รวบคาร้าน! หมอนวดแสบ หลอกขายสร้อยทองปลอม

หมอนวดแผนโบราณย่านสีลมเอาทองปลอมเกือบเหมือนหนัก 2 บาท ไปหลอกขายห้างทองย่านเจริญกรุงในราคา 2 หมื่นกว่าบาท แต่เจ้าของร้านจับได้เลยทำทีจ่ายเงินให้ แล้วรีบแจ้งตำรวจมารวบตัวที่ร้าน เจ้าตัวอ้างแฟนให้มาโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นของปลอม แต่ต้องเอามาขายเพระาจะหาเงินพาน้องสาวไปหาหมอ

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (5 ม.ค.) พ.ต.ต.ฉัฐภูมิ วิทยเกษมพงศ์ สว.สส.สน.วัดพระยาไกร ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งจากนายอุดม แต่ตรงจิตต์ อายุ 53 ปี เจ้าของห้างทองเฮงหลี ตั้งอยู่ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตบางคอแหลม ว่ามีหญิงนำสร้อยคอทองคำปลอมมาหลอกขายที่ร้าน จึงนำกำลังไปตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึงที่ร้านทองดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบ น.ส.กฤษณี หรือนงค์ ทาอินทร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 11 ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย กำลังเซ็นชื่อลงในใบแสดงการขายของเก่าอยู่ภายในร้าน หลังนำสร้อยคอทองคำปลอมยี่ห้อชั่งฮวดเส็ง น้ำหนักประมาณ 2 บาท จำนวน 1 เส้น มาขายที่ร้านในราคา 24,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง แล้วควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.วัดพระยาไกร

จากกาารสอบสวน น.ส.กฤษณี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนเองทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณอยู่ย่านสีลม โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายสมบัติ พงษ์เพชร แฟนของตนได้ให้สร้อยคอเส้นดังกล่าวมาโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นทองปลอม จนมาช่วงนี้ตนไม่มีเงินใช้ แต่ต้องพาน้องสาวไปรักษาโรคไทรอยด์ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จึงต้องนำสร้อยมาขายหาเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาล จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

ด้านนายอุดม เจ้าของห้างทองเฮงหลี กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้นำสร้อยคอเส้นดังกล่าว มาขายให้ทางร้านในราคา 24,000 บาท โดยตนเห็นว่า เป็นทองที่มียี่ห้อจึงรับซื้อไว้ แต่เมื่อทำการตรวจสอบดูแล้ว ปรากฏว่าสร้อยคอเส้นดังกล่าวเป็นของปลอม มีปริมาณทองคำน้อยมากไม่ถึง 96.5% ซึ่งหากตรวจสอบไม่ดีลักษณะจะเหมือนจริงมาก อีกทั้งผู้ต้องหาท่าทางมีพิรุธ เพราะเมื่อถามหาบัตรประชาชนก็ไม่มี จึงทำทีจ่ายเงินจำนวน 24,000 บาท ไปแล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ทั้งนี้เมื่อลองให้ผู้ต้องหาเซ็นชื่อลงในใบแสดงการขายของเก่า ผู้ต้องกลับเซ็นชื่อ-นามสกุลปลอม ทำให้เชื่อว่าผู้ต้องหาตั้งใจนำทองปลอมมาขายแน่นอน

อีกทั้งตนเคยคุยกับเพื่อนที่เปิดกิจการโรงรับจำนำที่เคยถูกคนร้ายนำทองปลอมที่มีลักษณะและลายเดียวกันนี้มาหลอกจำนำว่าทองปลอมแบบนี้จะไม่ใช่ทองปลอมหมดทั้งเส้น แต่จะมีส่วนผสมเป็นทองปลอมประมาณ 70% อีก 30% เป็นเงิน คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นพวกช่างทำทองเก่า และมีเงินทุน นอกจากนี้เมื่อตนนำทองเส้นดังกล่าวมาให้เจ้าของยี่ห้อชั่งฮวดเส็งตัวจริงตรวจสอบก็ยืนยันว่าเป็นของปลอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.กฤษณี ได้ก็มีผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายใช้พฤติกรรมเดียวกันหลอกนำทองมาขายหรือจำนำ มาดูตัวที่ สน.วัดพระยาไกร จำนวนหลายสิบราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงและปลอมและใช้เครื่องหมายการค้าปลอม ก่อนที่ พ.ต.ท.ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.วัดพระยาไกร นำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป