รมว.ยุติธรรม กำชับ ปปง.เร่งประสานหน่วยงานหลักด้านการปราบปรามยาเสพติด เน้นประชิดตัวยึดทรัพย์เครือข่ายฟอกเงินจากการค้ายา วอนสภาเร่งพิจารณาเห็นชอบบอร์ดธุรกรรมที่จะเอื้อให้ ปปง.มีอำนาจเต็มสามารถอายัดทรัพย์เองได้ ชี้ การหลอกล่วงต้มตุ๋นเงินประชาชนพัฒนาตามเทคโนโลยีสมัยใหม่
วันนี้ (29 ต.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมสำนักงานป้องกันและปรามปราบการฟอกเงิน หรือ ปปง.ที่ ถ.พญาไท โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้มอบนโยบายการฟอกเงินเน้นให้ ปปง.ประสานงานหน่วยงานอื่น เช่น ป.ป.ส.ดีเอสไอ คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจิริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมสรรพากร และ บช.ปส.โดยวันที่ 6 พ.ย.นี้ เป็นวันประกาศสงครามปราบยาเสพติด ช่วง 90 วัน จึงได้ให้ ปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มนักค้ายาที่มีการฟอกเงิน ซึ่งที่ผ่านมา ปปง.ยังติดปัญหาไม่มีคณะกรรมการบริหาร ปปง.ติดตามธุรกรรม ทำให้ติดขัดไม่สามารถเข้าไปยึดอายัดทรัพย์เองได้ ขณะนี้ทำได้เพียงหน่วยงานสนับสนุน ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมดังกล่าวยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และยังมีเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการ ปปง.คนใหม่อยู่ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า ปปง.เป็นหน่วยสนับสนุนไม่ใช่หน่วยงานนำที่จะเข้าไปจับกุมยึดทรัพย์ได้ ขณะนี้กฎหมาย ปปง.เสร็จแล้วผ่านสภาแล้ว ซึ่งความสมบูรณ์ของ กม.มีอยู่แล้ว แต่ขาดเพียงคณะกรรมการธุรกรรมที่จะเสริมให้ปปง.สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ปปง.มีงานรอคณะกรรมการธุรกรรมจำนวนมากทั้งคดียาเสพติดหลายคดี และคดีการฟอกเงินอื่นหลายคดี มูลค่าไม่สามารถตอบได้ และในส่วนคณะยาเสพติดขอยึดทรัพย์ อย่างไรก็ตาม รูปแบบของการฟอกเงินของเครือข่ายค้ายาเสพติดในยุคปัจจุบัน ได้พัฒนาไปมากใช้กลยุทธ์จากเทคโนโลยีชั้นสูง เช่นการส่งอีเมล์ หลอกประชาชนให้โอนเงินเข้าบัญชี การส่งอีเมลว่าประชาชนถูกลอตเตอรี่ ทำให้ประชาชนต้องสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก