“กรมคุก” หวั่นเกิดการล้างแค้นตำรวจปืนดุกลางเรือนจำสั่งคุมเข้ม!!

ราชทัณฑ์สั่งเช็กประวัติไม่ให้มีทหาร หรือญาติเหยื่อตำรวจปืนดุร่วมแดนคุมขัง หวั่นเกิดการล้างแค้นกลางคุก ย้ำ ไม่ให้อภิสิทธิ์ใดเหนือคนอื่น ด้านกรมคุ้มครองสิทธิแนะให้ทบทวนวุฒิภาวะเจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ หลังพบ 5 ปีจ่ายเงินเยียวยา 600 ล้าน

วันนี้ (13 มี.ค.) ที่กรมราชทัณฑ์ นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมดูแล ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น และ จ.ส.ต.ปรวิศร์ จองพิทักษ์พงษ์ ตำรวจ สน.ประชาชื่น ที่ก่อเหตุยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี สห.สังกัด บก.สส.เสียชีวิต ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ถูกส่งตัวเข้าคุมขังยังแดนความมั่นคงสูง ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ ฐานฆ่าคนตาย นอกจากนี้ ยังได้กำชับผู้บัญชาการเรือนจำ ให้ตรวจสอบผู้ต้องขังที่อยู่ในแดนคุมขังเดียวกัน ว่า มีนักโทษที่เป็นทหาร หรือเป็นญาติกับฝ่ายผู้ตายถูกขังอยู่บ้างหรือไม่ หากตรวจสอบพบให้รีบนำตัวแยกไปขังที่แดนอื่น เพื่อป้องกันเหตุร้าย สำหรับการใช้ชีวิตในเรือนจำ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ เหมือนนักโทษรายอื่น ไม่ให้มีอภิสิทธิใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ส.ต.อ.ปะสาท และ จ.ส.ต.ปรวิศร์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ผู้ต้องขังได้รับแจกคู่มือติดคุก คนละ 1 เล่ม โดยผู้ต้องขังทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวอยู่ในแดนคุมขังเดียวกับนายวิคเตอร์ อานาโตเจวิช บูท อดีตเคจีบี ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงคราม สำหรับกิจวัตรประจำวันของนักโทษนั้น นักโทษทุกคนจะต้องตื่นนอน เวลา 05.00 น.เพื่ออาบน้ำ และเตรียมเคารพธงชาติ ก่อนรับประทานอาหารมื้อเช้าร่วมกันบริเวณโรงเรือน จากนั้นเรือนจำจะอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกกำลังกายพบปะญาติ หรือทนายความในห้องเยี่ยม หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยเจ้าหน้าที่จะให้ผู้ต้องขังกลับเข้าเรือนนอนในเวลา 15.00 น สำหรับนักโทษใหม่ซึ่งคดียังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำงานในเรือนจำ

นางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงการเยียวยาครอบครัวของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี สห.สังกัด บก.สส.ที่ถูกยิงเสียชีวิต ว่า ญาติผู้ตายสามารถยื่นเรื่องขอเงินค่าชดเชยจากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหาย และจำเลยในคดีอาญาได้ หากผลการสอบสวนพบหลักฐานว่า ผู้ตายไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอาญา จะเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการพกพาอาวุธปืนนั้น กฎหมายระบุว่าผู้ที่มีอำนาจพกพาอาวุธปืนจะต้องป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ และสามารถใช้อาวุธได้ตามความเหมาะสม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานที่รับผิดชอบควรทบทวนวุฒิภาวะของเจ้าหน้าที่ในการพกพาอาวุธใหม่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ หากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะเกิดความเสียหายต่อสังคมได้

นางสุวรรณา กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2545-2550 สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหาย และจำเลยในคดีอาญา ต้องจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายและจำเลยไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งกรมฯจะนำสถิติเหล่านี้เสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ และสำนักงานกิจการยุติธรรม เพื่อนำตัวเลขสถิติไปพิจารณาหามาตรการป้องกันต่อไป

“กรมคุก” หวั่นเกิดการล้างแค้นตำรวจปืนดุกลางเรือนจำสั่งคุมเข้ม!!
ทหารฮึ่ม! ตร.ทำเกินกว่าเหตุ-แฉคำร้องฝากขังโคตรสตรอเบอรี!
แฉนาทีฆ่า! ตร.ขู่ห้ามใครช่วย ปล่อยทหารตายอย่างเลือดเย็น!
“วิบูลย์” อ้างกฎหมายใหม่ ยังไม่ขัง “ส.ต.อ.” ปืนโหดฆ่าทหาร
ทหารยกพลบุก สน.ประชาชื่น โวยตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
ตำรวจ เปิดศึก ยิงทหารดับ !! คาแผงซีดีเถื่อน