“เสรีพิศุทธ์” ยิ้มกริ่ม โครงสร้างตำรวจแผน 5 ปี ผ่าน ครม.เตรียมเข้าสู่กฤษฎีกาเพื่อพิจารณาข้อความต่างๆ ก่อนนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ เชื่อ เป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่ตั้งกรมตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นมา
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เปิดเผยหลังการประชุมบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) อนุมัติให้ใช้แผนพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5 ปี และอนุมัติให้การรับสมัครข้าราชการตำรวจ เป็นไปตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ คือ ต่อไปนี้การสอบคัดเลือกนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรให้คัดเลือกจากตำรวจชั้นประทวนที่จบปริญญาตรีเท่านั้นจะไม่รับบุคคลภายนอก ส่วนบุคคลภายนอกที่มีวุฒิปริญญาตรี จะรับสมัครเข้ามาเป็นตำรวจยศ ส.ต.ต.แต่ว่าให้เงินเดือนตามวุฒิ ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปที่จบปริญญาตรี เข้ามารับราชการตำรวจ และจะมีหมายเหตุว่าเมื่อเข้ามาเป็นตำรวจแล้ว สามารถเข้ารับการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้ทันที โดยไม่ต้องรอครบกำหนดระยะเวลารับราชการเหมือนที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมให้ทราบว่า เมื่อวันอังคารที่ 22 ม.ค. คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติรับร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ เข้าสู่กฤษฎีกาเพื่อพิจารณาข้อความต่างๆ ในร่างก่อนนำความกราบบังคมทูล เมื่อโปรดเกล้าฯก็ประกาศใช้ได้ทันที จากนั้นก็จะทำกฎกระทรวงเพื่อกำหนดรายละเอียดต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่ตั้งกรมตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นมา เพื่อเป็นหลักให้ข้าราชการตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ผบ.ตร.กล่าวว่า ครม.ยังอนุมัติงบประมาณให้ปรับเกลี่ยงบประมาณปี 2551 ไว้ใช้ในการสร้างกองบัญชาการภาค 1-9 ตามที่เสนอขอกว่าพันล้านบาท เดิมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคจะอยู่ในตัวเมืองทั้งหมด ซึ่งคับแคบไม่สามารถบริหารงานให้มีประสิทธิภาพได้ เราจึงไปหาที่ดินซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากกรมธนารักษ์จำนวนตั้งแต่กว่า 200-900 ไร่ มาใช้เป็นสถานที่ตั้งของกองบัญชาการภาค ดังนั้น ภายในกองบัญชาการภาคจะมีทุกส่วนราชการอยู่ในภาค ซึ่งจะสามารถรวมบุคลากร เครื่องมือ ไปใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ไม่ใช่บอกว่ากระจายแต่ไม่มีอะไรสักอย่าง โดยตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นของสถานีตำรวจ และงบก่อสร้างอาคารถาวรของศูนย์ปฏิบัติการ ส่วนหน้า จ.ยะลา เนื่องจากเป็นหน่วยงานเฉพาะกิจไม่จำเป็นต้องสร้างเป็นอาคารถาวร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้อำนาจของ ผบ.ตร.ลดลงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะลดลงต่อเมื่อเราแก้ พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งครั้งที่แล้วตกไปแต่เรากำลังจะรีบแก้ไขใหม่ ดังนั้นเมื่อปรับปรุงตรงนี้พร้อม แล้วเรากระจายอำนาจ เขาจะได้ทำได้ แต่ถ้าเรากระจายอำนาจโดยที่เขายังไม่พร้อมก็ทำไม่ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวว่า ครม.อนุมัติอัตราเกษียณปีที่แล้ว 1,494 อัตรา ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ไปจัดสรรสอบรับตำรวจชั้นสัญญาบัตร และ ครม.อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ก.พ.และ ก.พ.ร.ศึกษาหลังอนุมัติอัตราตำรวจ 8,000 ตำแหน่ง แบ่งเป็นชั้นสัญญาบัตร 4,000 ตำแหน่ง และชั้นประทวน 4,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ได้ร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีลงนามต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าคงจะดำเนินการ เพราะเราต้องการให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรพัย์สินอย่างแท้จริง อย่างที่ตนได้ตั้งเป้าหมายว่าอาชญากรรมต้องเป็นศูนย์หรือลดลงให้ได้ เมื่อจะทำตามวัตถุประสงค์ก็ต้องการคน อุปกรณ์ มาให้ซึ่งรัฐก็ต้องตอบสนอง ไม่ใช่บอกว่าไม่มี ไม่ไปหาเงินมา