กองปราบฯ โวมีหลักฐานเด็ดเอาผิดผู้บงการฆ่าเหยื่อหน้าเด้ง แต่ต้องรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง มั่นใจปิดคดีดังปี 50 ได้แน่นอน
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล หรือ พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ (เดิม) ผกก.1 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีสังหาร นางรวีวรรณ เสตะรัต นายชาญวิทย์ ชาญรัตนชัย เหยื่อศัลยกรรมความงามไบโอคลินิกย่านดอนเมือง ของ นพ.ไพศาล หรือกวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ และนายบุญลือ รุ่งเรือง คนขับรถแท็กซี่ พยานปากสำคัญในคดีดังกล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้เร่งรัดให้ดำเนินการสอบสวนคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพราะถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมากเพราะมีเหยื่อที่เสียชีวิตถึง 3 ราย ซึ่งขณะนี้สำนวนการสอบสวนถือว่าเกือบสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และจะส่งฟ้องผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ทั้ง 3 รายต่อไป
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามล่าตัว นายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย นพ.ไพศาล อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดชุดสืบสวนได้เบาะแสว่านายศักดาได้หลบหนีจากเมืองจีนเข้ามากบดานอยู่ในประเทศลาว จึงส่งกำลังเข้าไปประสานเจ้าหน้าที่ลาวไปตามจับกุม แต่ไม่พบตัว อย่างไรก็ตามอีกกระแสข่าวแจ้งว่า นายศักดาแอบหนีไปอยู่ทางภาคเหนือของไทย ก่อนย้อนกลับเข้าประเทศจีนอีกครั้ง ซึ่งกำลังล่าตัวอย่างกระชั้นชิด ทั้งนี้ จากหลังฐานที่ได้ไม่สามารถออกหมายจับใครเพิ่มได้ เพราะหลักฐานยังไม่เพียงพอไม่สามารถสาวไปถึงผู้บงการได้ อย่างไรก็ตาม ทางเรายังมีหลักฐานเด็ดอยู่ในมือซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
“ขณะทางเรารอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไปเก็บมาได้ในไบโอคลินิก หากผลพิสูจน์ออกมาตามที่เราตั้งธงทางคดีไว้ ก็จะออกหมายจับผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป และมั่นใจว่าสามารถปิดคดีที่สะเทือนขวัญประชาชนมากที่สุดของปี 2550 นี้ได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล หรือ พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ (เดิม) ผกก.1 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีสังหาร นางรวีวรรณ เสตะรัต นายชาญวิทย์ ชาญรัตนชัย เหยื่อศัลยกรรมความงามไบโอคลินิกย่านดอนเมือง ของ นพ.ไพศาล หรือกวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ และนายบุญลือ รุ่งเรือง คนขับรถแท็กซี่ พยานปากสำคัญในคดีดังกล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้เร่งรัดให้ดำเนินการสอบสวนคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพราะถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมากเพราะมีเหยื่อที่เสียชีวิตถึง 3 ราย ซึ่งขณะนี้สำนวนการสอบสวนถือว่าเกือบสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และจะส่งฟ้องผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ทั้ง 3 รายต่อไป
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามล่าตัว นายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย นพ.ไพศาล อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดชุดสืบสวนได้เบาะแสว่านายศักดาได้หลบหนีจากเมืองจีนเข้ามากบดานอยู่ในประเทศลาว จึงส่งกำลังเข้าไปประสานเจ้าหน้าที่ลาวไปตามจับกุม แต่ไม่พบตัว อย่างไรก็ตามอีกกระแสข่าวแจ้งว่า นายศักดาแอบหนีไปอยู่ทางภาคเหนือของไทย ก่อนย้อนกลับเข้าประเทศจีนอีกครั้ง ซึ่งกำลังล่าตัวอย่างกระชั้นชิด ทั้งนี้ จากหลังฐานที่ได้ไม่สามารถออกหมายจับใครเพิ่มได้ เพราะหลักฐานยังไม่เพียงพอไม่สามารถสาวไปถึงผู้บงการได้ อย่างไรก็ตาม ทางเรายังมีหลักฐานเด็ดอยู่ในมือซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
“ขณะทางเรารอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไปเก็บมาได้ในไบโอคลินิก หากผลพิสูจน์ออกมาตามที่เราตั้งธงทางคดีไว้ ก็จะออกหมายจับผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป และมั่นใจว่าสามารถปิดคดีที่สะเทือนขวัญประชาชนมากที่สุดของปี 2550 นี้ได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว
