กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
นับตั้งแต่ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทำการบินขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ ยกเว้นเที่ยวบินพิเศษ หรือเที่ยวบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ
แต่เมื่อสถานการณ์ในประเทศไทยสามารถควบคุมได้ในวงจำกัด อีกทั้งมาตรการคลายล็อกให้ประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดได้ ทำให้แต่ละสายการบินทยอยเปิดเส้นทางบินในประเทศ และมีประชาชนเดินทางข้ามภูมิภาคกันได้แล้ว
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า นับจากนี้ต่อไปค่าโดยสารต่อที่นั่งจะสูงขึ้น แต่เอาเข้าจริงแพงขึ้นเฉพาะช่วงที่ผู้โดยสารต้องการเดินทางในช่วงเปิดทำการบินใหม่ๆ เท่านั้น ถ้าจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ราคาจะถูกลงมาบ้าง ยกเว้นช่วงเทศกาล
แต่จะหาโปรโมชันแบบถูกที่สุดเหมือนอย่างในอดีตก็คงจะยาก ทุกวันนี้ราคาบัตรโดยสารเส้นทางในประเทศ เฉพาะเที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ 900-1,500 บาท ยกเว้นบางสายการบิน ก็เป็นเส้นทางที่มีการแข่งขันสูง และที่นั่งมีจำนวนจำกัด
ถึงกระนั้น แต่ละสายการบินยังคงจัดโปรโมชันเพื่อดึงกระแสเงินสดในช่วงที่การเดินทางฟื้นตัว แม้บางสายการบินจะยังไม่สามารถคืนเงินผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบินก่อนหน้า โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศได้ก็ตาม
โปรโมชันแรงที่สุดในปีนี้ ยกให้สายการบินแอร์เอเชีย “ตั๋วบินบุฟเฟต์” เดินทางแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในราคา 2,999 บาท แต่ก็ใช้ไม่ได้ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ต้องจองล่วงหน้า 21 วัน อีกทั้งถูกร้องเรียนว่าเที่ยวบินที่จองถูกยกเลิกเป็นว่าเล่น
ที่ผ่านมา แต่ละสายการบินส่วนมากมักจะจัดโปรโมชันบัตรโดยสารราคาพิเศษ แต่มีเงื่อนไขคือ ซื้อแล้วต้องเดินทางแน่นอนจริงๆ หากเดินทางไม่ได้เท่ากับจำต้องทิ้งตั๋วไปฟรีๆ เพราะเปลี่ยนเที่ยวบินไม่ได้ หรือเปลี่ยนได้แต่ค่าธรรมเนียมแพงมาก
คนที่เคยจองโปรโมชัน 0 บาท ซึ่งมีราคารวมถูกที่สุด ในช่วงที่ผ่านมาจะทราบดีว่า บางครั้งจำต้องทิ้งตั๋วเครื่องบิน เพราะเปลี่ยนแปลงวันเดินทางไม่ได้ คนที่จองมาแล้วข้ามปี ถึงเวลาจริงกลับติดงาน ติดธุระส่วนตัวกะทันหัน
แต่ละสายการบินจึงมีโปรโมชันสำหรับผู้โดยสาร ที่ยังไม่มีกำหนดการเดินทางที่แน่นอน แต่สามารถจองบัตรโดยสารได้ในราคาที่ถูกลง ช่วยให้ประหยัดค่าตั๋วเครื่องบิน ในช่วงที่ค่าโดยสารผันผวนและไม่แน่นอน
เช่น รหัสบัตรกำนัลสมาชิก (VALUE VOUCHER) ที่สายการบินนำมาจำหน่ายในราคาถูกกว่ามูลค่าที่ได้รับ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อบัตรโดยสาร ตามมูลค่าที่ระบุไว้ โดยส่วนต่างสามารถชำระเพิ่มเติมด้วยบัตรเครดิตได้
วิธีการก็คือ ลูกค้าซื้อ VALUE VOUCHER หรือ GIFT VOUCHER เก็บไว้ก่อน หลังจากนั้นระบบจะส่งรหัสบัตรกำนัลทางอีเมลมาให้ พอถึงเวลาจะจองบัตรโดยสาร ก็นำรหัสบัตรกำนัลที่ได้รับจากอีเมล มาใช้ตามช่องทางที่สายการบินกำหนด
เช่น สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ ที่ผ่านมาออกบัตรกำนัลสมาชิก SKY VOUCHER มูลค่า 200 บาท จำหน่ายในราคา 105.93 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว) ใช้สำหรับส่วนลดเที่ยวบินเพื่อเดินทางครั้งต่อไปที่เว็บไซต์ skyfun.vietjetair.com
หรือจะเป็นสายการบินนกแอร์ ออกบัตรกำนัลสมาชิก NOK VALUE VOUCHER มูลค่า 1,000 บาท จำหน่ายในราคา 700 บาท หรือ GIFT VOUCHER มูลค่า 200 บาท จำหน่ายในราคา 109 บาท และ 500 บาท จำหน่ายในราคา 350 บาท
