แก๊ง ตชด.กราบตีนขอโทษเหยื่อในคุก-ปอดแหกไม่กล้าเดิน!

เหยื่อแก๊ง ตชด.โหดโผล่อีก เพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา แฉเจอแก๊ง ตชด.ในคุกจึงเข้าไปสอบถามว่าทำกับคนอื่นไว้มากเป็นอย่างไรบ้าง หนึ่งใน ตชด.โหดถึงกับก้มกราบเท้าขอโทษ แถมไม่กล้าเดินเหินไปไหน ต้องช่วยหาหมอนมาให้หนุนนอน ระบุถูกช็อตไข่ เตะ ต่อย ตบหน้าสารพัดบังคับให้สารภาพ และเรียกเงินเรือนแสน พร้อมขอไถ่บาปจะช่วยเป็นพยานในคดีให้

วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.บางพลัด นายจักวัน หรือวิน อ่อนสมา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 677/29 หมู่ 8 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. และนายสุทธิชัย หรือบอย เปลี่ยนปรีชา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/7 หมู่ 7 ถนนพัฒนาการ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ประภาส หยงสตาร์ ร้อยเวร สน.บางพลัด เพื่อเข้าแจ้งความว่าถูกแก๊ง ตชด.ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ อุ้มไปยัดยาบ้า เรียกเงิน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2550 ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.

นายจักวันให้การว่า ในวันเวลาดังกล่าว ขณะที่พักอยู่ในห้องเลขที่ 201 พัฒนาการคอนโดมิเนียม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. มีตำรวจชุดของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ รวมประมาณ 20 คนมาเคาะห้อง เมื่อเปิดประตูออกมาพบว่ามีผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ถูกจับมาก่อนแต่ไม่เคยรู้จักและไม่รู้ว่าเป็นใครชี้มาที่ตน พร้อมกับบอกว่า “คนนี้” ตำรวจจึงผลักตนเข้ามาในห้อง และสั่งให้นั่ง จากนั้นพากันรื้อค้นข้าวของในห้องจนกระจุยกระจาย จากนั้นตนก็เห็นยาบ้าวางอยู่บนเตียง ภายหลังทราบว่ามีถึง 138 เม็ด ตำรวจชุดดังกล่าวจึงถามขึ้นว่าของใคร พร้อมทั้งบังคับให้รับสารภาพ ซึ่งตนได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบเป็นของใคร จังหวะนั้นเอง นายสุทธิชัย เพื่อนร่วมห้องกลับจากซื้อของขึ้นมาที่ห้อง และพบ ตชด.ชุดดังกล่าว จึงถูกจับกุมให้นั่งที่พื้นด้วย จากนั้นตนทั้ง 2 คนก็ถูกซ้อมทั้งเตะ ต่อย และตบหน้า พร้อมบังคับให้รับสารภาพ เมื่อตนและนายสุทธิชัยไม่ยอมรับสารภาพ แก๊ง ตชด.จึงเอาผ้าดำมาคลุมหัวและหิ้วตัวขึ้นรถไป มารู้ภายหลังว่าถูกจับมายังห้องพักที่อารีย์เรสซิเดนท์ ในซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 โดยขณะที่ถูกคุมตัวอยู่ที่อารีย์เรสซิเดนท์ ถูกทรมานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช็อตไข่ สลับกับการเตะต่อยเป็นพักๆ และบังคับให้รับสารภาพ และขณะนั้นได้เหลือบไปเห็นในห้องว่ามีหญิงสาวประมาณ 5 คน เหมือนมาจัดปาร์ตี้ยาเสพติดกันในห้อง

“พวกผมถูกขังและถูกซ้อมอยู่จนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม โดยระหว่างนั้น แก๊งร.ต.อ.ณัฏฐ์ ขู่บังคับเรียกเงิน 1 แสนบาท เมื่อผมบอกว่าไม่มี จึงถูกปลดนาฬิกามูลค่าประมาณ 8,000 บาท กับเงินสดที่ติดตัวอยู่อีก 800 บาท โดยแก๊ง ตชด.บอกว่าขอนะ จากนั้นจึงถูกนำตัวส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และแก๊ง ตชด.ยังขู่บังคับอีกว่ารู้ใช่ไหมว่าต้องพูดอะไร เพราะในนี้เพื่อนกูทั้งนั้น” นายจักวันให้การ

นายจักวันให้การต่อว่า เมื่อถูกนำตัวส่ง บช.ปส.แล้ว ถูกนำไปฝากขังยังเรือนจำพิเศษธนบุรี หรือเรือนจำบางบอน ระหว่างนั้นได้ดูข่าวอยู่ในเรือนจำ เห็นชุด ตชด.ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ถูกจับก็จำได้ จนกระทั่งทั้งหมดถูกนำมาฝากขังที่เรือนจำบางบอน ตอนแรกทั้งหมด 8 คนอยู่ที่แดน 6 และถูกย้ายไปอยู่แดน 2 ก่อนที่ทั้ง 8 คนจะถูกแยกไปแดนละ 2 คน โดยมาตกที่แดนตน 2 คน จำได้คือ ส.ต.ท.เนรมิต จตุมิตร ส่วนอีกคนเป็นจ่าจำชื่อไม่ได้ (จ.ส.ต.ชวลิต สุมล)

“เมื่อทั้ง 2 คนมาถึงที่แดนผมอยู่ พวกผมได้เข้าไปถามว่า พี่...จำพวกผมได้ไหม เป็นอย่างไรบ้าง ทำกับคนอื่นไว้เยอะ ปรากฏว่า ส.ต.อ.เนรมิต ร้องไห้ และก้มลงกราบเท้าขอโทษผม โดยบอกว่าจะพยายามช่วยเรื่องคดีของผม เมื่อผมสอบถามถึงสาเหตุที่ถูกจับ ส.ต.ท.เนรมิต เล่าให้ฟังว่าที่ถูกจับเพราะไปอุ้มนางเพียรจิต และเรียกเงินไป 8 ล้าน โดยผู้กองณัฏฐ์เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เมื่อได้เงินมาผู้กองเก็บไว้กับตัวเอง 3 ล้านกว่า จากนั้นแบ่งให้ลูกน้องในทีมทุกคนๆ ละ 4 แสน ตลอดเวลาที่เห็นตำรวจทั้ง 2 นายอยู่ในแดนผม ผมสังเกตว่าทั้ง 2 คนมีความกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะลุกเดินไปไหน สุดท้ายผมต้องไปช่วยหาหมอนมาให้หนุนนอน” นายจักวันกล่าว

เหยื่อแก๊ง ตชด.รายนี้ให้การต่อว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2551 ก่อนที่แก๊ง ตชด.แก๊งนี้จะถูกจับกุม ตนได้เขียนหนังสือด้วยลายมือร้องเรียนไปยัง ผบช.ปส.ผ่าน ผบ.เรือนจำ แต่เรื่องไม่ผ่าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ได้รับการประกันตัวออกมา โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท ในวันนี้ จึงเดินทางมาแจ้งความพร้อมทนายความดังกล่าว

ด้าน นายบุรินทร์ สมันตรัฐ ทนายความ กล่าวว่า หลังจากลูกความถูกจับกุม ลูกความทั้ง 2 คน ได้แต่งตั้งตนเป็นทนายความ และเขียนเรื่องร้องขอความเป็นธรรมผ่านเรือนจำ ตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องที่แก๊ง ตชด.ถูกจับกุมได้ แต่หนังสือเดินทางช้า จนกระทั่งได้มาประกันตัวจึงพามาแจ้งความ อีกทั้งเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาตนได้ไปแจ้งที่ สน.บางขุนเทียน แล้ว โดยมี พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ.2) เป็นผู้รับแจ้งความไว้

หลังทราบเรื่อง ร.ต.ท.ประภาส ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะแนะนำให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางขุนเทียน ซึ่งเป็นท้องที่ที่เเกิดเหตุอีกครั้ง