รวบสาววัยกระเตาะท้อง 5 เดือน ร่อนมอเตอร์ไซค์ส่งยาบ้า ยาอี ไอซ์ ให้นักเที่ยวราตรีย่านผับดังรัชดาฯ พระราม 9 รับทำแค่ 2 เดือนได้ค่าแรงกว่าแสนบาท ไม่สลดเงินที่ได้ยังนำไปเที่ยวเตร่ทั้งที่ท้องโต ก่อนโดนเจ้าหน้าที่ ตร.ล่อซื้อและขยายผลตรวจค้นห้องพักพบของกลางยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ยานรกอื่นๆ อีกเพียบ สารภาพสายตรงจากเรือนจำส่งลูกค้าตามออเดอร์
วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 พ.ต.อ.อาจิน จารุวร พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุพรศรี พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รองผบก.น.5 พ.ต.อ.ชวน ชิตประเสริฐ ผกก.กก.สส.น.5 แถลงการณ์จับกุม น.ส.อริสา หรือโม พานโถม อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 322 ซ.อินทามาระ 47 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ และนายนิคม หรืออั้ม บุญจันทร์ อายุ 18 ปี เลขที่ 115 หมู่บ้านนักกีฬา ถ.ศรีนครินทร์ แขวง/เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 มัด รวม 60,000 เม็ด ยาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาว 700 กรัม ยาอีชนิดกลมสีฟ้า 15 ถุง รวม 15,000 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนักยี่ห้อทานีต้า 1 เครื่อง รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ ทะเบียน กจ 9352 สมุทรปราการ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.5 สืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำยาเสพติดจำหน่ายแก่ผู้ค้ารายย่อย โดยทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 และนายเปิ้ล บุญแก้วสี สามี น.ส.อริสา เป็นผู้นำยาไปส่งแก่ลูกค้าจึงวางแผนล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 4 ถุง ในราคา 2 แสนบาทโดยนัดส่งมอบบริเวณริมถนนพระราม 9 ใกล้สี่แยก อสมท กระทั่งถึงเวลานัดส่งของ นายอั้ม และ น.ส.โมขี่จักรยานยนต์เพื่อนำของกลางมาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม
ผบก.น.5 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 404 บลูการ์เด้นท์อพาร์ทเม้นท์ ซ.รัชดาภิเษก 3 (ซอยชานเมือง 4) แขวงและเขตดินแดง กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของน.ส.โม พบยาไอซ์หนักครึ่งกิโลกรัม และยาอี 1,500 เม็ด และยังพบยาบ้าอีก 30 มัด มัดละ 2,000 เม็ด ในรถรถยนต์ฮอนดาแจ๊ซ ของผู้ต้องหา จึงรวบรวมของกลางพร้อมคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนพื้นที่เจ้าของคดีดำเนินการตามกฎหมาย และแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ยาอี ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายเปิ้ลที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมต่อไป
ด้าน น.ส.อริสา ให้การรับสารภาพว่า ตนเรียนหนังสือระดับ ปวช.ในโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านนนทบุรี แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ออกมา และได้รู้จักกับนายเปิ้ล อยู่ด้วยกันจนตั้งท้อง 5 เดือนและไม่มีงานทำ โดยนายเปิ้ลเป็นผู้ติดต่อกับนายตั้ม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง และเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรมให้ไปรับของกลางดังกล่าวจากนายต้อม และนางจอยไม่ทราบนามสกุล บริเวณกลางซอยพหลโยธิน 52 โดยใช้รถเบนซ์สีขาว จากนั้นจะนำของกลางมาเก็บไว้ที่ห้องพัก แล้วจะทยอยนำส่งให้ลูกค้าตามที่นายตั้มสั่งจากเรือนจำทางโทรศัพท์
