xs
xsm
sm
md
lg

“โจรไฮเทค” แฮกข้อมูล สน.บางรัก แอบอ้างเป็น ตร.โทร.ขู่หลอกลวงเงินประชาชน!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


มิจฉาชีพแสบแอบอ้างเป็น ตร.สน.บางรัก โทรศัพท์หลอกเอาเงินประชาชน อ้างจับผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์โอนเงินเข้าบัญชีเหยื่อ หากไม่โอนเงินกลับจะถูกดำเนินคดี ผกก. เผยมีผู้เสียหายโทรร้องกว่า 30 ราย พบ 1 รายหลงเชื่อสูญเงินกว่า 80,000 บาท ตรวจสอบพบน่าจะแฮกข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต และใช้หมายเลขโทรศัพท์อื่นบังหน้าเพื่อไม่ให้ตรวจสอบหมายเลขปลายทางที่แท้จริงได้ว่าเป็นหมายเลขใด

วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้เดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก โทรศัพท์ไปข่มขู่กรรโชกทรัพย์ และยังแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ โดยจะหลอกสอบถามข้อมูลทางธุรกรรม จึงเดินทางไปที่ สน.บางรัก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก พ.ต.อ.สันติ จี้กังวาฬ ผกก.สน.บางรัก

พ.ต.อ.สันติ กล่าว่า มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ซึ่งเป็นประชาชนจากต่างจังหวัดโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนที่ สน.ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางรัก ชื่อ ร.ต.ท.ไพฑูรย์ เกียรติสกุล และร.ต.ต.หญิงนรากร กฤษณะ โทรศัพท์ไปหาพร้อมกับแจ้งว่ารู้จักกับผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ และหลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหาที่จับกุมได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย หากไม่อยากถูกดำเนินคดีต้องโอนเงินออกมาจากธนาคารเพื่อป้องกันการถูกอายัด โดยจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปบอกขั้นตอนเพื่อให้ทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม แต่ผู้เสียหายไม่ได้หลงเชื่อจึงไม่สูญเสียเงิน

พ.ต.อ.สันติ กล่าต่อว่า ที่ สน.บางรัก ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามชื่อที่ผู้เสียหายโทร.มาแจ้ง และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงด้วย อีกทั้งหมายเลขโทรศัพท์ของ สน.สามารถรับสายผู้โทร.เข้าได้เท่านั้นไม่สามารถใช้ในการโทร.ออกได้ ในวันนี้ได้มีผู้เสียหายโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนแล้วจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 ราย เนื่องจากเบอร์โทรศัพท์ที่กลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายเป็นหมายเลขโทรศัพท์กลางของ สน. จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนประสานไปยังองค์การโทรศัพท์ฯ เพื่อแจ้งรายละเอียดที่เกิดขึ้น และดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.อนันท์ วงศ์คำ รอง สว.สส. เป็นผู้ดูแลและตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว

ด้าน ร.ต.ท.อนันท์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเป็นประชาชนจากต่างจังหวัด ซึ่งมีทั้งภาคเหนือภาคใต้ และภาคอีสาน รวมแล้วว่า 30 ราย มี 1 รายที่หลงเชื่อสูญเสียเงินไป จำนวน 80,000 บาท คือ นางสาวกาญจนา จันทร์สว่าง มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดหนองคาย โดยน.ส.กาญจนาเล่าว่า ร.ต.ท.ไพฑูรย์ เกียรติสกุล โทรศัพท์ไปหาและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางรัก สามารถจับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ได้ และมีการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.กาญจนา จำนวน 10,000 บาท ซึ่งน.ส.กาญจนาจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย แต่ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีต้องทำตามขั้นตอนที่บอกโดยที่ต้องปิดเป็นความลับห้ามบอกใคร โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากศาลโทรศัพท์ไปหาเพื่อบอกขั้นตอนในการทำธุรกรรมโอนเงิน

ร.ต.ท.อนันท์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียหายโอนเข้าไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว เป็นหมายเลขบัญชีของนายยุทธนา แซ่เติ๋น ซึ่งข้อมูลที่ได้จากทะเบียนราษฎรพบว่ามีชื่อดังกล่าวจำนวน 6 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคเหนือ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกับธนาคารอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นก็ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์ฯ เพื่อตรวจสอบว่ากลุ่มมิจฉาชีพใช้หมายเลขโทรศัพท์ของ สน.บางรัก ได้อย่างไร เบื้องต้นทราบว่ามี 3 วิธี แต่วิธีที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้น่าจะเป็นการแฮกข้อมูลผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต และการใช้หมายเลขโทรศัพท์อื่นบังหน้าแต่ไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขปลายทางที่แท้จริงได้ว่าเป็นหมายเลขใด

“นอกจากจะมีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.บางรัก แล้วยังมีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรด้วย โดยอ้างว่าจะคืนภาษีให้หลังจากนั้นก็จะสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบัตรประชาชน และบัตรเอทีเอ็ม” ร.ต.ท.อนันท์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีผู้เสียหายจากจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นญาติของผู้บังคับการจังหวัดเชียงราย และที่ปรึกษาของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ถูกกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวโทรศัพท์ไปแอบอ้างด้วยแต่ไม่ได้หลงเชื่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น