มาจับโปเกมอนกันเถอะ!!!
ช่วงนี้สิ่งที่ฮิตที่สุดในบ้านเราคง นอกจากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๕๙ และคำถามพ่วงแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า “โปเกมอน โก” (Pokemon Go) ที่เพิ่งจะเปิดให้บริการในบ้านเราเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม (แย่งซีนก่อนวันลงประชามติไป ๑ วัน) พร้อมกับอีก ๑๕ ประเทศในทวีปเอเชีย และ กลุ่มประเทศโอเชียเนีย ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม, ไต้หวัน, ปาปัวนิวกินี, ฟิจิ, หมู่เกาะโซโลมอน, หมู่เกาะไมโคเนียเชีย, ปาเลา
ซึ่งเกมนี้ผลิตโดยบริษัท ไนแอนติก (Niantic) ร่วมกับ บริษัท โปเกมอน เจ้าของลิขสิทธิ์โปเกมอน แต่เดิมมีจุดกำเนิดมาจากมุกตลกในวันเอพริล ฟูล เดย์ ของกูเกิลแมปในปี ๒๕๕๗ ที่ให้คนส่องหาโปเกมอนในแผนที่ จนในปีถัดมาได้มีการเปิดตัวหนังตัวอย่างรูปแบบของเกมนี้ ก่อนจะเพิ่งเปิดให้บริการ ๔ ประเทศแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา
รูปแบบของเกม ณ ตอนนี้คือให้ผู้เล่นจับโปเกมอนผ่านสมาร์ทโฟนโดยใช้แผนที่จริง เพื่อสะสมเลเวล และสะสมโปเกมอนที่มีค่าพลังสูงๆ เพื่อเอาไปใช้ต่อสู้แย่งชิงยิม ที่ตั้งตามจุดต่างๆ อาทิ สถานที่สำคัญของพื้นที่นั้นๆ อย่างแถวถนนพระอาทิตย์ ก็มียิมอยู่ที่ป้อมพระสุเมรุ โดยผู้เล่นสามารถเก็บโปเกบอล ลูกบอลที่ใช้จับโปเกมอนได้ที่โปเกสต๊อป (Pokestop) หรือ กล่องสีฟ้าภายในแผนที่ ที่มีคนบ่นๆ กันว่า อยู่ตามศาลพระภูมิอะไรอย่างนี้
ซึ่งที่มันอยู่ตามศาลพระภูมิ มีรายงานว่า เป็นเพราะเกมๆ นึงที่ชื่อว่า อินเกรส (Ingress) เกมที่โด่งดังของค่ายไนแอนติก เนี่ยล่ะครับ เล่นผ่านแผนที่จริงเหมือนกัน โดยใช้เสาที่ดูมีเอกลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ที่ให้แต่ละทีมในเกมมาแย่งชิง ที่นี้ของบ้านเราก็มีคนส่งเสาโน้นนี่นั่นแต่ไม่ถูกใจเขาสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมีคนบอกว่าส่งศาลพระภูมิไปแล้วเขาบรรจุเป็นสัญลักษณ์ในเกม ก็เลยมีเกมเมอร์แห่กันส่งไปเพียบ พอค่ายนี้ทำเกมโปเกมอน จึงดึงเอาข้อมูลแผนที่เก่าจากเกมอินเกรสไปใส่ไว้ในเกมเสียเลย เพื่อประหยัดเวลา
และจริงๆ ไอ้จุดโปเกสต๊อป มันก็ไม่ได้มีแค่ศาลพระภูมินะครับ รูปปั้น ป้ายสัญลักษณ์ ก็ยังเป็นจุดให้ผู้เล่นมาหมุนเพื่อหาลูกบอลและไอเทมอื่นๆ อย่าง แท่งชุบชีวิต (Rivive) สเปรย์คืนค่าพลัง (Potion) เอาไว้ใช้รักษาโปเกมอน ,น้ำหอม (Incense) ไว้ใช้ดึงดูดให้โปเกมอนมาหา ,อาหารโปเกมอนที่ทำให้จับง่ายขึ้น (Razz Berry) , ลูร์ โมดูล (Lure Module) (กล่องสีฟ้าที่มีกลีบซากุระล้อมรอบ) ทำให้โปเกมอนสนใจมายังจุดโปเกสต๊อป , ไข่โปเกมอน และไข่ที่ใช้แล้วจะช่วยเพิ่มค่าพลังของเรา (Lucky egg) อีกด้วย
ว่าแต่เล่นแล้วได้อะไร?
