แม้มีความเป็นไปได้ว่า "คตน."คงต้องปิดฉากลงในเร็วๆนี้ แต่ทว่าข้อมูลต่างๆในรายงานนั้น หากรัฐบาลของนายสมัคร นำกลับมาทบทวนอย่างละเอียด และวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ต้องจบชีวิตลง เพราะเจ้าหน้าที่รัฐที่นำนโยบายไปปฏิบัติโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยต่อการปราบปรามยาเสพติด ขณะเดียวกันรัฐบาลเองต้องเร่งหาตัวคนผิดมาลงโทษ
" คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษาและวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน " หรือ คตน. ตั้งขึ้นมาเมื่อครั้งรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เดิมมีกรอบการทำงาน 1 ปีทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท มีคณะอนุกรรมการ 6 ชุดภารกิจหลักมี 2 ด้าน คือ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติด และนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน 2.ศึกษาวิเคราะห์ข้อเท็จจริงใช้เป็นแนวทางกำหนดมาตรการป้องกันความเสียหายในอนาคต ตลอดจนกำหนดมาตรการแก้ไขเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย โดยได้รื้อสำนวนคดีฆ่าตัดตอนทั้ง 2,500 ศพ ขึ้นมาตรวจสอบใหม่ทั้งหมด ก่อนแยกเป็นกลุ่มว่า มีรายใดบ้างที่เป็นผู้บริสุทธิ์ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาในแต่ละคดี
ตลอดระยะการทำงานมีการให้ข่าวว่า คตน.ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มอบแก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รวมถึงการประกาศทำสงครามยาเสพติดขั้นแตกหัก ถอดเทปบันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบคำต่อคำ รวมทั้งขอข้อมูลไปยัง 10 องค์กรด้านมนุษยชนที่เคยประท้วงนโยบายดังกล่าว แต่เวลาผ่านไป 5 เดือน คตน.ได้ทำรายงานสรุปผลเบื้องต้นเสนอ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มีเนื้อหาเพียงการนำเสนอข้อมูลโดยการเรียงลำดับให้เห็นถึงความเป็นมาของการกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรวบรวมหนังสือสั่งการต่างๆ จากกระทรวงมหาดไทยและศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ซึ่งกำหนดให้จัดทำบัญชีนักค้ายาเสพติดและผู้เสพ ไปจนถึงการกำหนดตัวชี้วัดให้ลดยอดในบัญชีนักค้า และผู้เสพจะมีที่ชัดเจนก็เพียงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สามารถแยกแยะได้ว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 1,370 คน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 878 คน
ล่าสุดเปลี่ยนรัฐบาล นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับ คตน.แล้วว่าการทำงานน่าจะจบได้แล้ว เพราะไม่มีอะไรต่อเนื่องให้ต้องทำต่อไป แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ว่าจะมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร แต่แค่นี้ก็พอจะเห็นอนาคตของ คตน.ได้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมในฐานะเลขานุการ คตน.ให้ความเห็นว่าสิ่งที่ คตน.ทำงานมาเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยเฉพาะการแปลงนโยบายนำไปปฏิบัติที่สามารถบอกให้ประชาชนได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งตนยังคาดหวังว่ารัฐบาลสมัยนายสมัคร ไม่น่าจะมองข้ามข้อมูลในรายงานของ คตน.แต่น่าจะนำไปศึกษาและใช้เป็นเครื่องมือที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปราบปรามยาเสพติดได้ในอนาคต แต่หากรัฐบาลนายสมัคร ไม่เห็นประโยชน์ตนก็ไม่ถือว่าการทำงานของ คตน. ล้มเหลวเพราะองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นมามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการทำความจริงให้ปรากฎแก่สังคม ซึ่งก็จะถือการทำงานของ คตน.ที่ผ่านมาจบสนิทไม่เกิดสิ่งใดขึ้นเลยไม่มีการค้นหาคนผิดที่แท้จริงมาลงโทษ
ขณะนี้จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลของนายสมัคร ว่าจะหยิบยกข้อมูลที่แม้จะพอมองเห็นชัดแค่ในแง่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาใช้ให้เป็นประโยชน์หาข้อเท็จจริงว่าพวกเขาเหล่านั้นเสียชีวิตด้วยเหตุใดกันแน่ แล้วหาตัวคนผิดมาลงโทษ หรือจะทิ้งมันไปแล้วออกมาพูดเพียงว่าที่ผ่านมา คตน.ทำงานดีแล้วจนไม่มีเรื่องให้ทำต่อ ปล่อยให้ประชาชนรับรู้เพียงว่าช่วงที่รัฐบาลอดีตนายกทักษิณ ประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด มีผู้คนต้องเสียชีวิตจำนวนมากซึ่งหลายคนก็ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแม้แต่น้อย และให้ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ระวังตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้แต่รับนโยบายมาปฏิบัติโดยไม่มองถึงความถูกผิดฉะนั้นหรือ...? นี่จึงเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่รอการสานต่อจากรัฐบาล เพราะหน้าที่ในการทำความจริงให้ปรากฏของคตน.สำเร็จแล้ว แล้วคนผิดล่ะ จะปล่อยให้ลอยนวลหรืออย่างไร...?
" คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษาและวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน " หรือ คตน. ตั้งขึ้นมาเมื่อครั้งรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เดิมมีกรอบการทำงาน 1 ปีทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท มีคณะอนุกรรมการ 6 ชุดภารกิจหลักมี 2 ด้าน คือ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติด และนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน 2.ศึกษาวิเคราะห์ข้อเท็จจริงใช้เป็นแนวทางกำหนดมาตรการป้องกันความเสียหายในอนาคต ตลอดจนกำหนดมาตรการแก้ไขเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย โดยได้รื้อสำนวนคดีฆ่าตัดตอนทั้ง 2,500 ศพ ขึ้นมาตรวจสอบใหม่ทั้งหมด ก่อนแยกเป็นกลุ่มว่า มีรายใดบ้างที่เป็นผู้บริสุทธิ์ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาในแต่ละคดี
ตลอดระยะการทำงานมีการให้ข่าวว่า คตน.ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มอบแก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รวมถึงการประกาศทำสงครามยาเสพติดขั้นแตกหัก ถอดเทปบันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบคำต่อคำ รวมทั้งขอข้อมูลไปยัง 10 องค์กรด้านมนุษยชนที่เคยประท้วงนโยบายดังกล่าว แต่เวลาผ่านไป 5 เดือน คตน.ได้ทำรายงานสรุปผลเบื้องต้นเสนอ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มีเนื้อหาเพียงการนำเสนอข้อมูลโดยการเรียงลำดับให้เห็นถึงความเป็นมาของการกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรวบรวมหนังสือสั่งการต่างๆ จากกระทรวงมหาดไทยและศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ซึ่งกำหนดให้จัดทำบัญชีนักค้ายาเสพติดและผู้เสพ ไปจนถึงการกำหนดตัวชี้วัดให้ลดยอดในบัญชีนักค้า และผู้เสพจะมีที่ชัดเจนก็เพียงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สามารถแยกแยะได้ว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 1,370 คน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 878 คน
ล่าสุดเปลี่ยนรัฐบาล นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับ คตน.แล้วว่าการทำงานน่าจะจบได้แล้ว เพราะไม่มีอะไรต่อเนื่องให้ต้องทำต่อไป แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ว่าจะมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร แต่แค่นี้ก็พอจะเห็นอนาคตของ คตน.ได้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมในฐานะเลขานุการ คตน.ให้ความเห็นว่าสิ่งที่ คตน.ทำงานมาเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยเฉพาะการแปลงนโยบายนำไปปฏิบัติที่สามารถบอกให้ประชาชนได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งตนยังคาดหวังว่ารัฐบาลสมัยนายสมัคร ไม่น่าจะมองข้ามข้อมูลในรายงานของ คตน.แต่น่าจะนำไปศึกษาและใช้เป็นเครื่องมือที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปราบปรามยาเสพติดได้ในอนาคต แต่หากรัฐบาลนายสมัคร ไม่เห็นประโยชน์ตนก็ไม่ถือว่าการทำงานของ คตน. ล้มเหลวเพราะองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นมามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการทำความจริงให้ปรากฎแก่สังคม ซึ่งก็จะถือการทำงานของ คตน.ที่ผ่านมาจบสนิทไม่เกิดสิ่งใดขึ้นเลยไม่มีการค้นหาคนผิดที่แท้จริงมาลงโทษ
ขณะนี้จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลของนายสมัคร ว่าจะหยิบยกข้อมูลที่แม้จะพอมองเห็นชัดแค่ในแง่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาใช้ให้เป็นประโยชน์หาข้อเท็จจริงว่าพวกเขาเหล่านั้นเสียชีวิตด้วยเหตุใดกันแน่ แล้วหาตัวคนผิดมาลงโทษ หรือจะทิ้งมันไปแล้วออกมาพูดเพียงว่าที่ผ่านมา คตน.ทำงานดีแล้วจนไม่มีเรื่องให้ทำต่อ ปล่อยให้ประชาชนรับรู้เพียงว่าช่วงที่รัฐบาลอดีตนายกทักษิณ ประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด มีผู้คนต้องเสียชีวิตจำนวนมากซึ่งหลายคนก็ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแม้แต่น้อย และให้ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ระวังตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้แต่รับนโยบายมาปฏิบัติโดยไม่มองถึงความถูกผิดฉะนั้นหรือ...? นี่จึงเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่รอการสานต่อจากรัฐบาล เพราะหน้าที่ในการทำความจริงให้ปรากฏของคตน.สำเร็จแล้ว แล้วคนผิดล่ะ จะปล่อยให้ลอยนวลหรืออย่างไร...?