ราชทัณฑ์สั่งขังเดี่ยวนักโทษเตรียมยัดยาเสพติดเข้าทวารหนัก พร้อมขยายผลเครือข่ายจากบัญชีเยี่ยมญาติ เดินหน้าเพิ่มกำลังพลคุมเข้มนักค้ายาในคุก
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางลาดยาว นายปรีดา นิลศิริ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนผู้ต้องขังที่ลักลอบส่งยาเสพติดกลางห้องพิจารณาคดีภายในศาลอาญาว่า หลังจากที่นักโทษชายบรรจง สร้อยแก้ว นักโทษคดียาเสพติดถูกส่งตัวกลับเข้ามาในเรือนจำ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องขังรายนี้แยกไปขังเดี่ยวไว้จนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จ จนถึงขณะนี้นักโทษชายบรรจงยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายสงกรานต์ ไชยวงศ์ คนที่นำยาเสพติดมาส่งนั้นจากการตรวจสอบประวัติการเยี่ยมญาติพบว่านายสงกรานต์เคยมาขอเยี่ยมนักโทษที่เรือนจำแห่งนี้หลายครั้ง แต่ไม่ได้มาขอเยี่ยมนักโทษชายบรรจงโดยตรง โดยขอเยี่ยมนักโทษรายอื่นๆ ซึ่งก็คงจะต้องสอบสวนต่อไปว่านักโทษที่ นายสงกรานต์มาขอเยี่ยมรายนั้นเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ หากเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลางยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบอยู่ในถุงยางอนามัยนั้นมีลักษณะเตรียมพร้อมเพื่อซุกซ่อน โดยภายหลังรับมอบยาเสพติดกันแล้ว นักโทษชายบรรจง ก็จะนำยาเสพติดที่บรรจุในถุงยางอนามัยยัดเข้าทวารหนัก ก่อนนำกลับเข้ามาในเรือนจำฯ ซึ่งวิธีการแบบนี้นักโทษมักใช้กันบ่อยช่วงเดินทางไปศาล เพราะเป็นวิธีนี้ตรวจจับได้ยาก หากไม่ผ่านการเอกซเรย์ร่างกายหรือตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยการล้วงทวารหนัก จึงทำให้มียาเสพติดผ่านเข้ามาในเรือนจำได้
นอกจากนี้ นายปรีดา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้เสนอขออัตรากำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้เข้ามาช่วยงานที่เรือนจำเพิ่ม เนื่องจากทุกวันนี้เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ และไม่สมดุลกับจำนวนนักโทษที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งนักโทษที่อยู่ในทัณฑสถานฯเป็นนักโทษยาเสพติดรายสำคัญ ต้องใช้ผู้คุม 5 คนต่อนักโทษ 500 คน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ส่วนการปรับปรุงเรือนจำนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงบประมาณ หากได้รับอนุมัติงบประมาณจะสร้างแดนความมั่นคงสูง เพิ่มอีก 1 แดน รวมเป็น 3 แดน พร้อมกันนี้จะติดตั้งกล้องวงจรปิด และระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วย
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางลาดยาว นายปรีดา นิลศิริ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนผู้ต้องขังที่ลักลอบส่งยาเสพติดกลางห้องพิจารณาคดีภายในศาลอาญาว่า หลังจากที่นักโทษชายบรรจง สร้อยแก้ว นักโทษคดียาเสพติดถูกส่งตัวกลับเข้ามาในเรือนจำ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องขังรายนี้แยกไปขังเดี่ยวไว้จนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จ จนถึงขณะนี้นักโทษชายบรรจงยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายสงกรานต์ ไชยวงศ์ คนที่นำยาเสพติดมาส่งนั้นจากการตรวจสอบประวัติการเยี่ยมญาติพบว่านายสงกรานต์เคยมาขอเยี่ยมนักโทษที่เรือนจำแห่งนี้หลายครั้ง แต่ไม่ได้มาขอเยี่ยมนักโทษชายบรรจงโดยตรง โดยขอเยี่ยมนักโทษรายอื่นๆ ซึ่งก็คงจะต้องสอบสวนต่อไปว่านักโทษที่ นายสงกรานต์มาขอเยี่ยมรายนั้นเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ หากเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลางยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบอยู่ในถุงยางอนามัยนั้นมีลักษณะเตรียมพร้อมเพื่อซุกซ่อน โดยภายหลังรับมอบยาเสพติดกันแล้ว นักโทษชายบรรจง ก็จะนำยาเสพติดที่บรรจุในถุงยางอนามัยยัดเข้าทวารหนัก ก่อนนำกลับเข้ามาในเรือนจำฯ ซึ่งวิธีการแบบนี้นักโทษมักใช้กันบ่อยช่วงเดินทางไปศาล เพราะเป็นวิธีนี้ตรวจจับได้ยาก หากไม่ผ่านการเอกซเรย์ร่างกายหรือตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยการล้วงทวารหนัก จึงทำให้มียาเสพติดผ่านเข้ามาในเรือนจำได้
นอกจากนี้ นายปรีดา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้เสนอขออัตรากำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้เข้ามาช่วยงานที่เรือนจำเพิ่ม เนื่องจากทุกวันนี้เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ และไม่สมดุลกับจำนวนนักโทษที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งนักโทษที่อยู่ในทัณฑสถานฯเป็นนักโทษยาเสพติดรายสำคัญ ต้องใช้ผู้คุม 5 คนต่อนักโทษ 500 คน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ส่วนการปรับปรุงเรือนจำนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงบประมาณ หากได้รับอนุมัติงบประมาณจะสร้างแดนความมั่นคงสูง เพิ่มอีก 1 แดน รวมเป็น 3 แดน พร้อมกันนี้จะติดตั้งกล้องวงจรปิด และระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วย