ผมเชื่อว่าหลายคนคงกำลังได้สัมผัสกับเกมนี้กันแล้ว และก็มีหลายคนตัดสินใจลบทิ้งไปแล้วเช่นกัน เท่าที่ทราบมาจาก ๒ เหตุผล ๑.เล่นไม่เป็น ไม่เข้าใจในระบบการเล่น และ ๒.เบื่อ ... อันเนื่องมาจาก ได้ตัวโปเกมอนง่าย และ ยาก เกินไป บางคนบ้านอยู่ในเมืองแถมใกล้จุดโปเกสต๊อป อยู่ในบ้านนอนๆ อยู่ยังจับได้สบาย จนหมดความท้าทาย ในขณะที่บางคนอย่างชาวชนบทที่อยู่ไกลจุดโปเกสต๊อปก็ทำให้จับโปเกมอนได้ยากขึ้น (มาก!!) ทำให้ขี้เกียจเล่นและเลิกไปในที่สุด ส่วนคนที่เหลือก็ก้มหน้าก้มตาตามล่าโปเกมอนกันไป
แต่ก็มีบางพวกที่ยังไม่ได้โหลด หรือไม่คิดจะโหลดเกมมาเล่น แต่ก็ตีความในแง่ร้ายกับเกมในหลายๆ ด้าน บ้างก็ว่า อาจทำให้กลายเป็นสังคมก้มหน้ากันมากขึ้นเพราะมัวเอาแต่มองจอ , อาจถูกแฮกข้อมูลนำไปใช้จากระบบจีพีเอสหรืออีเมล จนไปถึงเป็นบ่อเกิดแห่งคดีอาชญากรรม และกระทบต่อความมั่นคง
แน่นอนครับจากข่าวไม่ค่อยดีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ทำให้ผมไม่ปฏิเสธว่า การรักษาความปลอดภัยที่ไม่ค่อยปลอดภัยแบบในบ้านเรา รวมทั้งพฤติกรรมของผู้เล่นบางคน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงไม่น้อย เช่น ถูกโจรกรรมมือถือ ,ใช้ลูร์ โมดูล ล่อลวงให้ผู้เล่นเข้าไปในจุดโปเกสต๊อปที่เปลี่ยว หรือ พูดจาล่อลวงให้เข้าไปในสถานที่ลับแล้วทำร้าย ชิงทรัพย์ และอุบัติเหตุบนทางเท้าและบนถนน อาทิ เดินตกท่อ ชนสิ่งกีดขวาง ถูกรถเฉี่ยวชน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าคงจะเห็นข่าวในห้วง ๑ - ๒ สัปดาห์
แล้วจะ “ทำอย่างไรให้เราไม่ซวย” ขนาดนั้น ... อย่างแรกต้องป้องกันตัวเองก่อนครับ!! เริ่มจากมือถือที่รับรองเกมนี้ค่อนข้างมีราคาสูง (คาดว่าน่าจะราคาหมื่นบาทขึ้นไปทั้งนั้น) จึงเป็นที่ล่อตาล่อใจของเหล่ามิจฉาชีพให้เข้ามาฉกชิงเสียเหลือเกิน จึงต้องมีวิธีที่อย่างน้อยจะช่วยให้พ้นสายตาของคนพรรค์นี้
วิธีป้องกันง่ายๆ ที่ผมทำอยู่และน่าจะช่วยได้ก็คือ "ไม่เดินถือโทรศัพท์ตลอดเวลาในระหว่างเล่น" โดยเฉพาะในโซนที่ความปลอดภัยต่ำ เช่น ริมถนน ในซอย หรือที่ที่เทรนเนอร์ (ชื่อที่ใช้เรียกพวกฝึกโปเกมอน) ไม่พลุกพล่าน หลายคนคงสงสัย อ้าวเฮ้ย แล้วจะรู้ได้ยังไงเมื่อโปเกมอนโผล่ขึ้นมา