำ และทำการตรวจปัสสาวะผลปรากฏว่าเป็นสีม่วงทั้งสองคน

จากการสอบสวนนายภวัตให้การรับสารภาพว่า ตนรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจากนายตั้ม ที่ย่านวัดยาง พรานนก ในราคา 25,000 บาท โดยจะไปส่งให้กลุ่มลูกค้าในชุมชนพื้นที่บางกอกใหญ่ โดยจะไปส่งสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองตั้งแต่เป็นเยาวชน มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อพ้นโทษมาก็ค้ายาบ้าเรื่อยมาจนมาถูกจับกุมในวันนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติด และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป