ตร.สมุทรปราการ โชว์ผลงานจับเจ้าของโรงงานเม็ดพลาสติกตั้งแก๊งค้ายาบ้ากับพวก พร้อมของกลาง 3,400 เม็ด และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท อีกรายจับแก๊งยาเสพติดรายย่อยเร่ขายยานรกย่านลาดกระบัง รวบผู้ต้องหาได้กว่า 12 คน
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภจว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผกก.หน.กลุ่มงานสืบสวน ภจว.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการยาบ้ารายสำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ
โดยรายแรก ตำรวจชุดสืบสวน ภจว.สมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 นายวิสูตร ภักดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 2 นายมาโนช รัตนพันธุ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นเจ้าของโรงงานเม็ดพลาสติกอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และจ.ชลบุรี ผู้ต้องหารายที่ 3 คือ นายพรชัย แก้วสุนนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นอดีตเจ้าของปั๊มนำมันเชลล์ สาขา ถ.สายลวด ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 3,400 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน และได้อายัดทรัพย์สินจำนวน 7 รายการ มูลค่าจำนวน 2,095,000 บาท ประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีดำ ป้ายแดง 1 คัน 2.รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีเขียว 1 คัน 3.รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล 1 คัน 4.รถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน 5.สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ 6.โทรทัศน์สียี่ห้อโซนี่ ขนาด 47 นิ้ว 1 เครื่อง 7.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 3 เครื่อง
ทั้งนี้ นายวิสูตรผู้ต้องหารายแรกเป็นหัวหน้าแก๊ง และเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญของ จ.สมุทรปราการ ได้ค้ายาเสพติดมาตั้งแต่ พ.ศ.2543 เคยถูกตำรวจจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และฟอกเงิน ซึ่งได้วิ่งต่อสู้คดีหลุดในชั้นศาล แต่ก็ยังมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดแบบเดิมเรื่อยมา แต่สามารถหลบหนีการจับกุมมาได้ทุกครั้ง รวมทั้งคนในครอบครัวของนายวิสูตรได้มีพฤติกรรมค้ายาบ้าจำนวนหลายคน บางคนถูกจับในข้อหาฟอกเงิน บางคนติดคุก บางคนหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดอยู่ บางคนถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาค้ายาบ้า บางคนถูกฆ่าตัดตอน ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 คือ นายมาโนช ก็เป็นพี่เขยของผู้ต้องหาที่ 1 โดยได้ลงทุนในการค้ายาบ้าด้วยกัน และให้นายพรชัยผู้ต้องหาที่3 เป็นคนนำไปส่งให้กับผู้ค้ารายอื่นๆ อีกทอดหนึ่ง กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมทั้ง 3 คนได้ และดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย
รายที่ 2 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สามารถจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดที่ออกอาละวาดจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้ค้ารายย่อยในเขตลาดกระบัง โดยใช้พื้นที่ จ.สมุทรปราการ เป็นแหล่งพักยาเสพติด ซึ่งตำรวจได้ผู้ต้องหาจำนวน 8 คน ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 นายสมพร ทับพุ่ม อายุ25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาที่ 2 นายอุดม จุกกระแจะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302/179 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ผู้ต้องหาที่ 3 นายธนวัฒน์ สง่างาม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่27 ม.1 ต.บ้านม่วง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาที่4 น.ส.ต่าย ชมหอม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/ 63 ม.9 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 5-8 คือ นางสมควร หิรัญชาติ อายุ 50 ปี น.ส.สรัญญา หิรัญชาติ อายุ 27 ปี และนายกัษณภัค หิรัญชาติ อายุ 24 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 577 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
โดยผู้ต้องหาที่ 1-3 ตำรวจสมมารถจับกุมได้ขณะเข้าตรวจค้นห้องพักภายในแบริ่งแมนชั่น ซ.แบริ่ง 30 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และได้ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 230 เม็ด อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 14 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 8 นัด ต่อมาตำรวจได้ทำการสอบสวนขยายผลเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ 4-8 ได้ของกลางเป็นยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีเหลือง จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 365 กรัม ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีเหลือง จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 2 กรัม กัญชาแห้งบรรจุใส่ถุงจำนวน 32 ถุง และกัญชาอัดก้อนจำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก 136.76 กรัม และต่อมาตำรวจยังขยายผลเข้าจับกุมผู้เสพอีกจำนวน 12 คน และแยกดำเนินคดีตามความผิดต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภจว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผกก.หน.กลุ่มงานสืบสวน ภจว.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการยาบ้ารายสำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ
