xs
xsm
sm
md
lg

สรุปยอด 4 วัน ตาย 262 ศพ เจ็บ 3,081 ขอนแก่นแชมป์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


4 วันส่งท้ายปีหมู ยอดตาย พุ่ง 262 ศพ เจ็บ 3,081 คน เหตุเมาขับนำลิ่ว ขอนแก่นนำโด่ง ผู้เสียชีวิตรวมสูงสุด 16 คน เชียงรายเกิดอุบัติเหตุมากสุด 102 ครั้ง เตือนตั้งสติก่อนสตาร์ท สั่งจุดตรวจเข้มงวดควบคุมขับรถเร็ว และมาตรการง่วงแล้วขับเป็นพิเศษ

วันนี้ (1ม.ค.) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นพ.เสรี หงส์หยก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถิติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 ของวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ในช่วงของการฉลองเทศกาลปีใหม่ 2551ว่า สรุปวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นปี 2550 เกิดอุบัติเหตุจำนวน 858 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 74 คน บาดเจ็บ 950 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 46.97 รองลงมา คือ ขับรถเร็ว ร้อยละ 24.13 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.42 รองลงมา คือ รถปิคอัพ ร้อยละ 7.23 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนทางตรงของถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 70.05 ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 16.01-20.00 น. คิดเป็นร้อยละ 31.7

นพ.เสรี กล่าวต่อว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 34 ครั้ง รองลงมา คือ พิษณุโลก และอุดรธานี จังหวัดละ 28 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 6 คน รองลงมา คือ ขอนแก่น และสุพรรณบุรี จังหวัดละ 5 คน จังหวัดที่ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 39 คน รองลงมา ได้แก่ พิษณุโลก 34 คน

นพ.เสรี กล่าวอีกว่า จากการสรุปยอดอุบัติเหตุทางถนนตั้งแต่วันที่ 28-31 ธันวาคม 2550 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รวม 2,823 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 38 ครั้ง หรือร้อยละ 1.36 ผู้เสียชีวิตรวม 262 คน น้อยกว่าปี 2550 จำนวน 13 คน หรือร้อยละ 4.73 ผู้บาดเจ็บรวม 3,081 คน น้อยกว่าปี 2550 จำนวน 14 คน หรือร้อยละ 0.46 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดในช่วง 4 วัน ได้แก่ เชียงราย 102 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ สุรินทร์ 91 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น 16 คน รองลงมา ได้แก่ นครปฐม 13 คน ระยอง 11 คน จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต มี 7 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ปัตตานี นราธิวาส มุกดาหาร สตูล ระนอง และร้อยเอ็ด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 108 คน รองลงมา ได้แก่ สุรินทร์ 107 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมน้อยที่สุด ได้แก่ ยโสธร

“ในการเรียกตรวจตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร มีการเรียกตรวจ 1,702,437 คัน พบว่า มีการกระทำผิดและดำเนินคดี จำนวน 50,185 คน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนยานพาหนะที่เรียกตรวจ พบว่า ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 9.06 รองลงมา ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 3.58 ร้อยละของผู้กระทำความผิดและถูกดำเนินคดีแต่ละมาตรการ ได้แก่ ไม่มีใบขับขี่ ร้อยละ 34.31 รองลงมา ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32.62 โดยในวันที่สี่ของช่วง 7 วันระวังอันตราย มีการจัดตั้งจุดตรวจ รวม 3,073 จุด เฉลี่ย 3.31 จุดตรวจ/อำเภอ เฉลี่ย 29 คน/จุดตรวจ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจ รวม 89,303 คน สำหรับการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการจัดตั้งจุดตรวจในหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน 8,062 จุด มีการจัดตั้งจุดบริการประชาชน 3,307 จุด และตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ จังหวัด/อำเภอ 973 จุด” นพ.เสรีกล่าวและว่า

ตนขอฝากเตือนผู้ขับขี่มิให้ขับรถตามไหล่ทาง หากมีรถจอดอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ ตั้งสติก่อนสตาร์ท เร็ว เมา ง่วง โทร ไม่ขับ อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ การเดินทางหลายวัน อาจทำให้ผู้ขับขี่มีอาการเมื่อยล้าหรือง่วงนอนได้ จึงขอให้แวะพักผ่อน ดื่มกาแฟ ตามจุดบริการประชาชนซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนตามถนนสายหลัก อย่าฝืนขับรถ เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้

นพ.เสรี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้วันนี้ประชาชนเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานครหรือกลับบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ จึงได้ประสานให้จังหวัดสั่งการให้จุดตรวจ จุดบริการตามถนนทางหลวงสายหลักและสายรอง ย้ายฝั่งจากทิศทางขาออกมาตั้งอยู่ในทิศทางฝั่งขาเข้า เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อาจส่งผลให้ผู้ขับขี่มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และหลับใน รวมทั้งประชาชนจะเร่งขับรถให้เร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการจราจรติดขัด จึงได้สั่งการให้จุดตรวจเข้มงวดกวดขันควบคุมการขับรถเร็ว และมาตรการง่วงแล้วขับ เป็นพิเศษ และเพิ่มความระมัดระวังจุดเสี่ยงโดยเฉพาะบริเวณจุดกลับรถ และถนนในทิศทางขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตลอดจนตั้งจุดบริการแก่ผู้ขับขี่มีอาการเมื่อยล้า ให้ได้พักผ่อน เพื่อป้องกันการหลับใน ให้บริการตรวจสอบสภาพรถ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่ ตรวจตราสภาพการจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการขับรถบนไหล่ทาง และการจอดรถริมทางเพื่อซื้อของฝาก
กำลังโหลดความคิดเห็น