“สมพงษ์” สั่ง ป.ป.ส.ร่วมกับ ปปง.ทำบัญชีเครือข่ายนักค้ายา 7 ชั่วโคตร เดินหน้ายึดทรัพย์และใช้มาตรการทางภาษี รับปากศึกษารายงาน คตน.แต่ไม่รับปากเรื่องความรุนแรง ชี้ในทางปฏิบัติหากผิดแผกไปบ้างต้องอนุโลม ส่วนกรณีแก๊งตชด.ยอมรับมีการรายงานประวัติเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม กล่าวภายหลังมอบนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ว่า ตนจะเสนอให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนโยบายทางปกครอง ซึ่ง ป.ป.ส.จะต้องเป็นหลักในการกำหนดยุทธวิธีและรายละเอียดข้อมูลต่างๆป้อนให้งานปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ จะต้องประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบเครือข่ายและญาติพี่น้องของนักค้ายาเสพติดแบบเจ็ดชั่วโคตร เพื่อให้ทราบถึงเม็ดเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่ามีที่มาอย่างไร รวมทั้งจะต้องประสานกับกรมสรรพากรเพื่อนำมาตรการทางภาษีมาจัดการ
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า การมอบนโยบายวันนี้ได้กำชับ นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการ ป.ป.ส.ให้ตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เช่น กรณีแก๊งตชด.ที่มีชื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ร่วมในบันทึกการจับกุม จะต้องตรวจสอบละเอียด ลงลึก และให้ตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ใครเอาตำแหน่งหน้าที่ไปค้าประโยชน์ พนักงานป.ป.ส.ต้องบริสุทธิ์และถูกตรวจสอบบ่อยๆ
“ขณะนี้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะคน กทม.ห่วงใยปัญหายาเสพติดมาก การปราบปรามรุนแรงต้องพูดกันอีกทีในบอร์ด ป.ป.ส.และจะต้องกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ส่วนเรื่องการจัดทำบัญชีนักค้ายาเสพติดยอมรับว่า มี ส.ส.ในหลายพื้นที่ให้ข้อมูลเข้ามา แต่ยังไม่เป็นข้อมูลอย่างเป็นทางการ บางทีก็มีการใส่ร้ายใส่ความกันเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีการแข่งขันกัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังกับข้อมูลที่ได้จากพื้นที่ บางครั้งหาหลักฐานไม่ได้ มีแต่นักค้าตัวน้อยๆ เท่านั้นที่จับได้ ส่วนตัวใหญ่ไม่เคยจับได้” นายสมพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติด นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะนำนโยบายรัฐบาลมาปรับแต่งเป็นแผนปราบปรามยาเสพติด เราเป็นคนกำหนดยุทธศาสตร์ แต่วิธีปฏิบัติอาจผิดแผกไปบ้างต้องอนุโลม ถ้าสมมติเป็นบุคคลที่หลบหนี หรือค้ายาจริงๆ พวกคุณก็คงพอใจ ถ้าเขาเกิดไม่หายใจขึ้นมา แต่ถ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนจะนำรายงานผลกระทบจากการประกาศสงครามกับยาเสพติดของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา วิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติ จนเกิดความเสียหายต่อชีวิตร่างกายชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) มาศึกษาเพราะเป็นบทเรียนที่เคยเกิดขึ้น
นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการ ป.ป.ส.เปิดเผยว่า แก๊งตชด.มีญาติพี่น้องเกี่ยวข้องเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ว่าขณะนี้มีเพียงการรายงานด้วยวาจา ยังไม่เห็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนจะเป็นเครือข่ายใดตนจำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีแก๊งตชด.เป็นคดีพิเศษหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคดีนี้ต้องมีความคืบหน้า เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างจริงจังอยู่ แต่ต้องใช้เวลาสอบสวนและติดตามผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ปากคำ ในระหว่างนี้จึงต้องให้เวลากับ สตช.ก่อน หากมีการร้องขอว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็อาจนำเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ
นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าคดีเพชรซาอุและคดีอุ้มฆ่าอุปทูตซาอุฯ ว่า ตนเคยทำงานเป็นผู้แทนการค้า ไปตะวันออกกลาง อยากเข้าไปซาอุฯมาก เพราะเป็นตลาดใหญ่ ที่น่าจะเข้าไปค้าขาย แต่ความร่วมมือระดับรัฐบาลมีน้อย เพราะปัญหาคดีเพชรซาอุฯ ดังนั้นจึงขอสนับสนุนกระทรวงการต่างประเทศที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ ในส่วนคดีความซึ่งโอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตนจะเข้าไปเร่งรัดคดีให้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับคดีสำคัญอื่นๆ ที่ค้างการสอบสวนอยู่ในดีเอสไอ อาทิ คดีการหายตัวของ นายสมชาย นีละไพจิตร
