ป.ป.ส.จับมือตำรวจภาค 1 ติวเข้มชุดปราบยาเสพติด ผบช.ภ.1 วอนลูกน้องอย่าเลียนแบบแก๊ง ตชด.นอกแถว เพราะประชาชนกำลังขาดความเชื่อมั่น ด้าน ป.ป.ส.เผยข้อมูลยาบ้าช่วงปี 2550 คุณภาพต่ำ ราคาลด ผู้ค้ารายย่อยเกิดเพิ่ม
วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จัดสัมมนาหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดระดับสถานีตำรวจ ตำรวจภูธรจังหวัด และตำรวจภูธรภาค เพื่อมอบนโยบายในการปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นประธาน
พล.ต.ท.รชต กล่าวระหว่างมอบนโยบาย ว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ต้องระมัดระวังการใช้อำนาจหน้าที่ และเมื่อเกิดเหตุ การกระทำของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชนนิธิวณิชย์ สังกัด ตชด.ที่ 42 กับพวก จึงส่งผลให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของชุดปราบปรามยาเสพติด ดังนั้น จึงขอกำชับเตือนทุกคนว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างในช่วงนี้ จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนและปรับภาพลักษณ์ให้ดีขึ้น โดยผู้บังคับบัญชาจะต้องเข้มงวดตรวจสอบการปฏิบัติการของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่าให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นอีก ถ้ามีการกระทำผิดผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบด้วย
พล.ต.ท.รชต กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 รับผิดชอบ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี และสระบุรี สภาพพื้นที่ถูกใช้เป็นที่พักยาเสพติด สถานการณ์ยาเสพติดจึงไม่รุนแรงเท่าภาคเหนือ จากการสำรวจล่าสุดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มีเครือข่ายผู้ค้ารายย่อย ประมาณ 151 เครือข่าย เป็นผู้ค้ารายย่อย 1,968 ราย ผู้เสพ หรือติดยาเสพติด 4,920 คน โดยพบผู้ค้ารายย่อยส่วนมากในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและปทุมธานี
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ผู้ค้าพัฒนาเป็นเครือข่าย โดยนักค้ารายสำคัญจะไม่สัมผัสยาเสพติดเอง แต่จะมีทรัพย์สินเงินทองสนับสนุน นอกจากนี้ ยังพบว่า จากการจับกุมและตรวจสอบยาเสพติดในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสม โดยลดปริมาณเมทแอมเฟตามีน ซึ่งแสดงว่ายาบ้ามีคุณภาพต่ำลง และราคายาบ้าก็ลดลงจากเม็ดละ 300 บาท เหลือ 200-250 บาท จากการวิเคราะห์เชื่อว่า เกิดจากผู้ค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาถูกลง และมีเทคนิควิธีผลิตและค้าเปลี่ยนไป
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า สำหรับการออกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ที่นำไปใช้จับกุมผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.จะได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบการออกบัตรและการใช้บัตรดังกล่าวในการปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดอย่างเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งมีระเบียบและข้อบังคับในการใช้บัตรเจ้าพนักงานป.ป.ส.ที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาในทางปฏิบัติค่อนข้างหย่อนยาน เช่น ในการออกปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดที่ใดต้องรายงานผู้บังคับบัญชาทุกครั้ง แต่เมื่อปฏิบัติจริงกลับไม่มีการรายงาน และการตรวจสอบว่าจับกุมจริงหรือไม่ก็ไม่เข้มงวด จึงต้องปรับมาตรการในการสอดส่องดูแลของผู้บังคับบัญชาเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์ยาเสพติด พบว่า ปริมาณสารเมทแอมเฟตามีนในยาบ้ามีปริมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากปี 2548 ซึ่งมีปริมาณ 25-30 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ายาบ้ามีคุณภาพต่ำมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2550 ปริมาณเมทแอมเฟตามีน มีปริมาณระหว่าง 15-20 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มมากกว่าปี 2549 ส่วนเส้นการแพร่ระบาดยังคงเป็นช่องทางภาคเหนือ มีฐานผลิตมจากประเทศเพื่อนบ้าน และเส้นทางลำเลียงยังคงเหมือนเดิม
