เฒ่าวัย 80 บุก ตร.ร้อง “พัชรวาท” ขอความเป็นธรรม ลูกชายถูก ตร.เมืองลพบุรี ยิงดับ คดีไม่คืบ หลังผู้ต้องหาหลบหนีในชั้นประกัน ศาลออกหมายจับ เวลาผ่านไป 3 เดือน ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ ระบุ มือยิงยังวนเวียนในพื้นที่ เชื่อ ตำรวจช่วยเหลือกัน ขู่คดีไม่คืบจะแบกโลงศพมาประท้วง
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกรู่ ครามแสง อายุ 80 ปี บิดาของ นายไกรสีห์ ครามแสง อายุ 39 ปี ซึ่งถูก จ.ส.ต.วิเชียร ฮวบสกุล ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2550 พร้อมด้วยบรรดาญาติของนายไกรสีห์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า แม้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้วแต่ภายหลังหลบหนีประกันในชั้นพนักงานสอบสวน
นายสงขัย ครามแสง อายุ 46 ปี พี่ชายของ นายไกรสีห์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 21 ธ.ค.2550 จ.ส.ต.วิเชียร ฮวบสกุล ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เมืองลพบุรี ได้บุกเข้าไปยิงเสียชีวิตขณะกำลังนอนอยู่กับภรรยาภายในบ้านพัก ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เพราะทราบว่า จ.ส.ต.วิเชียร มีความสัมพันธ์กับภรรยาของน้องชายมา 4-5 แล้ว อย่างไรก็ตาม ต่อมา จ.ส.ต.วิเชียร ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนั้น พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวไป โดยพนักงานสอบสวนนัดส่งตัวให้พนักงานอัยการในวันที่ 23 ม.ค.2550
นายสงขัย กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันนัด ปรากฏว่า จ.ส.ต.วิเชียร ได้หลบหนีไปพนักงานอัยการจึงคืนสำนวนให้พนักงานสอบสวน ขณะเดียวกัน ศาลได้อนุมัติหมายจับ จ.ส.ต.วิเชียร ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งจนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได ทั้งที่ จ.ส.ต.วิเชียรไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงอยากให้รรท.ผบ.ตร. เร่งรัดให้มีการจับกุมผู้ต้องหา และให้ดำเนินการกับ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ นายประกัน ในคดีนี้ เพราะผู้ต้องหาหลบหนีไประหว่างการประกันตัว
“ที่พวกผมต้องมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะคดีไม่มีความคืบหน้า ถึงแม้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วแต่ยังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้ เกรงว่าจะไม่ได้รับความป็นธรรม เพราะตำรวจอาจจะช่วยเหลือกันเอง ขณะเดียวกัน ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะผู้ต้องหาเป็นตำรวจ และยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงอยากให้ รรท.ผบ.ตร ให้ความเป็นธรรมเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี” นายสงขัย กล่าว
นายสงขัย กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ทางญาติได้ประท้วงโดยแห่โลงไปร้องเรียนที่ศาลากลาง จ.ลพบุรี มาแล้ว ซึ่งศพของน้องชายจะไม่มีการเผาจนกว่าคดีจะได้ข้อยุติ ซึ่งขณะนั้นบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดอัมพวัน ต.บางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งจะครบ 100 วัน ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนกับ ตร.แล้ว จะให้เวลา 15 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าอีก พวกตนจะแห่โลงมาร้องขอความเป็นธรรมที่ ตร.อีกครั้ง
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกรู่ ครามแสง อายุ 80 ปี บิดาของ นายไกรสีห์ ครามแสง อายุ 39 ปี ซึ่งถูก จ.ส.ต.วิเชียร ฮวบสกุล ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2550 พร้อมด้วยบรรดาญาติของนายไกรสีห์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า แม้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้วแต่ภายหลังหลบหนีประกันในชั้นพนักงานสอบสวน
นายสงขัย ครามแสง อายุ 46 ปี พี่ชายของ นายไกรสีห์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 21 ธ.ค.2550 จ.ส.ต.วิเชียร ฮวบสกุล ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เมืองลพบุรี ได้บุกเข้าไปยิงเสียชีวิตขณะกำลังนอนอยู่กับภรรยาภายในบ้านพัก ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เพราะทราบว่า จ.ส.ต.วิเชียร มีความสัมพันธ์กับภรรยาของน้องชายมา 4-5 แล้ว อย่างไรก็ตาม ต่อมา จ.ส.ต.วิเชียร ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนั้น พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวไป โดยพนักงานสอบสวนนัดส่งตัวให้พนักงานอัยการในวันที่ 23 ม.ค.2550
นายสงขัย กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันนัด ปรากฏว่า จ.ส.ต.วิเชียร ได้หลบหนีไปพนักงานอัยการจึงคืนสำนวนให้พนักงานสอบสวน ขณะเดียวกัน ศาลได้อนุมัติหมายจับ จ.ส.ต.วิเชียร ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งจนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได ทั้งที่ จ.ส.ต.วิเชียรไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงอยากให้รรท.ผบ.ตร. เร่งรัดให้มีการจับกุมผู้ต้องหา และให้ดำเนินการกับ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ นายประกัน ในคดีนี้ เพราะผู้ต้องหาหลบหนีไประหว่างการประกันตัว
“ที่พวกผมต้องมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะคดีไม่มีความคืบหน้า ถึงแม้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วแต่ยังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้ เกรงว่าจะไม่ได้รับความป็นธรรม เพราะตำรวจอาจจะช่วยเหลือกันเอง ขณะเดียวกัน ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะผู้ต้องหาเป็นตำรวจ และยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงอยากให้ รรท.ผบ.ตร ให้ความเป็นธรรมเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี” นายสงขัย กล่าว
นายสงขัย กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ทางญาติได้ประท้วงโดยแห่โลงไปร้องเรียนที่ศาลากลาง จ.ลพบุรี มาแล้ว ซึ่งศพของน้องชายจะไม่มีการเผาจนกว่าคดีจะได้ข้อยุติ ซึ่งขณะนั้นบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดอัมพวัน ต.บางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งจะครบ 100 วัน ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนกับ ตร.แล้ว จะให้เวลา 15 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าอีก พวกตนจะแห่โลงมาร้องขอความเป็นธรรมที่ ตร.อีกครั้ง