xs
xsm
sm
md
lg

“อ้อ” ปฏิเสธโกงที่ดินรัชดา! พร้อมแจ้งศาล “แม้ว” กลับมาสู้คดี พ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


หญิงอ้อยังปากแข็ง ปฎิเสธข้อหาร่วมทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ พร้อมขอเวลา 90 วันตรวจสอบเอกสาร และรอทักษิณกลับ เดือน พ.ค.ต่อสู้คดีด้วยกัน ศาลนัดตรวจเอกสาร 29-30 เม.ย. เจ้าตัวพยักหน้าตอบสื่อรับกำลังใจยังดี ด้านทนายระบุ พร้อมต่อสู้ชี้แจ้งทุกประเด็น “ นพดล ทนายครอบครัว” ปัดเรื่องบวชแค่ข่าวลือ

วันนี้ ( 23 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูกิจการและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา ทั้ง 9 ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาครั้งแรกคดีหมายเลข อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่1-2 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐปฎิบัติหน้าที่ในฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินการ และเป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 ม.4, 100 และ 122 ประมวลกฎหมายอาญา ม.33, 83, 86, 91, 152 และ 157 ขอให้ศาลริบเงินจำนวน 772 ล้านบาท และที่ดินอีก 4 แปลงย่านรัชดาภิเษก ห้วยขวาง ตกเป็นของแผ่นดิน

โดยนายทองหล่อ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนอ่านและอธิบายคำฟ้องให้คุณหญิงพจมานจำเลยที่ 2 ฟังสรุปว่า จำเลยที่ 2 ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สนับสนุน สามี จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกรวม 4 แปลง โดยที่ สามี จำเลยที่ 1 ให้ความยินยอม พร้อมทั้งสอบถามว่ากระทำผิดตามที่ถูกฟ้องทั้ง 2 ข้อหา ฐานเป็นคู่สมรส หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 100 และฐานเป็นผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ157 หรือไม่

ซึ่งคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การปฎิเสธเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแถลง ยืนยันต่อศาลตามคำให้การ และได้ยื่นคำร้องขอเวลาตรวจและคัดสำเนาเอกสารและการติดตามพยานเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก เพื่อจำเลยที่ 2 จะได้จัดทำการให้การเป็นลายลักษณ์อักษรโดยละเอียด ในการสู้คดีต่อไป ประกอบกับจำเลยที่ 1 แจ้งว่าจะกลับมาร่วมต่อสู้คดีกับจำเลยที่ 2 ประมาณเดือนพฤษภาคม นี้ จำเลยที่ 2 จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดพิจารณาตรวจพยานหลักฐาน ออกไปเป็นเวลา 90 วัน นับแต่วันนี้ ศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้ว นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แถลงไม่คัดค้าน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ากรณีมีเหตุอันสมควร จึงกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 29-30 เมษายน เวลา 10.00 น. โดยให้โจทก์-จำเลย ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลพร้อมสำเนาสำหรับองค์คณะผู้พิพากษาและคู่ความทุกฝ่าย โดยให้ยื่นก่อนวันนัดพิจารณาตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 7 วัน หากพยานเอกสารหรือพยานวัตถุใดอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก ให้คู่ความที่ประสงค์จะอ้างอิงพยานดังกล่าว ก็ขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานหลักฐานนั้นมาจากผู้ที่ครอบครองโดยเร็ว โดยให้ยื่นคำขอต่อศาลพร้อมกับการยื่นบัญชีระบุพยานเพื่อให้ได้พยานหลักฐานนั้นมาก่อนวันตรวจพยานหลักฐาน และเพื่อความสะดวกในการตรวจพยานหลักฐานให้คู่ความแถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานมาพร้อมกับการยื่นบัญชีระบุพยานด้วย

ภายหลัง นายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า คุณหญิงพจมานได้ยื่นคำให้การปฎิเสธพร้อมทั้งชี้แจ้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อศาล รวมทั้งได้ยื่นคำร้องขอเวลาตรวจสอบเอกสารเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งไม่ได้เป็นการประวิงเวลาการพิจารณาคดี แต่เป็นเพราะมีเอกสารจำนวนมาก บางอย่างไม่ทราบว่า คตส.เอามาจากไหน ส่วนเอกสารหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น อาทิ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูกิจการและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กระทรวงการคลัง กรมผังเมือง กรุงเทพมหานคร กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของรัฐสภา นั้นทีมทนายความจะขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกมาประกอบการต่อสู้คดี โดยมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้คดีได้ทุกประเด็น ทั้ง การปรับลดราคาที่ดิน หนังสือชี้ชวนไม่ชัดเจน และ การกำหนดยื่นซองประมูลขั้นต่ำ 100 ล้านบาท โดยเมื่อ ได้รับเอกสารพยานหลักฐานแล้วจะนำมาพิจารณาว่าจะต้องนำบุคคลใดมาเป็นพยานฝ่ายจำเลยบ้าง จากนั้นจะส่งเอกสารพยานหลักฐานและบัญชีรายชื่อพยานส่งให้ศาลก่อนวันตรวจพยานหลักฐาน 7 วันตามคำสั่ง

เมื่อถามว่าคุณหญิงพจมาน จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯขอสืบพยานลับหลังหรือไม่ นายพิชิฎ กล่าวว่า ต้องปรึกษากับทีมทนายความอีกครั้ง แต่ในชั้นนี้ คุณหญิงพจมาน ต้องการทำให้สาธารณะชนเห็นว่าพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเท่าที่ทราบจะเดินทางกลับมาต่อสู่คดีพร้อมกับคุณหญิงพจมานในเดือนพฤษภาคมตามที่ได้แถลงต่อศาล โดยจะรายงานกระบวนการพิจารณาคดีวันนี้ทั้งหมดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบต่อไป

ด้าน นายนพดล ปัทมะ ทนายความประจำตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ข้อต่อสู้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน จะเป็นไปในแนวทางเดียวกันเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายและการประมูล ซึ่งเป็นเรื่องของข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพียงแต่ข้อกล่าวหาของคุณหญิงพจมาน จะแตกต่างกับของ พ.ต.ท.ทักษิณ บางฐานความผิด อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าเราไม่ได้ทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. ม.100 และ ป.อาญา ม.157 ส่วนที่ในคำฟ้อง อัยการสูงสุดระบุถึงเรื่องการลดราคาซื้อขายที่ดิน ยืนยันว่าข้อเท็จจริงไม่ได้มีการลดราคา โดยที่ดินดังกล่าวมีข้อจำกัดเรื่องการสร้างตึกสูง ดังนั้นราคาที่ดินจึงจะไม่สูงมาก ขณะเดียวกันถ้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูเห็นว่าราคาซื้อขายต่ำเกินไปก็สามารถปฎิเสธไม่ขายได้ตลอดเวลา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับการลดราคาที่ดินแต่อย่างใด รวมทั้งเรื่องประเด็นการฮั๊ว ซึ่งในคำฟ้องเพียงแต่ระบุข้อกล่าวหาตาม ป.อาญา ม.157 ซึ่งอัยการก็จะต้องนำสืบให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้คุณหญิงพจมานซื้อที่ดินหรือไม่อย่างไร โดยเรื่องการประมูลซื้อที่ดินเป็นเรื่องสาธารณะที่ไม่มีการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีไปช่วยแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะการประมูลจะเปิดซองประมูลให้เห็นในขณะนั้นเลย จึงเป็นเรื่องของการซื้อขายที่ทำอย่างถูกต้องโปร่งใส ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับ ม.100 พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.ด้วย

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศไทยมาบวชที่วัดยานนาวาว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพักอยู่ที่ประเทศฮ่องกง และจะกลับมาช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ไม่มีเรื่องการบวช เป็นการข่าวที่คาดเคลื่อน ส่วนที่มีข่าวออกมาด้วยว่าจะมีบุคคลอื่นๆ บวชให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ตนไม่ทราบและไม่มีข้อมูลยืนยัน

เมื่อถามว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกับมาในเดือนพฤาภาคมจะเกี่ยวกับการรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นก่อนใช่หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า กำหนดเดือนทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวเนื่องกับหลายส่วน ทั้งเรื่องความปลอดภัย การจัดตั้งรัฐบาล และการรอระยะเวลาที่จะให้มีการตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้มีพยานหลักฐานจำนวนมากพอสมควร ที่เราต้องขอมาจากหน่วยงานรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมานเดินทางมาถึงศาลฎีกาฯตั้งแต่เวลา 09.15 น. พร้อมกับนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา บุตรชายและบุตรสาว ด้วยชุดสีดำโดยมี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายพิชิฏ ชื่นบาน และนายนพดล ปัทมะ ทนายความเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อรอรับ ขณะที่ พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา หนึ่งใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ,ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธิศักดิ์ศิริ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชน รวมทั้ง สส.พลังประชาชน และอดีต สส.พรรคไทยรักไทย มาคอยต้อนรับเช่นกัน

ขณะที่ศาลได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวนกว่า 50 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นเป็นทางเดินขึ้นอาคารศาลฎีกาฯ พร้อมจัดเตรียมเครื่องตรวจวัตถุระเบิดมือถือตรวจผู้ที่จะขึ้นไปพังการพิจารณาและตรวจค้นสัมภาระอย่างละเอียดโดยจัดให้มีการแลกบัตรเพื่อความปลอดภัย

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาแล้ว คุณหญิงพจมานได้เดินออกจากห้องพิจารณาคดีชั้น4 ลงมายังลานจอดรถด้านล่างเพื่อเตรียมเดินทางกลับโดยทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามคุณหญิงพจมานว่า ยังมีกำลังใจดีอยู่หรือไม่ คุณหญิงพจมาน พยักหน้ารับ และเมื่อถามย้ำว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาเดือนพฤาภาคมนี้หรือไม่ คุณหญิง พจมาน ก็พยักหน้ารับอีกเช่นกัน จากนั้นมีกลุ่มนปก.และกลุ่มชมรมคนรักทักษิณ ประมาณ 20 คน ได้ตะโกนว่า “สู้ๆ รักคุณหญิงอ้อที่สุดเลย ขอให้กำลังใจตลอดไป” ซึ่งคุณหญิงได้รับไหว้และยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับเดินขึ้นรถไปทันที พร้อมกับนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว ทันที





กำลังโหลดความคิดเห็น