โดยรายแรก ตำรวจชุดสืบสวน ภจว.สมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 นายวิสูตร ภักดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 2 นายมาโนช รัตนพันธุ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นเจ้าของโรงงานเม็ดพลาสติกอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และจ.ชลบุรี ผู้ต้องหารายที่ 3 คือ นายพรชัย แก้วสุนนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.โรงวัว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นอดีตเจ้าของปั๊มนำมันเชลล์ สาขา ถ.สายลวด ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 3,400 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน และได้อายัดทรัพย์สินจำนวน 7 รายการ มูลค่าจำนวน 2,095,000 บาท ประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีดำ ป้ายแดง 1 คัน 2.รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีเขียว 1 คัน 3.รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล 1 คัน 4.รถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน 5.สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ 6.โทรทัศน์สียี่ห้อโซนี่ ขนาด 47 นิ้ว 1 เครื่อง 7.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 3 เครื่อง
ทั้งนี้ นายวิสูตรผู้ต้องหารายแรกเป็นหัวหน้าแก๊ง และเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญของ จ.สมุทรปราการ ได้ค้ายาเสพติดมาตั้งแต่ พ.ศ.2543 เคยถูกตำรวจจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และฟอกเงิน ซึ่งได้วิ่งต่อสู้คดีหลุดในชั้นศาล แต่ก็ยังมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดแบบเดิมเรื่อยมา แต่สามารถหลบหนีการจับกุมมาได้ทุกครั้ง รวมทั้งคนในครอบครัวของนายวิสูตรได้มีพฤติกรรมค้ายาบ้าจำนวนหลายคน บางคนถูกจับในข้อหาฟอกเงิน บางคนติดคุก บางคนหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดอยู่ บางคนถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาค้ายาบ้า บางคนถูกฆ่าตัดตอน ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 คือ นายมาโนช ก็เป็นพี่เขยของผู้ต้องหาที่ 1 โดยได้ลงทุนในการค้ายาบ้าด้วยกัน และให้นายพรชัยผู้ต้องหาที่3 เป็นคนนำไปส่งให้กับผู้ค้ารายอื่นๆ อีกทอดหนึ่ง กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมทั้ง 3 คนได้ และดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย
รายที่ 2 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สามารถจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดที่ออกอาละวาดจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้ค้ารายย่อยในเขตลาดกระบัง โดยใช้พื้นที่ จ.สมุทรปราการ เป็นแหล่งพักยาเสพติด ซึ่งตำรวจได้ผู้ต้องหาจำนวน 8 คน ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 นายสมพร ทับพุ่ม อายุ25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาที่ 2 นายอุดม จุกกระแจะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302/179 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ผู้ต้องหาที่ 3 นายธนวัฒน์ สง่างาม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่27 ม.1 ต.บ้านม่วง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาที่4 น.ส.ต่าย ชมหอม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/ 63 ม.9 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 5-8 คือ นางสมควร หิรัญชาติ อายุ 50 ปี น.ส.สรัญญา หิรัญชาติ อายุ 27 ปี และนายกัษณภัค หิรัญชาติ อายุ 24 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 577 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
โดยผู้ต้องหาที่ 1-3 ตำรวจสมมารถจับกุมได้ขณะเข้าตรวจค้นห้องพักภายในแบริ่งแมนชั่น ซ.แบริ่ง 30 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และได้ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 230 เม็ด อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 14 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 8 นัด ต่อมาตำรวจได้ทำการสอบสวนขยายผลเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ 4-8 ได้ของกลางเป็นยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีเหลือง จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 365 กรัม ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีเหลือง จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 2 กรัม กัญชาแห้งบรรจุใส่ถุงจำนวน 32 ถุง และกัญชาอัดก้อนจำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก 136.76 กรัม และต่อมาตำรวจยังขยายผลเข้าจับกุมผู้เสพอีกจำนวน 12 คน และแยกดำเนินคดีตามความผิดต่อไป