ใช้เป็นส่วนลดเที่ยวบินเมื่อเดินทางครั้งต่อไปกับนกแอร์ ถ้าหมดอายุแล้วยังไม่ถูกใช้งาน สามารถขอรับเงินคืนได้ แต่มีข้อจำกัดก็คือ สามารถใช้กับการชำระด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น โดยมีค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 128.40 บาท ต่อคนต่อเที่ยวบิน
จากประสบการณ์พบว่า แม้จะใช้จองบัตรโดยสารได้ไม่มีปัญหา ได้รับคะแนนสะสมนกแฟนคลับตามปกติ แต่จะมีปัญหาสำหรับคนที่เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาล จะคำนวณเฉพาะมูลค่าที่ชำระผ่านบัตรกำนัลเท่านั้น
เช่น สมมติว่าจองบัตรโดยสารนกแอร์ ชำระเงินไป 1,158.39 บาท โดยใช้ GIFT VOUCHER มูลค่า 500 บาท ปรากฎว่าเงินสนับสนุนโครงการ 40% ได้รับเพียง 200 บาท เพราะระบบจะคำนวณเฉพาะการใช้ GIFT VOUCHER อย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำหน่ายบัตรแทนเงินสด (E-Gift Card) ผ่านแพลตฟอร์มของช้อปปี้ (Shopee) โดยจะออกโปรโมชันลดราคาออกมานานๆ ครั้ง เช่น ครั้งล่าสุดมูลค่า 1,000 บาท ลดเหลือ 849 บาท
โปรโมชันอีกรูปแบบหนึ่ง คือ แพ็คเกจบัตรโดยสารล่วงหน้า (VALUE PACK / FLIGHT PASS) ที่ผู้โดยสารสามารถซื้อเที่ยวบินไว้ล่วงหน้า และจองเที่ยวบินได้เมื่อต้องการเดินทางในราคาที่ตายตัว
ก่อนหน้านี้ การบินไทยเคยจำหน่าย DOMESTIC VALUE PACK ในงานรักคุณเท่าฟ้าประจำปี สำหรับเที่ยวบิน TG เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตกเที่ยวบินละ 1,100 บาท รวมทั้งมีแพ็คเกจร่วมกับไทยสมายล์ (WE) ตกเที่ยวบินละ 1,300 บาท
สายการบินนกแอร์ ก็เคยจำหน่าย NOK VALUE PACK มีให้เลือกแพ็คเกจสำหรับเมืองหลัก ตกเที่ยวบินละ 1,000 บาท แพ็คเกจสำหรับบินไปทำงานบ่อย ตกเที่ยวบินละ 800 บาท และแพ็คเกจสำหรับบินวันธรรมดา ตกเที่ยวบินละ 600 บาท
ปัจจุบัน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ออกบัตร FLYER PASS ชุดบัตรโดยสาร 4 เที่ยวบิน มีให้เลือกก็คือ เส้นทางภายในประเทศ ยกเว้นสมุย 3,900 บาท ตกเที่ยวบินละ 975 บาท และ เข้า-ออกสมุย 7,900 บาท ตกเที่ยวบินละ 1,975 บาท
ราคานี้รวมรวมค่าบัตรโดยสาร, ค่าภาษีสนามบินและค่าธรรมเนียมการออกบัตรโดยสาร โดยได้จำหน่ายที่สำนักงานขาย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ภูเก็ต สมุย และสำนักงานใหญ่ ระหว่างวันที่ 3-30 กันยายน 2563
โดย FLYER PASS 1 ใบจะมี 4 รหัสโปรโมชัน สามารถใช้รหัสโปรโมชันร่วมกับผู้อื่นได้ จะซื้อเก็บไว้ใช้เอง หรือจะหารกันกับเพื่อนก็ได้เช่นกัน ในยุคที่ผู้บริโภคยุคนี้นิยมหารบิล เช่น ค่าเน็ตฟลิกซ์ หรือหารค่าทริปต่างจังหวัด
แม้ว่าช่วงโปรโมชัน สำหรับคนที่จองเที่ยวบินภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 จะได้รับน้ำหนักกระเป๋า 40 กิโลกรัม และใช้บริการห้องรับรองบูทีคเลาจน์ แต่บัตรฟลายเออร์พาสประเภทนี้ ไม่สามารถสะสมคะแนนฟลายเออร์โบนัส (Flyer Bonus) ได้
ส่วนสายการบินไทยสมายล์ ร่วมกับ OPTION TOWN จำหน่าย FLIGHT PASS บัตรโดยสารเที่ยวบินซื้อล่วงหน้า ได้ราคาถูกในทุกเที่ยวบิน ซื้อวันนี้เลือกวันที่เดินทางในภายหลัง เลือกที่นั่งได้ฟรี และยังแบ่งปันตั๋วเที่ยวบินกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะซื้อโปรโมชันสายการบิน ทั้งบัตรกำนัลสมาชิก บัตรของขวัญ หรือแพ็คเกจบัตรโดยสารล่วงหน้า สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคหรือนักเดินทางควรพิจารณาก่อนซื้อก็คือ
1. อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขอย่างละเอียด โดยเฉพาะเงื่อนไขปลีกย่อยที่ผู้บริโภคควรพิจารณาว่าจะเสียประโยชน์หรือไม่ เช่น บางสายการบินสะสมคะแนนไม่ได้ ถ้าเป็นคนที่ต้องการสะสมคะแนน โปรโมชันนั้นอาจจะไม่เหมาะก็ได้
กรณีบัตรกำนัลหรือบัตรของขวัญ ต้องดูว่ามีข้อจำกัดในการใช้งาน หรือมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการสำรองที่นั่ง เช่น มีค่าธรรมเนียมออกบัตรโดยสาร หรือบังคับให้ชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น โดยมีค่าธรรมเนียม (Processing Fee)
นอกจากนี้ ถ้าเป็นสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost Airlines) จะได้เฉพาะที่นั่งและสัมภาระขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัมเท่านั้น ไม่รวมบริการเสริมต่างๆ เช่น สัมภาระใต้ท้องเครื่องที่ต้องซื้อเพิ่มเติม
2. ให้ระลึกเสมอว่า ที่นั่งมีจำนวนจำกัดในแต่ละเที่ยวบิน และอาจไม่มีให้บริการในบางเที่ยวบิน ซึ่งเป็นเงื่อนไขปกติของโปรโมชันทุกสายการบิน ทางที่ดีเมื่อมีกำหนดการเดินทางแน่นอนแล้ว ให้ใช้สำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้าเอาไว้เลย
ส่วนคนที่ซื้อบัตรกำนัลสมาชิก หรือบัตรของขวัญ แนะนำว่าให้ใช้สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน จะได้ราคาบัตรโดยสารที่ถูกกว่าสำรองที่นั่งเมื่อถึงช่วงใกล้เวลาเดินทาง เพราะราคาจะเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการเดินทางแต่ละเที่ยวบิน
3. ดูเงื่อนไขว่าสามารถใช้ร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่ ในกรณีที่จะซื้อเพื่อมอบให้หรือหารกันร่วมกันกับผู้อื่น เพราะบางโปรโมชัน เช่น บัตรกำนัลสมาชิก บัตรโดยสารล่วงหน้า บางสายการบินตั้งเงื่อนไขใช้ได้เฉพาะผู้ซื้อที่ระบุไว้เท่านั้น
4. เก็บรักษารหัสโปรโมชันไว้ให้ดี ส่วนมากจะส่งไปให้ทางอีเมลหรือช่องทางดิจิทัล จึงควรรักษาไว้เป็นความลับ ไม่เผยแพร่กับบุคคลอื่น สำหรับรหัสโปรโมชันแบบกระดาษ กรณีสูญหายไม่สามารถคืนเงิน ต่ออายุ หรือออกใหม่ทดแทนได้
5. ความเสี่ยงจากการแข่งขันของธุรกิจการบิน กรณีซื้อบัตรโดยสารล่วงหน้า ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดตายตัว เราอาจจะเห็นโปรโมชันบัตรโดยสารภายหลังในราคาที่ถูกกว่า แต่ที่นั่งมีจำนวนจำกัด อาจมีผู้โชคดีไม่กี่คนที่ได้ราคานี้
แต่ข้อดีของบัตรโดยสารล่วงหน้า คือ ราคาที่แน่นอนตายตัวโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เสมือนมีไว้อุ่นใจกับตัวเอง มีกำหนดเดินทางเมื่อใด ก็ใช้รหัสโปรโมชันนั้นแลกเที่ยวบินล่วงหน้าได้เลย
และในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งคือ หากซื้อโปรโมชันสายการบินล่วงหน้า แล้ววันข้างหน้าเกิดสถานการณ์ ที่ทำให้สายการบินต้องหยุดทำการบินอีกครั้ง คนที่ซื้อโปรโมชันเหล่านี้ได้รับผลกระทบแน่นอน
เพราะก่อนหน้านี้ ในช่วงที่สายการบินทุกแห่งหยุดทำการบิน ยังมีบางสายการบินยังคืนเงินผู้โดยสารไม่ครบทุกคน ทำให้ผู้โดยสารอาจไม่เชื่อมั่นสายการบินนั้นๆ และไม่กล้าสำรองที่นั่งล่วงหน้ากับสายการบินนั้นอีก
ถึงกระนั้น เมื่อภาคธุรกิจเชื่อมั่นในมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็งของไทย และเริ่มเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในประเทศ หลังต้องหยุดชะงักไปนาน จึงคลายความกังวลไปได้บ้าง
หากมองว่าการซื้อโปรโมชันสายการบิน เสมือนเราลงทุนเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนในวันหน้า ด้วยราคาที่แน่นอน บัตรกำนัลสมาชิก หรือบัตรโดยสารล่วงหน้าในราคาที่ตายตัว จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