ตชด.อีก 5 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมแก๊ง “ผู้กองณัฏฐ์” อุ้ม ซ้อม ใช้ไฟช็อตเหยื่อท้องจนไปคลอดลูกในคุกเข้ามอบตัว พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา ระบุ ทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็น ผกก.ตชด.42 แต่ยอมรับร่วมจับกุมสาวท้องจริง
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดน (บช.ตชด.) นายสุรินทร์ สุกเกื้อ ทนายความ และ นายจารึก อินรินทร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชากรไทย นำตัว จ.ส.ต.สุวิทย์ สุทวิ จ.ส.ต.รังสิมันต์ สุขแก้ว จ.ส.ต.นิรันดร์ แต้มช่วย ส.ต.อ.อธิศักดิ์ พลสวัสดิ์ และ ส.ต.อ.พนัง ดวงกมล ตชด.สังกัด กก.ตชด.42 ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น กรณี นางจุฑาพร รอดนุ่น ซึ่งขณะนั้นตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน และถูกจองจำจนไปคลอดบุตรในเรือนจำ โดย ตชด.ทั้ง 5 นาย เข้ารายงานตัวที่ห้องสมาคมตำรวจตระเวณชายแดนแห่งประเทศไทย ภายใน บช.ตชด.
นายสุรินทร์ กล่าวก่อนจะพา ตชด.ทั้ง 5 คนเข้ารายงานตัวว่า ในวันนี้ ตชด.ทั้ง 5 นาย มายืนยันถึงความบริสุทธิ์ว่า ไม่เคยใช้ไฟฟ้าช็อต นางจุฑาพร และหลังเกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ทุกคนยังอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ที่มามอบตัวช้า เพราะอยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์และหาทนายความมาต่อสู้คดี
นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ที่ต้องพา ตชด.ทั้ง 5 คนมามอบตัวที่ บช.ตชด.เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้นสังกัด และทั้งหมดขาดราชการไปหลายวัน โดยเพิ่งรวมตัวกันได้เมื่อ 2 วันก่อน คือ วันที่ 16 ก.พ.โดยมี นายจารึก เป็นผู้ประสานงาน จากนั้น ได้รวมตัวกันขับรถพามายัง กทม.ทั้งนี้ ตชด.ทั้ง 5 คน ขอให้การปฏิเสธทุกข้อหล่าวหา โดยขอยืนยันว่า ได้ทำตามคำสั่งของ พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.ตชด. 42
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นายสุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงตอนนี้ นายสุรินทร์ ได้นำหนังสือคำสั่งการปฏิบัติงานของ ตชด.ทั้ง 5 นาย มายืนยันด้วย
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ญาติพี่น้องและลูกเมียของ ตชด.ทั้ง 5 คน กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องย้ายออกจากห้องพักตามระเบียยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่า หากตำรวจรายใดถูกออกหมายจับ ต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมทั้งต้องถูกยึดห้องพักคืน
ขณะที่ จ.ส.ต.บำรุง ชลยิ่ง ผบ.หมู่ บก.ตชด.42 เพื่อนร่วมงานของ ตชด.ทั้ง 5 คน ที่เดินทางมาด้วยกล่าวว่า การทำงานของ ตชด.นั้น กว่าจะจับกุมเอเย่นต์ยาบ้าแต่ละราย ต้องใช้สายสืบ สืบเสาะมาก่อน จากนั้นจะนำข้อมูลมาแจ้งให้ชุดจับกุมทราบ เมื่อทราบตัวแล้ว จะทำการขออนุมัติหมายจับ ส่วนกรณีล่อซื้อไม่ต้องใช้หมาย เนื่องจากเป็นเหตุเฉพาะหน้า และการจับกุมผู้ต้องหาแต่ละครั้ง เมื่อไปจับในท้องที่ไหน ต้องส่งท้องที่นั้นดำเนินการ โดยในการออกทำงานจะมีชุดละ 12 คน และจะต้องมีนายตำรวจสัญญาบัตรไปด้วย
“ผมเคยเป็นหนึ่งในชุดจับกุมมาก่อน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะทำงานฝ่ายอำนวยการ ชุดจับกุมต้องใช้คนที่หนุ่มกว่า แข็งแรงกว่า โดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่า เพื่อนจะทำถึงขนาดที่เป็นข่าว โดยเฉพาะเรื่องไปใช้ไฟฟ้าช็อต ไม่เชื่อแน่นอน และไม่เคยได้ยิน แต่ยอมรับว่า การจับกุมตัวต้องมีการถึงเนื้อถึงตัวกันบ้าง ผมขอถามว่า เงินเดือน ตชด.แค่หลักหมื่น จะไปเอายาบ้าเป็นร้อยๆเม็ดในราคาหลักแสนมาจากไหน” จ.ส.ต.บำรุง กล่าว
