อธิบดีกรมคุก ชี้ปัญหาซุกยาเสพติด-โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องขังส่วนหนึ่งเกิดจากผู้คุมไม่สามารถล้วงทวารหนัก อวัยวะเพศนักโทษได้ทุกราย จึงเป็นช่องว่าง เตรียมทดลองเครื่องตัดสัญญาณมาติดตั้งที่เรือนจำกลางคลองเปรม แดนความมั่นคงสูง ป้องกันนักโทษโทรออก
วันนี้(26 ก.พ.) นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีการลักลอบส่งยาเสพติดกลางศาลอาญา ว่า หลังจากที่มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมากภายในห้องพิจารณาคดี ก่อนจะมีการซัดทอดกันว่ายาเสพติดจำนวนดังกล่าว มีนักโทษในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ลาดยาว เป็นผู้ดำเนินการสั่งซื้อ และกำหนดให้ส่งยาเสพติดให้กับนักโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตนจึงสั่งการให้นายปรีดา นิลศิริ ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เร่งสอบสวนผู้ต้องขังที่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนสั่งการซื้อขายยาเสพติด รวมทั้งเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือว่านำเข้าไปในเรือนจำได้อย่างไร พร้อมกับได้สั่งการให้กวาดล้างยาเสพติดภายในเรือนจำให้สิ้นซาก อย่างไรก็ตาม หากสอบสวนพบว่ามีนักโทษภายในเรือนจำเป็นคนสั่งยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจริง ก็จะย้ายไปคุมจังไว้ที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นตัดวงจรยาเสพติด พร้อมกับสั่งลงโทษขั้นเด็ดขาดตามระเบียบของเรือนจำต่อไป
นายวันชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมานักโทษที่ออกไปขึ้นศาลเมื่อกลับเข้าเรือนจำ มักจะนำพายาเสพติดหรือโทรศัพท์ มือถือซุกซ่อนเข้ามาในเรือนจำ โดยส่วนใหญ่มักจะซ่อนมาในทวารหนัก และอวัยวะเพศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้มือล้วงเพื่อตรวจสอบอวัยวะภายในของนักโทษได้ทุกราย อย่างไรก็ตามสำหรับรายดังกล่าวเป็นเครือข่ายยาเสพติดแปดริ้ว
สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหานักโทษลักลอบสั่งซื้อยาเสพติดนั้น ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ได้นำเครื่องดักจับสัญญาณโทรศัพท์ไปติดตั้งตามเรือนจำใหญ่ๆ เมื่อมีการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือเกิดขึ้นภายในเรือนจำ เจ้าหน้าที่จะรู้ทันที นอกจากนี้ ยังมีการทดลองนำเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ ไปติดตั้งที่เรือนจำกลางนนทบุรี แต่ถูกร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบเรือนจำที่ถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์ไปด้วย ตนจึงได้สั่งการให้ย้ายเครื่องตัดสัญญาณมาทดลองติดตั้งที่เรือนจำกลางคลองเปรม แดนความมั่นคงสูง ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินผลการทดสอบระบบ
