xs
xsm
sm
md
lg

สตช.ต้องเร่งจัดการทั้ง"ความวัว-ความควาย"!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


จารบุรุษ

วามวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทนที่ ความวัวที่ว่า ก็เปรียบได้ดังแก๊งตชด.โหด อุ้มเหยื่อไปรีดเงิน ซ้อม ยัดยาบ้า และตบทรัพย์ โดยทำกันเป็นขบวนการ เป็นที่น่าตกอกตกใจ มีประชาชนทั้งบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อมากมาย รวมทั้งมีตำรวจในสังกัดตชด.ตกเป็นผู้ต้องหา มีรายชื่อยาวเป็นหางว่าว

ส่วนความควายนั่นเล่า ก็เพิ่งโผล่และแพลมออกมาให้เริ่มได้เห็นกันบ้างแล้ว กับคดีแชร์รถเช่า หะแรก ก็นึกว่าคงเป็นแก๊ง 18 มงกุฏ แก๊งมิจฉาชีพทั่วไป ทว่า ความแดงขึ้นมาได้เพียงวันสองวัน ดันมีชื่อตำรวจ แถมยังมีระดับเป็นถึง"พ.ต.ท." ในสังกัด กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี หรือบก.ปศท. เข้าไปเกี่ยวข้อง แม้จะยังไม่มีชื่อโผล่ออกมาก็ตาม แต่คำกล่าวอ้างของ"เดอะวิน" พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. นั้น ย่อมมีน้ำหนักไม่เบาเลยทีเดียว และยังเชื่อมั่นว่า น่าจะมีสีกากีนอกแถวเข้าร่วมขบวนการด้วยไม่มากก็น้อย เพราะพ.ต.ท.ผู้เดียว คงทำอะไรมากไม่ได้นัก สองเหตุการณ์ที่ว่ามานี้ จึงผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สมกับคำพังเพยที่บอกกล่าวไว้ตอนต้น

คดีแชร์รถเช่า ที่ผู้ต้องหา หลอกล่อเหยื่อด้วยค่าเช่าเดือนละกว่า 3-4 หมื่นบาทนั้น ใครเจอใครพบก็ย่อมตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย เพราะผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาครั้งแรกๆค่อนข้างสูง คุ้มทุน แถมกำไรงาม แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียเงิน เสียรถ เสียเวลา และต้องเสียใจไปกับความโลภของตนเอง นอกจากนี้ ที่น่าเจ็บใจที่สุด กลับดันมี"ตำรวจ" เป็นผู้ร่วมในขบวนการต้มตุ๋นครั้งนี้ด้วย ที่สำคัญ ผู้เสียหาย หรือเหยื่อ หารู้ไม่ว่า ตำรวจที่ว่า ตามที่ผบช.น.ออกมาระบุว่า สัดกัด บก.ปศท. ที่พวกเขาแห่กันไปร้องเรียนในครั้งแรกกับ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผบก.ปศท. ซึ่งป่านนี้ยังไม่รู้ว่า ข้อมูลจะไปอยู่ในมือของพ.ต.ท.คนที่ว่าแล้วหรือไม่ โชคยังดีนิดหนึ่งที่ทางบช.น. ไปดำเนินการจับกุมได้ก่อน ที่ตำรวจบก.ปศท.จะเริ่มขยับทำงานเสียด้วยซ้ำ เรียกว่า "ตัดหน้า"กันเห็นๆ แต่เรื่องตัดหน้านี้ ทางบช.น.อาจจะมีข้อมูลเด็ดอยู่แล้วก็ได้

ความเจ็บช้ำน้ำใจของบรรดาเหยื่อยังไม่หมดไปเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อวันก่อน พวกเขา รวมตัวและเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจะขอเข้าร้องเรียนถึงการกระทำของมิจฉาชีพแก๊งนี้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. แต่ระหว่างนั้น หนึ่งในเเหยื่อ กำลังขับรถวนหาทที่จอด พลันสายตาเหลือบไปเห็นรถตู้โตโยต้า คอมมูเตอร์ หมายเลขทะเบียน ฮค 6064 กทม. ที่เขาจำได้แม่นยำว่า เป็นรถตู้ของตนเองที่ให้บริษัทของแก๊งมิจฉาชีพเช่าไป และต้องเจ็บกระดองใจซ้ำอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครรู้ว่า รถตู้คันนั้น ไปจอดอยู่ภายในลานจอดรถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อย่างไร ปัจจุบัน รู้เพียงว่า"สมชาย"เป็นคนขับไปจอดเท่านั้น แต่ในรถตู้ มีเครื่องแบบตำรวจและเอกสารที่มีรายชื่อและแผนที่ โดยบนแผนที่เขียนชื่อ ส.ต.อ.มนตรี เทวรัตน์ ผบ.หมู่กองกำกับการ 3 ผก.ส.3 และเบอร์โทรศัพท์ของคนชื่อแหม่ม ซึ่งส.ต.อ.มนตรีรับว่า มีผู้นำกุญแจรถมาฝากไว้ที่กองรักษาการณ์ขณะเข้าเวร

เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องเชิญปรมาจารย์นักสืบระดับ"เชอร์ล็อก โฮม"มาสืบสาวราวเรื่องก็ได้ เมื่อประมวลภาพของสถานการณ์ ตั้งแต่เรื่องรถตู้ เรื่องส.ต.อ.มนตรี และการออกมาเปิดเผยว่ามีพ.ต.ท. เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะล้างบางตำรวจนอกแถวให้พ้นไปจากวงการสีกากีได้อีกไม่มากก็น้อย

จะเป็น"ความวัว หรือความควาย"ก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีสิทธิ์ที่ใช้เป็นข้ออ้างในลักษณะพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ในทางตรงกันข้าม จะต้องเร่งกำจัดความวัว ความควายให้กระจ่าางและโปร่งใส ไม่ใช้ความั่ว นำศรัทธาประชาชนกลับคืนมาสู่ความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้เร็วที่สุด! 

กำลังโหลดความคิดเห็น