9 พฤศจิกายน 59 เวลา 03 : 00 น. เป็นเวลาที่มีคนนัดผมว่าเจอกันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ ตีสามจริงๆนะครับ เรียกได้ว่าเช้ามืดมากๆ
นัดหมายนี้มาจากพี่หลิน พันธมิตรฯ และคุณป้านิดา นิดดา หงษ์วิวัฒน์ เจ้าของสำนักพิมพ์แสงแดด คุณป้าที่เคารพ ซึ่งต้องขอบอกว่านัดนี้มาแบบไม่คาดคิดนิดหน่อย เพราะก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ได้มีการพูดคุยกันสั้นๆ เท่านั้น ว่าเราน่าจะนัดกันไปกราบพระบรมศพสักครั้ง แล้วก็มีการนัดกันโดยทันที ผมเองก็กะจะไปให้ได้สักครั้งอยู่แล้ว จึงตกลงรับนัดว่าจะไปด้วย นี่ละครับเป็นที่มาของการเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพในครั้งนี้
เราออกจากบ้านพระอาทิตย์ตีสามนิดๆ คณะของเราไม่ได้ใหญ่มากนักแค่สิบกว่าคนเท่านั้น แบ่งกันเดินทางด้วยรถแท็กซี่ 2 คัน ไปหาปลายแถว ซึ่งตอนนั้นอยู่ประมาณฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ เมื่อไปถึงสิ่งแรกที่ทำคือรีบต่อแถว แนะนำตัวกันสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกัน แล้วก็ รอ รอ รอ รอ แล้วก็รอ
ระหว่างรอคุณป้านิดา ให้พวกเราช่วยกันแจกน้ำมันเขียวให้กับคนที่มาเข้าแถวบริเวณนั้น ซึ่งสิ่งที่เราได้กลับมาเต็มๆ คือรอยยิ้มของผู้คนมากมาย แทบทุกคนจะหยิบกกันคนละหนึ่งขวดเท่านั้น มากสุดก็มีหยิบไว้ให้เพื่อนที่กำลังเดินทางมาเท่านั้น ไม่มีใครหยิบทีละหลายๆ ขวด เพื่อเก็บหรือตุนเอาไว้
การรอแถวขยับในช่วงแรก ต้องขอบอกว่าช้ามากครับคือราว 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ระหว่างที่ยืนรอกันอยู่ก็มีเหล่าอาสาสมัครวนเวียนมาแจกน้ำแจกขนมบ้างและคอยช่วยดูเรื่องความปลอดภัยให้เรา รวมถึงมีมอเตอร์ไซค์รับส่งพาไปห้องน้ำหรือหาหมอหากใครอยากเข้าห้องน้ำแบบเร่งด่วน อาสาสมัครเหล่านี้ก็จะช่วยได้อย่างทันเวลา
ผมได้คุยกับพี่อาสาสมัครท่านหนึ่ง พี่เขาบอกว่ามาจากกู้ภัยอยุธยา มาตั้งเต๊นท์ตั้งแต่วันแรก ทีมพี่เขาทำงานกัน 24 ชม. ใช้วิธีสลับกันนอน สลับกันมาดูแลประชาชน โดยเฉพาะบริเวณหางแถว เพราะว่าหางแถวจะอยู่ไกลจากเต๊นท์ที่ให้บริการแทบทุกอย่าง ทั้งน้ำ ยา หรือแม้แต่อาหาร
นอกจากแจกยาดมแล้ว คณะของเราก็มีการเตรียมขนมมาแจกอีกเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อยก็แก้หิวได้บ้างสำหรับใครที่ไม่ได้ทานอะไรมาเพราะมากันเช้ามาก เมื่อแถวเริ่มขยับการแจกขนมก็ชะงักลง เพราะต้องตั้งหน้าตั้งตา ขนมที่แจกยังเหลือเยอะพอสมควร เมื่อเดินมาถึงแถวๆ สนามหลวงก็เริ่มมีเต๊นท์มีของแจกเยอะขึ้นขนมที่ถืออยู่ก็เยอะพอสมควร ผมเอาขนมเหล่านั้นแจกน้องๆ เด็กๆ และเจ้าหน้าที่รวมถึงอาสาสมัครตลอดทาง ส่วนมากผมจะบอกพี่ๆ น้องๆ อาสาสมัครว่าแลกกันนะครับ เผื่อพี่หิวระหว่างแจก เผื่อเต๊นท์พี่ไกล กว่าจะเดินกลับไปกินที่เต๊นท์ก็รองท้องก่อนนะครับ
ขณะเดินขยับแถว ผมต้องขอพูดว่าเห็นขวดน้ำและขยะตลอดทาง อยากแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้พกกระติกน้ำมาเองก็ดีนะครับ จะเป็นการช่วยลดขยะไปในตัวด้วยครับ
หลังจากเดินแถวมารอบสนามหลวงหนึ่งรอบ พวกเราก็เดินมาถึงเต๊นท์ที่เป็นที่นั่งเพื่อรอเดินเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง ตอนนั้นก็สัก 7 โมงเช้าแล้ว
ขณะนั่งรอในเต๊นท์ก็ใช้เวลาอีกค่อนข้างนาน นานชนิดที่อาสาสมัครบอกว่านอนก่อนได้เลยนะครับแต่อย่ากรนนะครับเดี๋ยวรบกวนคนข้างๆ แต่ก็ได้ใชเวลาพูดคุยกับคนรอบข้างบ้าง คนที่มาคณะเดียวกัน รวมถึงคนที่นั่งใกล้ๆ
ผมได้คุยกับคุณป้าท่านหนึ่งอายุสักเจ็ดสิบน่าจะได้ คุณป้ามากราบพระบรมศพทุกวัน และเล่าถึงความตั้งใจของคุณป้าที่จะมากราบพระบรมศพทุกวันจนกว่าสำนักพระราชวังจะปิดให้ประชาชนเข้าไปกราบพระบรมศพ ต้องขอบอกว่าหัวใจคุณป้าท่านนี้น่ากราบจริงๆครับ ผมก็ได้แต่เอาใจช่วยคุณป้าให้สามารถทำได้ตามความตั้งใจนะครับ
อีกคนหนึ่งที่ผมได้คุยด้วยเป็นน้องผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าๆ ได้ เธอคนนี้มาต่อแถวเพื่อเข้ากราบพระบรมศพ มาแล้วสามครั้ง แต่ก็ต้องออกจากแถวทุกครั้ง เพราะเธอจะต้องกลับไปทำงานหรือไปธุระก่อน เธอบอกว่าการรอในแต่ละวันใช้เวลาไม่เท่ากัน บางทีลางานมาแค่ครึ่งวัน ก็ไม่ทันได้เข้าไปกราบต้องรีบกลับไปทำงานต่อ ครั้งนี้เธอบอกตั้งใจมากมาไกลที่สุดแล้ววันนี้อยู่หน้าประตูวังแล้ว ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจเธอไปละครับว่าใกล้แล้วอีกนิดเดียว จนสุดท้ายเธอกก็ได้เข้าไปกราบพระบรมศพตามความตั้งใจ
เมื่อแถวของเราต้องเดินเข้าถึงพระบรมมหาราชวังก่อนเข้าไปก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจคัดคนที่แต่งกายไม่เหมาะสมอีกชั้นหนึ่ง ด้วยรอบนี้อาจจะยังพอแก้ไขได้เพราะมีเต๊นท์ให้ยืมเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนให้ถูกต้องก่อนเข้ากราบถวายบังคม
แต่ถ้าใครแต่งตัวไม่เหมาะสมแล้วหลุดรอดสายตาด่านตรวจแรกนี้ไปได้ ด้านในจะมีการคัดอีกรอบหนึ่งซึ่งรอบนี้ไม่มีโอกาสแก้ไขแล้วครับ ต้องมาใหม่วันหลังเลยทีเดียว เพราะต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่การต่อแถวเลยทีเดียว
ไหนๆ พูดเรื่องการแต่งกายแล้วก็ขอพูดอะไรนิดหน่อยนะครับคือสำนักพระราชวังห้ามใส่กางเกงยีนส์เข้าไปแม้แต่ยีนส์สีดำก็ห้ามใส่เข้าไปกราบพระบรมศพนะครับ แต่วันที่ผมไป ผมสังเกตว่ามีคนใส่กางเกงยีนส์สีดำเข้าไปกราบหลายคนเลย คือเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง ผมขอเตือนทุกๆ ท่านที่จะไปว่านี่เป็นงานพระราชพิธีครับ การแต่งกายอย่างเหมาะสมถูกต้อง เป็นการเทิดพระเกียตรพระองค์ท่าน และป็นความสะดวกของเราเองด้วย จะได้เข้าไปกราบถวายบังคมได้โดยเรียบร้อยไม่ติดขัด
เมื่อเข้ามาด้านในบรรยากาศโศกเศร้ามากครับ เราจะถ่ายภาพได้แค่ถึงบริเวณพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อเข้าเขตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไม่สามารถถ่ายรูปได้เลยนะครับ และต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า ทางเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะเตรียมถุงพลาสติกไว้ให้เราใส่รองเท้า
เมื่อเข้ามาด้านในที่ตั้งพระบรมโกศ ทุกคนนั่งพับเพียบหันทางขวา แล้วทางเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะบอกให้ทุกคนกราบพร้อมๆ กัน ก่อนค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกไปอย่างมีระเบียบ
เมื่อเดินออกมาก็ใส่รองเท้าให้เรียบร้อย แล้วคืนถุงดำแก่เจ้าหน้าที่ แล้วก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นได้เลยครับ วันนั้นเป็นเวลาประมาณสิบโมงเศษ
โดยสรุป ผมว่าเลือกไปเข้าคิวตั้งแต่เช้ามืดจะดีที่สุด อากาศยังไม่ร้อน ถ้าเลือกเช้าวันจันทร์โอกาสที่จะมีคนไม่มากเหมือนวันอื่นๆ ถ้าเป็นไปได้เลี่ยงวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ซึ่งจะมีคนมากรวมทั้งคนจากต่างจังหวัดด้วย เตรียมของใช้ส่วนตัวให้พร้อมหมวกร่มพัดผ้าหรือกระดาษเช็ดเหงื่อถุงใส่ขยะส่วนตัวเอาออกมาทิ้งที่บ้าน เตรียมกระติกใส่น้ำพกพาอาหารกันหิว ยาหม่องยาดมและยาประจำตัวอื่นๆที่จำเป็นผู้สูงอายุหรือสุขภาพไม่แข็งแรงควรใช้หน้ากากอนามัยป้องกันตัวเอง
ขอให้ทุกท่านบรรลุปรารถนาในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เดินทางปลอดภัย รักษาสุขภาพด้วยนะครับ