“เสรีพิศุทธ์” ยกมือให้ “จุมพล” ชนะโหวตฉิวเฉียด 8-7 กลับเข้าทำงานตำรวจตำแหน่งเทียบเท่ารอง ผบ.ตร.ส่วน ผู้การมานิตย์ ยังไม่พิจารณาให้กลับ เกรงมีปัญหาด้านกฎหมาย “ชัชวาลย์” มาใหญ่ นั่งเก้าอี้ ผบช.สตม.
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และรอง ผบ.ตร.ทุกคนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมในวันนี้เป็นวาระการพิจารณาแต่งตั้งนายตำรวจระดับ ผบก.-ผช.ผบ.ตร.ยศ พล.ต.ต.-พล.ต.ท.ที่ว่างลงและเปิดใหม่ต่อจากครั้งที่แล้วที่ ก.ตร.หลายท่านมีภารกิจ จึงมาประชุมต่อ ซึ่งเรียบร้อยทุกตำแหน่งไม่มีปัญหา เป็นไปตามที่ตนเองเสนอไป ซึ่งในที่ประชุมครั้งนี้ได้พิจารณาทั้งหมดกว่า 30 ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมก็มีการถกเถียงเพื่อแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิ ตนเองในฐานะประธานที่ประชุมก็เปิดโอกาสให้ทุกคนอภิปราย การลงมติในที่ประชุมส่วนใหญ่ก็เห็นชอบให้ย้ายตามที่ตนเสนอ ซึ่งในที่ประชุมก็ลงมติให้ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน (กสม.) มาดำรงตำแหน่งแทน
“สำหรับ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ นั้น มีความเหมาะสม เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.น.รองผบช.ก.เป็นผู้บัญชาการกฎหมายและสอบสวน มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านการสอบสวน ผ่านงานมามาก จึงมีความเหมาะสมที่จะไปดำรงตำแหน่ง ผบช.สตม.” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. ที่เปิดให้กับ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ปรึกษาระดับ 11 สำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้ามารับราชการตำรวจ ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวเมื่อเกษียณก็จะยุบไป ในที่ประชุมมีการลงคะแนนแบบเฉียดฉิว คือ 7-7 เท่ากัน ตนเองในฐานะประธานที่ประชุมใช้สิทธิออกเสียงให้จนผ่าน ซึ่งในที่ประชุมก็มีการอภิปรายในตำแหน่งนี้กันมาก เนื่องจาก พล.ต.อ.จุมพล ตอนออกไปเป็นตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ กลับมาได้ตำแหน่งสูงกว่าเดิม แต่ตนชี้แจงว่า ปัจจุบัน พล.ต.อ.จุมพล ดำรงที่ปรึกษาระดับ 11 เทียบเท่าปลัดกระทรวง เมื่อจะโอนกลับมาเป็นตำรวจก็ต้องเป็น พล.ต.อ.อยู่แล้วจะให้เป็น ร.ต.อ.ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุม ก.ตร.ครั้งนี้มีการพิจารณารับ พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ หรือชื่อใหม่ พล.ต.ต.ธนะโรจน์ วงศ์สมบูรณ์เดช อดีต ผบก.น.1 กลับมารับราชการตำรวจด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีพิจารณาในเรื่องนี้ เป็นเพียงข่าว เพราะการดำเนินการตามกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอตรวจสอบข้อกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาด
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำแหน่งที่มีปัญหา คือ ตำแหน่ง พล.ต.ท.บุญเรือง ที่มีการคัดค้านในที่ประชุมไม่ให้ย้ายจากตำแหน่ง ผบช.สตม.ในที่ประชุมให้ ก.ตร.โหวต ปรากฏว่า แพ้ 3-10 คะแนน โดย 3 คนที่โหวตให้อยู่ ประกอบด้วย ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.25 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.บุญเรือง ส่วน นรต.รุ่น 25 ที่เป็น ก.ตร.อีก 2 ท่าน คือ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.งดออกเสียง ส่วน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร.โหวตให้โยกย้ายพล.ต.ท.บุญเรือง
