กาฬสินธุ์ - ชุดปฏิบัติการยาเสพติด ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า 7 ราย ยึดของกลางกว่า 500 เม็ด ผบก.เผยเครือข่ายยาเสพติดเน้นสถานศึกษากลุ่มผู้เสพอยู่ ม.3 อายุเพียง 15 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ม.ค.) พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด (ยาบ้า) 7 ราย
ประกอบด้วย นายมานพ ภูคงน้ำ อายุ 23 ปี นายสุรพล รวงทอง อายุ 25 ปี นายชัยวัต ภูขันซ้าย อายุ 30 ปี น.ส.ศิรินาฏ อุ่มอ่อนศรี อายุ 30 ปี น.ส.สุดาทิพย์ ศรีกุลวงศ์ อายุ 24 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรใน ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายอิสรินทร์ ตรั่น อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถ.หนองลิ้นจี่ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และ น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 441 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ห้องสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์
พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการยาเสพติด สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบลำเลียงนำยาบ้าเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเป็นชาว สปป.ลาวจำนวน 5 คน โดยมีของกลาง 5,108 เม็ด จากนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ออกสืบหาข้าวตามรอยเส้นทางของการลำเลียงยาเสพติด
จนกระทั่งทราบว่ายาบ้าที่ชาวลาวลำเลียงเข้ามาแบ่งออกเป็น 2 ชุด โดยอีก 1 ชุด 1,000 เม็ด ได้มีเครือข่าย ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และอ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายให้กับวัยรุ่นนักเรียน นักศึกษา
พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการประสานงานไปยังสภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสืบหาแหล่งของผู้ค้ายาจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ของกลางยาบ้า 30 เม็ด ที่กระท่อม บริเวณบ้านโคกศรี ต.โคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อและสามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาได้เพิ่มอีก 4 คน ที่อาพาต์เม็ท 2 แห่ง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จำได้นำตัวมาสอบปากคำ
โดยทั้งหมดรับสารภาพว่าเป็นผู้จำหน่ายยาบ้าจริง โดยมี น.ส.ศิรินาฏ และนายอิสรินทร์ เป็นผู้ไปรับยาบ้าจากฝั่งลาว จากนั้นนำมาแบ่งให้เครือข่ายอยู่ใน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ต้องหา ทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้เสพมีทั้งกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา โดยจะเน้นไปยังกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีอายุเพียง 14-15 ปีเท่านั้น
“เครือข่ายค้ายากลุ่มนี้มีการกระทำที่เป็นขบวนการรับยาจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วจากนั้น ก็นำมาแยกจำหน่าย โดยจะเน้นสถานศึกษาเป็นหลัก ดังนั้นจึงอยากฝากถึงสถานศึกษาและผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแลสอดส่องบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้เด็กเพียงอยู่ชั้น ม.3 อายุ 14-15 ปีก็เสพยาแล้ว” พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าว
