“ดีเอสไอ” บุกรวบตัว “ไพโรจน์ ชูชินวัตร” ผู้ต้องหาคดีโกงภาษี 200 ล้าน ตามหมายจับของศาล ขณะกำลังไดรฟ์กอล์ฟอย่างสบายใจเฉิบ ก่อนนำตัวฝากขังศาลอาญา
วันที่ (14 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธวัชชัย สวนสีดา ผู้อำนวยการส่วนคดีภาษีอากร 2 สำนักคดีภาษีอากร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหลบเลี่ยงภาษีของบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ จำกัด ซึ่งขายทองแดงให้กับ หจก.สายไฟไทยอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า ดีเอสไอ ได้จับกุม นายไพโรจน์ ชูชินวัตร กรรมการบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ ผู้ต้องหาคดีหลบเลี่ยงภาษีอากรกว่า 200 ล้านบาท ตามหมายจับของศาลอาญา โดยชุดสืบสวนสะกดรอย ดีเอสไอ เข้าจับกุมตัวได้ที่สนามกอล์ฟรอยัล เลคไซด์ คลับ จ.สมุทรปราการ สำหรับคดีนี้ดีเอสไอได้สรุป สำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ และส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา ภายหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ครบ 48 ชั่วโมง ในวันนี้ (14 ม.ค.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา หากผู้ต้องหาต้องการยื่นประกันตัวสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวได้
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาคดีนี้มีความเชื่อมโยงกับการหลบเลี่ยงภาษีของ หจก.สายไฟไทย ซึ่งก่อนหน้าดีเอสไอได้จับกุมตัว นายไพรัช นายไพศิษฐ์ และ นางอรวรรณ ชูชินวัตร ได้ขณะเดินทางมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มีทั้งสิ้น 18 คน จากการตรวจสอบของกรมสรรพากร พบว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกันประกอบกิจการผลิตและขายสายไฟ มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มบริษัทต่างๆ กว่า 24,000 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหากลับไม่ยอมชำระภาษีอากรจำนวน 1,400 ล้านบาท โดยคดีนี้ถือเป็นความผิดอาญา ต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือนถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท ในส่วนของการติดตามและยึดอายัดทรัพย์สินมาชำระเป็นเงินภาษีอากรถือเป็นอำนาจของกรมสรรพากร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายไพโรจน์ ชูชินวัตร กรรมการบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ ผู้ต้องหาคดีหลบเลี่ยงภาษีอากรกว่า 200 ล้านบาท ตามหมายจับของศาลอาญา มาขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขัง หลังจากนั้นนายไพโรจน์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยได้ยื่นบัญชีสมุดเงินฝากธนาคารกสิกรไทย 1 ล้านบาท ขอประกันตัว ภายหลังศาลพิจารณาและอนุญาตให้ประกันและปล่อยตัวชั่วคราวได้
วันที่ (14 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธวัชชัย สวนสีดา ผู้อำนวยการส่วนคดีภาษีอากร 2 สำนักคดีภาษีอากร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหลบเลี่ยงภาษีของบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ จำกัด ซึ่งขายทองแดงให้กับ หจก.สายไฟไทยอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า ดีเอสไอ ได้จับกุม นายไพโรจน์ ชูชินวัตร กรรมการบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ ผู้ต้องหาคดีหลบเลี่ยงภาษีอากรกว่า 200 ล้านบาท ตามหมายจับของศาลอาญา โดยชุดสืบสวนสะกดรอย ดีเอสไอ เข้าจับกุมตัวได้ที่สนามกอล์ฟรอยัล เลคไซด์ คลับ จ.สมุทรปราการ สำหรับคดีนี้ดีเอสไอได้สรุป สำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ และส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา ภายหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ครบ 48 ชั่วโมง ในวันนี้ (14 ม.ค.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา หากผู้ต้องหาต้องการยื่นประกันตัวสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวได้
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาคดีนี้มีความเชื่อมโยงกับการหลบเลี่ยงภาษีของ หจก.สายไฟไทย ซึ่งก่อนหน้าดีเอสไอได้จับกุมตัว นายไพรัช นายไพศิษฐ์ และ นางอรวรรณ ชูชินวัตร ได้ขณะเดินทางมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มีทั้งสิ้น 18 คน จากการตรวจสอบของกรมสรรพากร พบว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกันประกอบกิจการผลิตและขายสายไฟ มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มบริษัทต่างๆ กว่า 24,000 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหากลับไม่ยอมชำระภาษีอากรจำนวน 1,400 ล้านบาท โดยคดีนี้ถือเป็นความผิดอาญา ต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือนถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท ในส่วนของการติดตามและยึดอายัดทรัพย์สินมาชำระเป็นเงินภาษีอากรถือเป็นอำนาจของกรมสรรพากร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายไพโรจน์ ชูชินวัตร กรรมการบริษัท เอสซีเอช อินดรัสตี้ ผู้ต้องหาคดีหลบเลี่ยงภาษีอากรกว่า 200 ล้านบาท ตามหมายจับของศาลอาญา มาขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขัง หลังจากนั้นนายไพโรจน์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยได้ยื่นบัญชีสมุดเงินฝากธนาคารกสิกรไทย 1 ล้านบาท ขอประกันตัว ภายหลังศาลพิจารณาและอนุญาตให้ประกันและปล่อยตัวชั่วคราวได้