จ.ส.ต.บำรุง กล่าวต่อว่า การจับกุมยาเสพติดแต่ละครั้ง ต้องขยายผลไปเรื่อยๆ ทีละเม็ด 2 เม็ด จนถึงเป็นร้อยเม็ด ไม่ใช่รู้ตัวแล้วจะเดินไปจับได้เลย ที่สำคัญ คนจับกุมจะต้องได้รับการพิจารณาจาก ผกก.และต้องแม่นยำในข้อกฏหมาย เพื่อทำการป้องกันตัวในเบื้องต้น เนื่องจากอาจถูกผู้ต้องหาฟ้องกลับได้ ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องถูกฟ้องมาก แต่ครั้งนี้ถือว่าแรงที่สุด เพราะมีเรื่องออกไปตามสื่อด้วย ตนได้พบกับ จ.ส.ต.สุวิทย์ สุทวิ ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด โดยเรียนมาด้วยกัน จ.ส.ต.สุวิทย์ ยังเคยพูดให้ฟังว่า ทำงานรับใช้ สตช.มานาน ไม่คิดว่า จะได้รับผลตอบแทนด้วยการถูกออกหมายจับเช่นนี้
ต่อมา ตชด.ทั้ง 5 คน ได้ออกมาจากห้อง และถูกนำตัวขึ้นรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮจ-2858 กทม.เดินทางไปยัง สน.เพชรเกษม เพื่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ผอบ รุ่งนาไร่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม โดยมี พ.ต.ท.สมเกียรติ เริงหิรัญ รอง ผกก.สส. ร่วมสอบปากคำ ตชด.ทั้ง 5 นายด้วย
ภายหลังนำ ตชด.ทั้ง 5 นาย เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว นายสุรินทร์ กล่าวอีกครั้งว่า ขอยืนยันว่า ทั้งหมดมามอบตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ทั้งหมดรู้สึกงุนงง เพราะมีหมายเรียกทั้ง 5 คน เมื่อวันที่ 8 ก.พ.แต่กลับมีการออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ซึ่งออกหมายจับก่อนหมายเรียก ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตชด.ทั้ง 5 นาย เคยทำงานร่วมกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ จริง แต่เป็นการทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจ ตชด.ทั้ง 5 นาย มีบัตรประจำตัวปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ นายสุรินทร์ กล่าวว่า มีเพียง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ คนเดียวเท่านั้นที่มีบัตรดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทุกคนรู้สึกตกใจ ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังอยู่ในละแวก กก.ตชด. 42 แต่มีแยกย้ายไปหาญาติ โดยไม่ใช้โทรศัพท์มือถือกันบ้าง
นายสุรินทร์ กล่าวยอมรับว่า ตชด.ทั้ง 5 นายนั้น มีการร่วมจับกุมนางจุฑาพรจริง แต่เรื่องทำร้ายร่างกาย เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด และ ตชด.ทั้ง 5 นายขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ ไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์ หรือการยื่นขอประกันตัวมา เนื่องจากตั้งใจจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ โดยมีอำนาจควบคุมตัว 48 ชม.เพื่อนำตัวไปส่งศาล และจะไปยื่นเรื่องของประกันที่ศาล โดยจะสอบถามศาลว่า จะต้องใช้หลักทรัพย์เท่าไหร่ต่อไป
ต่อมาเวลา 13.30 น.พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น.เดินทางมายัง สน.เพชรเกษม เพื่อฟังรายงานผลสรุปการสอบปากคำ ตชด.ทั้ง 5 นาย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.ต.ต.วัจนนท์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาตชด.ทั้ง 5 นาย ในส่วนของสน.เพชรเกษม ที่ได้มีการติดตามจับกุมตัว รวมทั้งประสานกับผู้บังคับบัญชา ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากทั้งหมดได้เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการกล่าวอ้างว่า คำสั่งของ ผกก.นั้น ถ้าคำให้การของผู้ต้องหาเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็ต้องติดตามตัวมาสอบปากคำทั้งหมด
พล.ต.ต.วัจนนท์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามขั้นตอน รวบรวมพยานหลักฐาน และนำเรื่องส่งสตช.ภายใน 1-2 วัน โดยหลังจากนั้นทาง สตช.จะรวบรวมเรื่องทั้งหมดทั้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.น.และภูธร ส่งให้ปปช.ดำเนินการในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไป ฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันอย่างช้าในวันพุธนี้ (20 ก.พ.)
พล.ต.ต.วัจนนท์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เป็น ตชด.ในท้องที่ สน.บางพลัด ซึ่งยังหลบหนีอยู่อีก 5 นาย นั้น การติดตามจับกุมตัวก็จะใช้วิธีการเดียวกัน คือติดต่อไปยังต้นสังกัด รวมทั้งติดต่อขอความร่วมมือจากญาติพี่น้อง อยากให้กรณีของ สน.เพชรเกษม เป็นตัวอย่างของผู้ต้องหาที่เหลืออยู่คิดได้ และแสดงความเป็นลูกผู้ชายเข้ามามอบตัวเพื่อสู้คดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า จะมีการติดต่อของเข้ามอบตัวแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า น่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศ
สำหรับคดีในพื้นที่ของบช.น.นั้น ขณะนี้มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ทั้งหมดรวม 10 คดี แบ่งเป็นของท้องที่ สน.บางพลัด 2 คดี สน.พญาไท 3 คดี สน.ปทุมวัน 2 คดี สน.เพชรเกษม สน.บางเขน และสน.วังทองหลาง โรงพักละ 1 คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เวลา 08.00 น. วันเดียวกัน นางจุฑาพร นุ่นรอด ผู้เสียหายในคดีนี้ พร้อมนายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความเดินทางมาที่สน.เพชรเกษม เพื่อชี้ตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ เกื้อกูล ผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้น พ.ต.ท.ผอบ รุ่งนาไร่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม ได้เตรียมสถานที่โดยใช้ห้องคุมขัง จากนั้นได้นำตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ มายืนปะปนกับชายฉกรรจ์รายอื่นรวม 6 คน โดยครั้งแรกยืนที่ลำดับ 3 ส่วนครั้งที่ 2 มีการเปลี่ยนเสื้อ และสลับมายืนที่ตำแหน่งที่ 6 จากซ้ายมือ ซึ่งนางจุฑาพร ก็สามารถชี้ตัวได้อย่างแม่นยำทั้งสองครั้ง จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ ลงบันทึกประจำวัน ก่อนคุมตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัวต่อไป
นางจุฑาพร เปิดเผยสั้นๆว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกเครียดมาก กลัวจะถูกทำร้าย ซึ่งตนได้ทำเรื่องติดต่อสำนักคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ เพื่อเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยาน แต่ก็ยังไม่มีการส่งตัวเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองแต่อย่างใด แต่ก็รู้สึกสบายใจได้ เมื่อมีข่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพื่อเข้าไปต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดน (บช.ตชด.) นายสุรินทร์ สุกเกื้อ ทนายความ และ นายจารึก อินรินทร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชากรไทย นำตัว จ.ส.ต.สุวิทย์ สุทวิ จ.ส.ต.รังสิมันต์ สุขแก้ว จ.ส.ต.นิรันดร์ แต้มช่วย ส.ต.อ.อธิศักดิ์ พลสวัสดิ์ และ ส.ต.อ.พนัง ดวงกมล ตชด.สังกัด กก.ตชด.42 ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น กรณี นางจุฑาพร รอดนุ่น ซึ่งขณะนั้นตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน และถูกจองจำจนไปคลอดบุตรในเรือนจำ โดย ตชด.ทั้ง 5 นาย เข้ารายงานตัวที่ห้องสมาคมตำรวจตระเวณชายแดนแห่งประเทศไทย ภายใน บช.ตชด.
