ตชด.ปฏิเสธอุ้มรีด-อัยการอุทธรณ์คดีเหยื่อท้องต่อ

ตชด.ที่ร่วมแก๊งผู้กองณัฏฐ์ ให้การปฏิเสธ แม้จะถูกผู้ต้องหา ชี้ตัวถูกถึง 2 ครั้ง ระบุ จะไปขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น โดยเหยื่อจำได้แม่นยำ เพราะเป็นคนขับรถไปถึงหนองคาย ขณะที่อัยการ เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีสาวท้องถูกยัดยาบ้าจากแก๊งตชด.อีก หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.ตชด.42 คุมตัว ด.ต.สถาพร ขาวศิริ อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดตลิ่งชันเลขที่ 231/2551 ลงวันที่ 3 ก.พ.2551 ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดย ด.ต.สถาพร เป็น 1 ใน 8 ตำรวจ ตชด.42 ที่ก่อเหตอุ้มและยัดยาบ้านางจุฑาพร นุ่นรอด อายุ 34 ปี ตั้งท้อง 2 เดือน เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ผะอบ รุ่งนาไร่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) โดยมี พ.ต.อ.อนุชา อ่วมเจริญ ผกก.สน.เพชรเกษม ร่วมทำการสอบปากคำ

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ด.ต.สถาพร ให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นางจุฑาพร นุ่นรอด พร้อมด้วย นายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความ เดินทางมาชี้ตัวยืนยันที่ สน.เพชรเกษม โดยทำการชี้ตัว 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ยืนรวมกับชายฉกรรจ์อีก 4 คน โดย ด.ต.สถาพร ยืนอยู่ตำแหน่งที่ 4 จากซ้าย และครั้งที่สองให้เปลี่ยนชุด พร้อมสลับตำแหน่งไปยืนที่ 2 จากซ้าย ซึ่งทั้งสองครั้ง นางจุฑาพร ก็สามารถชี้ตัวยืนยันได้อย่างแม่นยำ

นางจุฑาพร เปิดเผยว่า จำหน้าของ ด.ต.สถาพร ได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากเคยชี้ภาพผู้ต้องหาจากภาพถ่ายมากแล้ว โดยด.ต.สถาพร เป็นคนขับรถให้ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ พาตนไปที่ จ.หนองคาย เพียงแต่ไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งนี้ ตนขอให้ ตชด.อีก 6 นาย ที่หลบหนีอยู่เข้ามามอบตัว เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ซึ่งไม่อยากให้ ตชด.ทั้ง 6 นาย กลัวคุก เพราะขนาดตนที่กำลังตั้งท้องอยู่ยังเคยเข้าไปอยู่มาแล้ว ส่วนช่วงนี้ตนก็ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ได้แต่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน

ด้าน นายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้รับฟังจากวิทยุท้องถิ่น อ.ทุ่งสง ว่า จะมีนักการเมืองท้องถิ่นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามามอบตัวเมื่อวันที่ 13 ก.พ.แต่ก็ไม่มา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพชรเกษมติดต่อไปว่า จะมีตำรวจ ตชด.เข้ามามอบตัวช่วงบ่ายวันนี้ จึงพา นางจุฑาพร มาชี้ตัวยืนยัน ส่วนความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ขณะนี้ได้รับการประสานว่าจะส่งเจ้าหน้าที่มีดูแลคุ้มครองลูกความของตนแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ถูกส่งมาเท่านั้น

นายขวัญชัย กล่าวต่อว่า ตนทราบว่า อัยการได้ยื่นอุทธรณ์ขอพิจารณคดีนี้ใหม่ เพียงแต่หมายศาลยังไม่ถูกส่งมา ซึ่งการอุทธรณ์นี้ทำให้ลูกความของตนต้องสู้คดีอีกครั้ง แต่ตนก็ยังเชื่อในความบริสุทธิ์ของลูกความ หากหมายศาลส่งมาเมื่อไหร่ ก็จะส่งคำร้องแก้คำอุทธรณ์ต่อไป และจะสู้คดีจนถึงวันฟังคำพิพากษา ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลา 2 ปี

ด้าน พ.ต.อ.อนุชา อ่อมเจริญ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า หลังรับมอบตัวก็ได้ให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พร้อมทำการสอบปากคำ พิม์ลายนิ้วมือ และเรียกผู้เสียหายมาชี้ตัว ส่วนผู้ต้องหาจะให้การหรือไม่นั้น ก็ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยในวันพรุ่งนี้ 09.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้น จะเสนอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ แต่พนักงานสอบสวนจะทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวไปก่อน

“สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน เชื่อว่า จะทยอยตามกันมามอบตัวภายหลัง แต่อย่างไรก็ตามทางสน.เพชรเกษม ได้ประสานกับ ตชด.42 อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งได้ประสานตคำรวจภูธรท้องที่ และ บก.น.9 จัดชุดสืบสวนร่วมกันติดตามกดดันผู้ต้องหาที่เหลือตามจุดต่างๆที่คาดว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีอยู่” ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.ตชด.42 กล่าวว่า ได้รับตัว ด.ต.สถาพร มาจาก อ.ทุ่งสง แลจะขอให้การในชั้นศาล ส่วน จ.ส.ต.จรูญ แก้วกูล อายุ 39 ปี ที่ยิงตัวตายไปนั้น ปกติแล้วเป็นคนตั้งใจทำงาน แต่เป็นคนจิตใจอ่อนไหว ส่วนลูกน้องอีก 6 คนที่ยังไม่เข้ามามอบตัวนั้น ขณะนี้ทราบว่า เดินทางมาหลบอยู่ตามปริมณฑลแล้ว แต่ยังไม่พร้อมเข้ามามอบตัวเพราะติดเรื่องการเตรียมหลักฐานและหาที่ปรึกษาทางคดีอยู่

พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงว่า คดีนี้กับคดีของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ในพื้นที่อื่นๆ นั้นไม่เหมือนกัน โดยลูกน้องของตนเองปฏิบัติตามหน้าที่ทีได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา มีการแบ่งหน้าที่กันทำตามยุทธวิธิการปฏิบัติ ซึ่งตนขอยืนยันว่าลูกน้องของตนมีวินัย ผู้บังคับบัญชาสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตามแบบนั้น