น.ส.อริสา กล่าวต่อว่า หลังจากได้ของกลางมาตนจะนำของกลางมาแบ่งย่อยเพื่อนำส่งลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวตามย่านบันเทิงต่างๆ เช่น รัชดา พระราม 9 โดยให้นายนิคม หรืออั้ม ช่วยขี่จักรยานยนต์ไปส่ง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน ได้ค่าจ้างรวมประมาณ 100,000 บาท โดยเงินที่ได้มาตนและสามีจะนำไปเที่ยวเตร่
วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 พ.ต.อ.อาจิน จารุวร พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุพรศรี พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รองผบก.น.5 พ.ต.อ.ชวน ชิตประเสริฐ ผกก.กก.สส.น.5 แถลงการณ์จับกุม น.ส.อริสา หรือโม พานโถม อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 322 ซ.อินทามาระ 47 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ และนายนิคม หรืออั้ม บุญจันทร์ อายุ 18 ปี เลขที่ 115 หมู่บ้านนักกีฬา ถ.ศรีนครินทร์ แขวง/เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 มัด รวม 60,000 เม็ด ยาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาว 700 กรัม ยาอีชนิดกลมสีฟ้า 15 ถุง รวม 15,000 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนักยี่ห้อทานีต้า 1 เครื่อง รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ ทะเบียน กจ 9352 สมุทรปราการ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.5 สืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำยาเสพติดจำหน่ายแก่ผู้ค้ารายย่อย โดยทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 และนายเปิ้ล บุญแก้วสี สามี น.ส.อริสา เป็นผู้นำยาไปส่งแก่ลูกค้าจึงวางแผนล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 4 ถุง ในราคา 2 แสนบาทโดยนัดส่งมอบบริเวณริมถนนพระราม 9 ใกล้สี่แยก อสมท กระทั่งถึงเวลานัดส่งของ นายอั้ม และ น.ส.โมขี่จักรยานยนต์เพื่อนำของกลางมาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม
ผบก.น.5 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 404 บลูการ์เด้นท์อพาร์ทเม้นท์ ซ.รัชดาภิเษก 3 (ซอยชานเมือง 4) แขวงและเขตดินแดง กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของน.ส.โม พบยาไอซ์หนักครึ่งกิโลกรัม และยาอี 1,500 เม็ด และยังพบยาบ้าอีก 30 มัด มัดละ 2,000 เม็ด ในรถรถยนต์ฮอนดาแจ๊ซ ของผู้ต้องหา จึงรวบรวมของกลางพร้อมคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนพื้นที่เจ้าของคดีดำเนินการตามกฎหมาย และแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ยาอี ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายเปิ้ลที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมต่อไป
ด้าน น.ส.อริสา ให้การรับสารภาพว่า ตนเรียนหนังสือระดับ ปวช.ในโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านนนทบุรี แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ออกมา และได้รู้จักกับนายเปิ้ล อยู่ด้วยกันจนตั้งท้อง 5 เดือนและไม่มีงานทำ โดยนายเปิ้ลเป็นผู้ติดต่อกับนายตั้ม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง และเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรมให้ไปรับของกลางดังกล่าวจากนายต้อม และนางจอยไม่ทราบนามสกุล บริเวณกลางซอยพหลโยธิน 52 โดยใช้รถเบนซ์สีขาว จากนั้นจะนำของกลางมาเก็บไว้ที่ห้องพัก แล้วจะทยอยนำส่งให้ลูกค้าตามที่นายตั้มสั่งจากเรือนจำทางโทรศัพท์
น.ส.อริสา กล่าวต่อว่า หลังจากได้ของกลางมาตนจะนำของกลางมาแบ่งย่อยเพื่อนำส่งลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวตามย่านบันเทิงต่างๆ เช่น รัชดา พระราม 9 โดยให้นายนิคม หรืออั้ม ช่วยขี่จักรยานยนต์ไปส่ง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน ได้ค่าจ้างรวมประมาณ 100,000 บาท โดยเงินที่ได้มาตนและสามีจะนำไปเที่ยวเตร่