นายสุรินทร์ กล่าวก่อนจะพา ตชด.ทั้ง 5 คนเข้ารายงานตัวว่า ในวันนี้ ตชด.ทั้ง 5 นาย มายืนยันถึงความบริสุทธิ์ว่า ไม่เคยใช้ไฟฟ้าช็อต นางจุฑาพร และหลังเกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ทุกคนยังอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ที่มามอบตัวช้า เพราะอยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์และหาทนายความมาต่อสู้คดี
นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ที่ต้องพา ตชด.ทั้ง 5 คนมามอบตัวที่ บช.ตชด.เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้นสังกัด และทั้งหมดขาดราชการไปหลายวัน โดยเพิ่งรวมตัวกันได้เมื่อ 2 วันก่อน คือ วันที่ 16 ก.พ.โดยมี นายจารึก เป็นผู้ประสานงาน จากนั้น ได้รวมตัวกันขับรถพามายัง กทม.ทั้งนี้ ตชด.ทั้ง 5 คน ขอให้การปฏิเสธทุกข้อหล่าวหา โดยขอยืนยันว่า ได้ทำตามคำสั่งของ พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.ตชด. 42
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นายสุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงตอนนี้ นายสุรินทร์ ได้นำหนังสือคำสั่งการปฏิบัติงานของ ตชด.ทั้ง 5 นาย มายืนยันด้วย
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ญาติพี่น้องและลูกเมียของ ตชด.ทั้ง 5 คน กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องย้ายออกจากห้องพักตามระเบียยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่า หากตำรวจรายใดถูกออกหมายจับ ต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมทั้งต้องถูกยึดห้องพักคืน
ขณะที่ จ.ส.ต.บำรุง ชลยิ่ง ผบ.หมู่ บก.ตชด.42 เพื่อนร่วมงานของ ตชด.ทั้ง 5 คน ที่เดินทางมาด้วยกล่าวว่า การทำงานของ ตชด.นั้น กว่าจะจับกุมเอเย่นต์ยาบ้าแต่ละราย ต้องใช้สายสืบ สืบเสาะมาก่อน จากนั้นจะนำข้อมูลมาแจ้งให้ชุดจับกุมทราบ เมื่อทราบตัวแล้ว จะทำการขออนุมัติหมายจับ ส่วนกรณีล่อซื้อไม่ต้องใช้หมาย เนื่องจากเป็นเหตุเฉพาะหน้า และการจับกุมผู้ต้องหาแต่ละครั้ง เมื่อไปจับในท้องที่ไหน ต้องส่งท้องที่นั้นดำเนินการ โดยในการออกทำงานจะมีชุดละ 12 คน และจะต้องมีนายตำรวจสัญญาบัตรไปด้วย
“ผมเคยเป็นหนึ่งในชุดจับกุมมาก่อน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะทำงานฝ่ายอำนวยการ ชุดจับกุมต้องใช้คนที่หนุ่มกว่า แข็งแรงกว่า โดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่า เพื่อนจะทำถึงขนาดที่เป็นข่าว โดยเฉพาะเรื่องไปใช้ไฟฟ้าช็อต ไม่เชื่อแน่นอน และไม่เคยได้ยิน แต่ยอมรับว่า การจับกุมตัวต้องมีการถึงเนื้อถึงตัวกันบ้าง ผมขอถามว่า เงินเดือน ตชด.แค่หลักหมื่น จะไปเอายาบ้าเป็นร้อยๆเม็ดในราคาหลักแสนมาจากไหน” จ.ส.ต.บำรุง กล่าว
จ.ส.ต.บำรุง กล่าวต่อว่า การจับกุมยาเสพติดแต่ละครั้ง ต้องขยายผลไปเรื่อยๆ ทีละเม็ด 2 เม็ด จนถึงเป็นร้อยเม็ด ไม่ใช่รู้ตัวแล้วจะเดินไปจับได้เลย ที่สำคัญ คนจับกุมจะต้องได้รับการพิจารณาจาก ผกก.และต้องแม่นยำในข้อกฏหมาย เพื่อทำการป้องกันตัวในเบื้องต้น เนื่องจากอาจถูกผู้ต้องหาฟ้องกลับได้ ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องถูกฟ้องมาก แต่ครั้งนี้ถือว่าแรงที่สุด เพราะมีเรื่องออกไปตามสื่อด้วย ตนได้พบกับ จ.ส.ต.สุวิทย์ สุทวิ ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด โดยเรียนมาด้วยกัน จ.ส.ต.สุวิทย์ ยังเคยพูดให้ฟังว่า ทำงานรับใช้ สตช.มานาน ไม่คิดว่า จะได้รับผลตอบแทนด้วยการถูกออกหมายจับเช่นนี้
