จำเลย “ทักษิณ” ใช้เวลา 20 นาที รายงานตัวคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ พร้อมใช้เงินลูกสาว 8 ล้านยื่นประกันตัว โดยปราศจากคำคัดค้าน ขณะที่ศาลให้ประกันพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ยกเว้นได้รับอนุญาต ขณะที่คดีปกปิดโครงสร้างหุ้น เอสซีฯ"ทักษิณ"ปฎิเสธตามสูตร ยื่น 1 ล้านประกัน โดยอัยการปล่อยโดยปราศจากเงื่อนไข
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงข่าวที่โรงแรมเพนนินซูลา
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 เข้ามอบตัวต่อศาลในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.45 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดง ที่ อม.1/2550 มาส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามหมายจับเลขที่ 1/2550 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี พร้อมยื่นหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 10 ล้าน เพื่อขอประกันตัว
อย่างไรก็ตาม หลังศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยที่ 1 โดยตีราคาหลักประกัน 8 ล้านบาทถ้วน พร้อมทำสัญญาประกัน ยึดสมุดเงินฝาก แจ้งอายัด และเพิกถอนหมายจับ พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ ห้ามจำเลยที่ 1 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากศาล และห้ามทำการใดๆ อันจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกันทันที ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯ กำหนดวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการประกันตัวก็เดินทางออกจากศาลฏีกาฯ เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีปกปิดโครงสร้างหุ้น เอสซี แอสเสทฯที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยเดินทางถึงสำนักงานอัยการสูงสุดเวลา 11.48 น.โดยหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจากรถ ก็ได้โบกมือทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจประมาณ 500 คน ก่อนที่จะเดินเข้าทางประตูด้านข้างของอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขึ้นไปรับทราบข้อกล่าวหา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มงวด
โดยหลังจากพบนายเสกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อรับข้อกล่าวหา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวได้ยื่นหลักทรัพย์สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ มูลค่า 1 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัวชั่วคราว โดยอัยการพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้รายงานต่ออัยการทุกครั้งที่จะเดินทางออกนอกประเทศ และนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 3 เม.ย.เวลา 10.00 น.
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และใช้เวลาในการดำเนินการเพียง 30 นาที ก่อนเดินทางกลับ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ
สำหรับสำนวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้นำสำนวนคดีพร้อมเอกสารหลักฐานรวม 7 กล่อง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารวม 4 คน ประกอบด้วย บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นโดยนางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ กรรมการบริษัท ที่ 1 , นางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตกรรมการบริษัท ฯ ที่ 2 ,พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ 3 และ คุณหญิงพจมาน ภริยา ที่ 4 โดยภายหลังรับมอบสำนวนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นัดผู้ต้องหาฟังคำสั่งในวันที่ 28 มี.ค.เวลา 10.00 น.
โดยในวันส่งสำนวน นายพรชัย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลจนรอบคอบรัดกุม จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการ โดยยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนทำสำนวนคดีด้วยความละเอียด รอบคอบ และมีความมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่นำส่งให้พนักงานอัยการ หลังจากนี้คดีดำเนินต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม