“วัชรพล” ยืนยันขบวนการสอบสวนคดีตำรวจยิงทหารทำอย่างโปร่งใส เป็นธรรม มีนายทหารพระธรรมนูญร่วมดูแลทุกขั้นตอน พร้อมกำชับ รอง ผบก.น.2ควบคุมการสอบด้วยตนเอง ไม่ปล่อยระดับล่างทำตามอำเภอใจ ป้องกันเหตุเอื้อประโยชน์พรรคพวก ปัดลงโทษทางวินัยเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาพิจารณา เลี่ยงตอบ ประเด็นผู้บังคับบัญชายื่นขอประกันตัว แต่เปิดโอกาสให้ประชาชนส่งหลักฐานคลิปวิดีโอให้โดยตรง
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรื่องศักดิ์ จริตเอก พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณี ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ตำรวจ สน.ประชาชื่น ยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี สังกัดกองสารวัตรทหารบก กรมยุทธบริการทหาร เสียชีวิตที่ตลาดนัดอาคารสวัสดิการประชาชื่นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ได้มีการกำชับให้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน และได้มีการแจ้งข้อหาตำรวจทั้งสองนายแล้วพร้อมกับควบคุมตัวฝากขังต่อศาล
พล.ต.ท.วัชรพล ยืนยันว่า คดีนี้การสอบสวนทำอย่างโปร่งใสชัดเจน ให้ความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย และให้ทางรอง ผบก.น.2 ลงไปควบคุมการสอบสวนด้วยตนเอง ไม่ได้ปล่อยให้โรงพักทำกันอย่างเดียว เพราะอาจจะเกิดการคิดว่าเข้าข้างกันได้เนื่องจากมีความสนิทสนมกัน และไม่ถึงขั้นที่จะมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด และในการสอบสวน การหาพยานหลักฐานต่างๆ มีนายทหารพระธรรมนูญร่วมทำการสอบสวนหาหลักฐานทุกขั้นตอน และขณะเกิดเหตุก็มีพยาน มีการให้สัมภาษณ์ของประชาชน มีการถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ในการสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน เพื่อความถูกต้องชัดเจน
“ส่วนเรื่องการลงโทษทางวินัยเป็นเรื่องของทางผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาจากหลักฐานต่างๆ ว่าจะให้ออกจากราชการหรือไม่ ซึ่งระยะเวลาคงจะไม่ช้า แต่เขามีสิทธิของผู้ต้องหาและกล่าวอ้างว่าทำตามหน้าที่ ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ เราก็ต้องอำนวยความยุติธรรม ให้อย่างถูกต้องตรงไปตรงมาอย่างโปร่งใส” พล.ต.ท.วัชรพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปจับกุมซีดีเถื่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนหรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า กระบวนการจับกุมมีขั้นตอนเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ พฤติการณ์แต่ละคดีก็มีความแตกต่างกัน โอกาสที่ตำรวจจะตกอยู่ในอันตราย พฤติการณ์แต่ละพฤติการณ์กฎหมายก็บัญญัติอยู่แล้วในการป้องกันตัว ถ้าเขาทำตามกฎหมายและป้องกันตัวอย่างสมควรแก่เหตุกฎหมายก็สามารถบรรเทาโทษที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุเกิด สำหรับเหตุการณ์นี้จะว่ามีการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ก็ต้องให้คณะกรรมการพิจารณา
ต่อข้อถามว่าการใช้ตำแหน่งผู้บังคับบัญชาขอประกันตัวตำรวจทั้งสองนายและคำร้องต่อศาลขัดต่อพยานในที่เกิดเหตุ โดยมีคำร้องต่อศาลว่าผู้ตายต่อสู้แต่พยานในที่เกิดเหตุบอกว่าผู้ตายไม่ได้ชักอาวุธปืนออกมาทำให้ศาลไม่ให้ประกันตัว ทำให้คิดได้ว่าคำร้องฝากขังช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้แยกเป็นสองส่วนแรกสิทธิผู้ต้องหาขอประกันตัว และอำนาจให้ประกันก็เป็นเรื่องของผู้พิพากษา กรณีนี้ไม่ได้มีการช่วยเหลือ มีการรวบรวมหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา ถ้ามีพยานคนไหน หรือมีการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้ก็ให้มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เกิดความชัดเจน เพราะในการสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปผลัดฟ้องฝากขังนั้นมีกำหนดระยะเวลาที่จำกัด การรวบรวมพยานหลักฐานจึงอาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญผู้ต้องหาก็มีสิทธิที่จะขอประกันตัว เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปมีการสอบสวนพยานเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้การสอบสวนมีความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น ซึ่งตามกฎหมายก็มีระยะเวลาในการทำการสอบสวนจนกว่าจะมีความเห็นในทางคดีส่งให้อัยการ
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ในคดีนี้ข้าราชการตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนและให้ปากคำต่อคณะพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนมีอำนาจปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาตามกฎหมาย แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจคณะพนักงานสอบสวนก็นำผู้ถูกกล่าวหาส่งต่อศาลเพื่อใช้อำนาจศาลผลัดฟ้องฝากขังเพื่อให้อำนาจศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว และขั้นตอนการตรวจที่เกิดเหตุ สอบสวนปากคำก็มีนายทหารพระธรรมนูญร่วมทำการสอบสวนทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ความมั่นใจกับพยานว่ามีความปลอดภัยและคลิปวิดีโอที่ส่งมอบให้จะเป็นหลักฐานจริงๆ โฆษก ตร.กล่าวว่า หลักฐานต่างๆสามารถมามอบให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เลย ถ้าไม่มั่นใจ ตนเองก็จะเป็นตัวกลางในการรับมอบให้นำเข้าสู่กระบวนการการสอบสวนอย่างถูกต้อง