ต่อมา ตชด.ทั้ง 5 คน ได้ออกมาจากห้อง และถูกนำตัวขึ้นรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮจ-2858 กทม.เดินทางไปยัง สน.เพชรเกษม เพื่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ผอบ รุ่งนาไร่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม โดยมี พ.ต.ท.สมเกียรติ เริงหิรัญ รอง ผกก.สส. ร่วมสอบปากคำ ตชด.ทั้ง 5 นายด้วย
ภายหลังนำ ตชด.ทั้ง 5 นาย เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว นายสุรินทร์ กล่าวอีกครั้งว่า ขอยืนยันว่า ทั้งหมดมามอบตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ทั้งหมดรู้สึกงุนงง เพราะมีหมายเรียกทั้ง 5 คน เมื่อวันที่ 8 ก.พ.แต่กลับมีการออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ซึ่งออกหมายจับก่อนหมายเรียก ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตชด.ทั้ง 5 นาย เคยทำงานร่วมกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ จริง แต่เป็นการทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจ ตชด.ทั้ง 5 นาย มีบัตรประจำตัวปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ นายสุรินทร์ กล่าวว่า มีเพียง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ คนเดียวเท่านั้นที่มีบัตรดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทุกคนรู้สึกตกใจ ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังอยู่ในละแวก กก.ตชด. 42 แต่มีแยกย้ายไปหาญาติ โดยไม่ใช้โทรศัพท์มือถือกันบ้าง
นายสุรินทร์ กล่าวยอมรับว่า ตชด.ทั้ง 5 นายนั้น มีการร่วมจับกุมนางจุฑาพรจริง แต่เรื่องทำร้ายร่างกาย เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด และ ตชด.ทั้ง 5 นายขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ ไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์ หรือการยื่นขอประกันตัวมา เนื่องจากตั้งใจจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ โดยมีอำนาจควบคุมตัว 48 ชม.เพื่อนำตัวไปส่งศาล และจะไปยื่นเรื่องของประกันที่ศาล โดยจะสอบถามศาลว่า จะต้องใช้หลักทรัพย์เท่าไหร่ต่อไป
ต่อมาเวลา 13.30 น.พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น.เดินทางมายัง สน.เพชรเกษม เพื่อฟังรายงานผลสรุปการสอบปากคำ ตชด.ทั้ง 5 นาย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.ต.ต.วัจนนท์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาตชด.ทั้ง 5 นาย ในส่วนของสน.เพชรเกษม ที่ได้มีการติดตามจับกุมตัว รวมทั้งประสานกับผู้บังคับบัญชา ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากทั้งหมดได้เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการกล่าวอ้างว่า คำสั่งของ ผกก.นั้น ถ้าคำให้การของผู้ต้องหาเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็ต้องติดตามตัวมาสอบปากคำทั้งหมด
