xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มคลั่งรัก! ยิงพีอาร์ รพ.วิชัยยุทธ ดับ ก่อนเป่าตัวเองตายตาม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

หนุ่มสมุทรสาคร โหด ควง .38 เคลียร์ปัญหารักร้าวกับสาวประชาสัมพันธ์ รพ.วิชัยยุทธ ตกลงกันไม่ได้ รัว 4 นัดใส่ดับคาที่ ก่อนหนีความผิดยิงตัวเองตายตาม พ่อฝ่ายหญิง เผย ลูกสาวพยายามตีตัวออกห่าง หลังรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว ตร.เชื่อตกลงเคลียร์ปัญหากันไม่ได้

วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.พ.ต.ต.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและยิงกันมีผู้เสียชีวิต ภายในโรงพยาบาลวิชัยยุทธ (ฝั่งใต้) ซอยเศรษฐศิริ ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเก่าของโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ซึ่งปิดทำการตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังเปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพักอาศัยอยู่ บริเวณเคาน์เตอร์เวชระเบียนชั้น 1 ของอาคาร เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.สุชาดา ธีราพงษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/183 หมู่ 10 ซอยเอกชัย 10/1 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตบางขุนเทียน กทม.เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบลดังกล่าว สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงผ้าสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่แขนขวา 1 นัด หน้าท้อง 1 นัด ลำคอทะลุท้ายทอย 1 นัด และหน้าอกอีก 2 นัด ทะลุหลัง บริเวณใกล้กันเจ้าหน้าที่ยังพบศพ นายไชยนันท์ พุทกัน อายุ 26 ปี พนักงานดูแลสินค้า บริษัท ทาคูนิ ประเทศไทย จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 120/9 ม.1 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สภาพศพนอนตะแคงอยู่ใกล้กับศพของ น.ส.สุชาดา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่บริเวณขมับซ้ายทะลุขวา 1 นัด นอกจากนี้ ภายในกระเป๋าเสื้อของนายไชยนันท์ เจ้าหน้าที่พบจดหมาย 1 ฉบับ ซึ่งเขียนข้อความบริเวณด้านหน้า ว่า “ไม่ใช่จดหมายลาตายนะครับ เขียนเผื่อไว้เฉยๆ” แต่จดหมายฉบับดังกล่าวได้เปียกไปด้วยเลือด ทำให้ไม่สามารถอ่านข้อความได้ จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบ นอกจากนี้ บริเวณมือซ้ายพบปืนขนาด .38 ลูกโม่ตกอยู่ ตรวจสอบภายในรังเพลิงพบเพียงปลอกกระสุนเปล่า 6 ปลอก นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบหัวกระสุนปืนตกอยู่ 4 หัว

จากการสอบปากคำ นายธนวัฒน์ พรติโพธิ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่แผนกแม่บ้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวอยู่ และเห็น น.ส.สุชาดา ซึ่งเพิ่งออกจากเวรจากอาคารใหม่ของโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ขณะที่ น.ส.สุชาดา เดินมาถึงประตูด้านหน้าของอาคาร ก็พบกับ นายไชยนันท์ ที่ดักรออยู่ แต่เมื่อ น.ส.สุชาดา เห็น นายไชยนันท์ ก็มีท่าทีตื่นตกใจและรีบปิดประตู พร้อมบอกให้ รปภ.สกัด นายไชยนันท์ ห้ามเข้ามาในอาคาร แต่ นายไชยนันท์ ก็ได้วิ่งตามเข้ามา

นายธนวัฒน์ ให้การต่อว่า เมื่อ นายไชยนันท์ เดินเข้ามา น.ส.สุชาดา ก็วิ่งเข้าไปหลบหลังเคาน์เตอร์เวชระเบียน ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้น นายไชยนันท์ ก็ได้ชักปืนยิงใส่ น.ส.สุชาดา เมื่อตนเห็นดังนั้นก็ได้รีบวิ่งไปบอก รปภ.ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จังหวะนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด เมื่อวิ่งกลับเข้าไปดูก็พบว่าฝ่ายชายได้ยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว

ด้าน นายสนอง ธีราพงษ์ อายุ 53 ปี อาชีพค้าขายและเป็นบิดาของ น.ส.สุชาดา กล่าวว่า ลูกสาวได้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่หอพักของโรงพยาบาล ซึ่งปกติบุตรสาวจะโทรศัพท์กลับมาพูดคุยกับตนเป็นประจำ โดยล่าสุด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ลูกสาวก็ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งลูกสาวก็ไม่ได้เล่าว่ามีปัญหาอะไร สำหรับลูกสาวมีอุปนิสัยเป็นคนร่าเริง แจ่มใส ส่วน นายไชยนันท์ นั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร และมีความสัมพันธ์อย่างไรกับบุตรสาว แต่มาทราบจากเพื่อนของลูกสาวภายหลัง ว่า นายไชยนันท์ ได้มาชอบพออยู่กับลูกสาว ซึ่ง นายไชยนันท์ ก็มีครอบครัวอยู่แล้ว ต่อมาลูกสาวได้ทราบเรื่อง จึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกลาและพยายามขอคืนดี แต่ลูกสาวไม่ยินยอม จากนั้นฝ่ายชายได้ตามมาทะเลาะที่ทำงาน จนทำให้ลูกสาวถูกพักงานเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งลูกสาวพึ่งได้กลับมาทำงานได้ไม่นาน นอกจากนี้ เมื่อคืนในช่วงที่ลูกสาวเข้าเวร ทาง นายไชยนันท์ ก็ได้โทรศัพท์มาพูดคุยตลอดทั้งคืน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

ด้าน พ.ต.ต.เทพพิทักษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเพื่อนของผู้ตาย ทราบว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายทั้ง 2 คน เคยคบกันมา 1 ปี แต่ฝ่ายหญิงมาทราบภายหลังว่า ฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว จึงได้ขอเลิก แต่ฝ่ายชายพยายามขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงไม่ยืนยอม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบจดหมายในตัวของฝ่ายชาย โดยข้อความในจดหมายมีใจความว่า รักฝ่ายหญิงจริง แต่ฝ่ายหญิงไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อญาติและภรรยาของฝ่ายชาย เพื่อนำตัวมาสอบสวนต่อไป

ต่อมา นายธนศักดิ์ พุทกัน อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้างและเป็นบิดาของ นายไชยนันท์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท โดยได้ให้การว่า ตนไม่ทราบว่าบุตรชายเคยคบหากับ น.ส.สุชาดา ตั้งแต่เมื่อไร เนื่องจากก่อนหน้านี้บุตรชายไม่เคยเล่าให้ตนฟังเลย สำหรับบุตรชายเคยแต่งงานและมีภรรยา โดยได้มีลูกกับภรรยาคนนี้ด้วยกัน 2 คน แต่บุตรชายได้หย่าร้างกับภรรยาคนนี้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนลูก 2 คน บุตรชายก็ได้นำมาฝากให้ตนเลี้ยงและดูแล ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตนดูจดหมายเปื้อนเลือดที่พบในตัวบุตรชาย โดยตนยืนยันว่า เป็นลายมือบุตรชายจริง อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตในครั้งนี้ตนไม่ขอติดใจเอาความใดๆ ทั้งสิ้น






กำลังโหลดความคิดเห็น