สามีสุดโหดเมากาว กระทืบเมียทั้งลำตัว หน้าอก ใบหน้า ตายคาที่ เหตุจากทวงหนี้เพื่อนบ้านไม่ได้ ตำรวจเข้าระงับเหตุแต่ไม่ทันการณ์ และรวบตัวได้ทันควัน
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน (สบ 2) รับแจ้งเหตุคนทะเลาะวิวาทมีผู้เสียชีวิต บริเวณโค้งไกรแดงเกิด ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.โดยได้รับแจ้งจาก ส.ต.อ.พิทยา วิราวรรณ ผู้บังคับหมู่ จร.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพของ น.ส.มัลลิกา บินฮะยีอาวัง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ซอยเย็นจิต 2 แยก 5 แขวงทุ่งวัดดอน เขตยานนาวา กทม.สภาพศพถูกทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ ใบหน้าบวมปูด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้คือ นายวสันต์ เรืองสุวรรณ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ตรอกทุ่งสาหร่าย แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.มัลลิกา
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมานานแล้ว แต่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปทวงเงินจากเพื่อนบ้านแต่ไม่พบ จึงเดินทางกลับแต่ระหว่างทางทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ จากนั้น นายวสันต์ ก็ลากผู้ตายเข้าไปข้างทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มกตัญญูผ่านไปแถวนั้นพอดี เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กท 772 ยี่ห้อฮอนด้า ล้มกำลังจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่จู่ๆ นายวสันต์ ก็ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตาย โดยกระทืบที่ลำตัว หน้าอก และใบหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุก็พบว่า น.ส.มัลลิกา เสียชีวิตแล้ว
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระป๋องกาวตกอยู่ 1 กระป๋องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายวสันต์ มาที่สถานีตำรวจ โดย นายวสันต์ มีอาการคล้ายกับคนเมากาว จึงเป็นสาเหตุให้ทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชได้ตรวจสภาพศพ พบว่าภายในบอบช้ำอวัยวะภายในฉีกขาดทำให้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาแก่นายวสันต์ว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน (สบ 2) รับแจ้งเหตุคนทะเลาะวิวาทมีผู้เสียชีวิต บริเวณโค้งไกรแดงเกิด ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.โดยได้รับแจ้งจาก ส.ต.อ.พิทยา วิราวรรณ ผู้บังคับหมู่ จร.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพของ น.ส.มัลลิกา บินฮะยีอาวัง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ซอยเย็นจิต 2 แยก 5 แขวงทุ่งวัดดอน เขตยานนาวา กทม.สภาพศพถูกทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ ใบหน้าบวมปูด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้คือ นายวสันต์ เรืองสุวรรณ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ตรอกทุ่งสาหร่าย แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.มัลลิกา
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมานานแล้ว แต่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปทวงเงินจากเพื่อนบ้านแต่ไม่พบ จึงเดินทางกลับแต่ระหว่างทางทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ จากนั้น นายวสันต์ ก็ลากผู้ตายเข้าไปข้างทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มกตัญญูผ่านไปแถวนั้นพอดี เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กท 772 ยี่ห้อฮอนด้า ล้มกำลังจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่จู่ๆ นายวสันต์ ก็ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตาย โดยกระทืบที่ลำตัว หน้าอก และใบหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุก็พบว่า น.ส.มัลลิกา เสียชีวิตแล้ว
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระป๋องกาวตกอยู่ 1 กระป๋องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายวสันต์ มาที่สถานีตำรวจ โดย นายวสันต์ มีอาการคล้ายกับคนเมากาว จึงเป็นสาเหตุให้ทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชได้ตรวจสภาพศพ พบว่าภายในบอบช้ำอวัยวะภายในฉีกขาดทำให้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาแก่นายวสันต์ว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