พล.ต.ต.วัจนนท์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามขั้นตอน รวบรวมพยานหลักฐาน และนำเรื่องส่งสตช.ภายใน 1-2 วัน โดยหลังจากนั้นทาง สตช.จะรวบรวมเรื่องทั้งหมดทั้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.น.และภูธร ส่งให้ปปช.ดำเนินการในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไป ฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันอย่างช้าในวันพุธนี้ (20 ก.พ.)
พล.ต.ต.วัจนนท์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เป็น ตชด.ในท้องที่ สน.บางพลัด ซึ่งยังหลบหนีอยู่อีก 5 นาย นั้น การติดตามจับกุมตัวก็จะใช้วิธีการเดียวกัน คือติดต่อไปยังต้นสังกัด รวมทั้งติดต่อขอความร่วมมือจากญาติพี่น้อง อยากให้กรณีของ สน.เพชรเกษม เป็นตัวอย่างของผู้ต้องหาที่เหลืออยู่คิดได้ และแสดงความเป็นลูกผู้ชายเข้ามามอบตัวเพื่อสู้คดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า จะมีการติดต่อของเข้ามอบตัวแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า น่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศ
สำหรับคดีในพื้นที่ของบช.น.นั้น ขณะนี้มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ทั้งหมดรวม 10 คดี แบ่งเป็นของท้องที่ สน.บางพลัด 2 คดี สน.พญาไท 3 คดี สน.ปทุมวัน 2 คดี สน.เพชรเกษม สน.บางเขน และสน.วังทองหลาง โรงพักละ 1 คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เวลา 08.00 น. วันเดียวกัน นางจุฑาพร นุ่นรอด ผู้เสียหายในคดีนี้ พร้อมนายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความเดินทางมาที่สน.เพชรเกษม เพื่อชี้ตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ เกื้อกูล ผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้น พ.ต.ท.ผอบ รุ่งนาไร่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม ได้เตรียมสถานที่โดยใช้ห้องคุมขัง จากนั้นได้นำตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ มายืนปะปนกับชายฉกรรจ์รายอื่นรวม 6 คน โดยครั้งแรกยืนที่ลำดับ 3 ส่วนครั้งที่ 2 มีการเปลี่ยนเสื้อ และสลับมายืนที่ตำแหน่งที่ 6 จากซ้ายมือ ซึ่งนางจุฑาพร ก็สามารถชี้ตัวได้อย่างแม่นยำทั้งสองครั้ง จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ ลงบันทึกประจำวัน ก่อนคุมตัว จ.ส.ต.วุฒิศักดิ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัวต่อไป
นางจุฑาพร เปิดเผยสั้นๆว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกเครียดมาก กลัวจะถูกทำร้าย ซึ่งตนได้ทำเรื่องติดต่อสำนักคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ เพื่อเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยาน แต่ก็ยังไม่มีการส่งตัวเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองแต่อย่างใด แต่ก็รู้สึกสบายใจได้ เมื่อมีข่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพื่อเข้าไปต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม