ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อค้ายาบ้าตัวจริงจนมุมตำรวจพร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด ยอมรับสารภาพใช้เครดิตจาก “ไอ้ดำ” ชาวกัมพูชาเอเย่นต์ใหญ่ทำตลาดในภาคตะวันออกและหัวเมืองชายทะเล ขนส่งทางเรือประมงเข้าท่าเรือแสมสาร เผยชีวิตต้องทำชั่วเพราะเสียการพนัน
เวลา 10.00 น.วันนี้ (26 ก.พ.) พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้รับรายงานจาก ร.ต.ต.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ รองสารวัตรสืบสวนและปราบปราม ว่าสายลับรายงานเข้ามาว่าจะมีเอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ชาวเขมร นำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าขาประจำ คือ นายสุพจน์ ขำสำอางค์ หรือหนุ่ย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/20 หมู่ที่ 4 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กฉ-4412 ชลบุรี โดยได้นัดส่งกันที่บริเวณทางแยกกิโลเมตรที่ 6 ถนนรอบอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6
หลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับสืบสวน พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รองผู้กำกับปราบปราม พ.ต.ต.วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พ.ต.ต.วิเชียร บุพลับ สารวัตรสืบสวนและปราบปราม ร.ต.ต.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ รองสารวัตรสืบสวนและปราบปราม พร้อมลูกน้องวางแผนนำกำลังซุ่มโป่งเพื่อสกัดจับพ่อค้ายาบ้าทั้งผู้ส่งและผู้รับ ตามที่ได้รับรายงานอย่างรอบคอบ
ขณะนำกำลังเข้าวางจุดปรากฏว่าได้พบรถเก๋งคันดังกล่าวกำลังวิ่งออกจากเป้าหมาย และก่อนหน้าพบว่ามีรถจักรยานยนต์ได้วิ่งหนีออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว จึงได้เข้าสกัดรถเก๋งคันที่ได้รับแจ้ง ค้นพบยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับจำนวน 6,000 เม็ด
จากการสอบสวนนายสุพจน์ หรือหนุ่ย ให้การรับสารภาพว่า บุคคลที่นำยาบ้ามาส่งให้คือ นายดำ ชายกัมพูชา มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เป็นเอเยนต์ใหญ่ทางฝั่งกัมพูชามาทำการตลาดทางด้านแถบชายทะเลภาคตะวันออก และสมุทรสาคร สมุทรสงคราม หัวเมืองชายทะเล
โดยเฉพาะเขตท่าเรือประมงของตำบลแสมสาร ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ ซึ่งส่งขายในราคาเม็ดละเพียง 75 บาทเท่านั้น คิดแล้วคอกละ 200 เม็ด ราคา 15,000 บาท ถ้าเรานำมาขายคอกละ 25,000 บาท กำไรคอกละ 10,000 บาท และสาเหตุที่ต้องยึดอาชีพขายส่งยาบ้าเพราะได้กู้ยืมเงินมาเล่นการพนันจนหมดตัว จึงต้องหันมาจำหน่ายยาบ้า เพราะนายดำ ให้เครดิตโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เมื่อขายหมดค่อยนำเงินไปจ่ายให้
พ.ต.อ.สุภธีร์ กล่าวว่า พอตำรวจจับนายสุพจน์ หรือหนุ่ย ญาติๆ เพื่อน คนรู้จักไม่มีใครเชื่อว่า นายหนุ่ยเป็นพ่อค้ายาบ้า เพราะไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพยาบ้า แต่เจ้าชู้ เล่นการพนันได้เสียครั้งละนับแสนบาท ส่วนนายดำ ชาวกัมพูชาชื่อเสียงโด่งดังสามารถนำยาบ้าเข้ามาในไทยได้
เวลา 10.00 น.วันนี้ (26 ก.พ.) พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้รับรายงานจาก ร.ต.ต.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ รองสารวัตรสืบสวนและปราบปราม ว่าสายลับรายงานเข้ามาว่าจะมีเอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ชาวเขมร นำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าขาประจำ คือ นายสุพจน์ ขำสำอางค์ หรือหนุ่ย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/20 หมู่ที่ 4 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กฉ-4412 ชลบุรี โดยได้นัดส่งกันที่บริเวณทางแยกกิโลเมตรที่ 6 ถนนรอบอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6
หลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับสืบสวน พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รองผู้กำกับปราบปราม พ.ต.ต.วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พ.ต.ต.วิเชียร บุพลับ สารวัตรสืบสวนและปราบปราม ร.ต.ต.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ รองสารวัตรสืบสวนและปราบปราม พร้อมลูกน้องวางแผนนำกำลังซุ่มโป่งเพื่อสกัดจับพ่อค้ายาบ้าทั้งผู้ส่งและผู้รับ ตามที่ได้รับรายงานอย่างรอบคอบ
ขณะนำกำลังเข้าวางจุดปรากฏว่าได้พบรถเก๋งคันดังกล่าวกำลังวิ่งออกจากเป้าหมาย และก่อนหน้าพบว่ามีรถจักรยานยนต์ได้วิ่งหนีออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว จึงได้เข้าสกัดรถเก๋งคันที่ได้รับแจ้ง ค้นพบยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับจำนวน 6,000 เม็ด
จากการสอบสวนนายสุพจน์ หรือหนุ่ย ให้การรับสารภาพว่า บุคคลที่นำยาบ้ามาส่งให้คือ นายดำ ชายกัมพูชา มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เป็นเอเยนต์ใหญ่ทางฝั่งกัมพูชามาทำการตลาดทางด้านแถบชายทะเลภาคตะวันออก และสมุทรสาคร สมุทรสงคราม หัวเมืองชายทะเล
โดยเฉพาะเขตท่าเรือประมงของตำบลแสมสาร ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ ซึ่งส่งขายในราคาเม็ดละเพียง 75 บาทเท่านั้น คิดแล้วคอกละ 200 เม็ด ราคา 15,000 บาท ถ้าเรานำมาขายคอกละ 25,000 บาท กำไรคอกละ 10,000 บาท และสาเหตุที่ต้องยึดอาชีพขายส่งยาบ้าเพราะได้กู้ยืมเงินมาเล่นการพนันจนหมดตัว จึงต้องหันมาจำหน่ายยาบ้า เพราะนายดำ ให้เครดิตโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เมื่อขายหมดค่อยนำเงินไปจ่ายให้
พ.ต.อ.สุภธีร์ กล่าวว่า พอตำรวจจับนายสุพจน์ หรือหนุ่ย ญาติๆ เพื่อน คนรู้จักไม่มีใครเชื่อว่า นายหนุ่ยเป็นพ่อค้ายาบ้า เพราะไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพยาบ้า แต่เจ้าชู้ เล่นการพนันได้เสียครั้งละนับแสนบาท ส่วนนายดำ ชาวกัมพูชาชื่อเสียงโด่งดังสามารถนำยาบ้าเข้ามาในไทยได้