ผมใช้วิธีเสียบหูฟังแล้วพกมือถือไว้ในกระเป๋าขณะที่เดินแทนครับ เพราะในเกมจะมีการส่งสัญญาณเตือนสิ่งต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งเสียงติ๊งเมื่ออยู่ใกล้โปเกสต๊อป และเสียงแฉ่เมื่อพบตัวโปเกมอนในพื้นที่ ซึ่งเสียงมันค่อนข้างดังจนทำให้รู้สึกตัวได้อยู่ เมื่อถึงเวลานั้นจึงนำโทรศัพท์มือถือออกมาจัดการ
แน่นอนว่า พอได้ยินเสียงแล้วมันจะทำให้เราสะดุ้งจนต้องรีบควักโทรศัพท์ออกมาอย่างทันทีทันใด แต่ระหว่างนั้นขอให้มองรอบด้านว่าเรายืนกีดขวางใครหรือไม่ ถ้าใช่ให้หลบไปอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่ติดกับถนน เพราะเสี่ยงต่อการถูกวิ่งราวได้ง่าย เมื่อทำภารกิจก็อย่าเผลอ ให้คอยสอดส่องสายตาดูสิ่งรอบข้างไปด้วย
ส่วนผู้ใช้รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ถ้าขับรถอยู่ก็ขอความกรุณางดเล่นเถอะครับ โดยเฉพาะรถยนต์นอกจากจะผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก แล้วยังเสี่ยงมากๆ ต่ออุบัติเหตุ และการกีดขวางทางจราจรอีกด้วย สำหรับผู้โดยสาร จริงๆ ถ้าพบโปเกมอนอยู่บนถนนก็ยังสามารถจับได้โดยไม่ต้องหยุดรถแต่อย่างใด
เทรนเนอร์โดยเฉพาะสตรีที่มาคนเดียวไม่ควรเข้าไปในที่เปลี่ยว ที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือไปตามล่ากันในยามวิกาล เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดคดีอาชญากรรมจากผู้ไม่ประสงค์ดีได้ ล่าสุดเห็นข่าวว่ามีบางพื้นที่ให้ตำรวจโหลดเกมเพื่อจะได้ทราบว่ามีจุดใดบ้างที่ถูกวางโปเกสต๊อป และยิม อันนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะได้ดูแลรักษาความปลอดภัยกันได้มากขึ้น และก็ยังสามารถใช้ตรวจสอบวัยรุ่นบางกลุ่มที่ออกมาแข่งรถหรือทำผิดกฏหมายในยามวิกาลแล้วตีเนียนอ้างว่ามาจับโปเกมอนได้ด้วย อาทิ เช็กการใช้งานเกม เป็นต้น
บางสถานที่แม้จะมีโปเกสต๊อป หรือ ยิม ก็อย่าดันทุรังเข้าไปเลยครับ เช่น ภายในสถานที่ราชการ เขตหวงห้ามของทหาร ปล่อยให้เขาเล่นกันเองไปเถอะ หรือบางแห่งมีการจำกัดเวลาเข้าออก ก็อย่าไปถึงขนาดปีนรั้วเข้าไปขนาดนั้น นี่ยังดีที่ตอนที่เปิดให้เล่นในเมืองไทยเขาเอาจุดคะเนพิกัดโปเกมอนออกไปแล้ว มิฉะนั้นล่ะได้เห็นข่าวคนลักลอบเข้าสถานที่ต้องห้ามกันเพียบแน่ๆ
ที่สำคัญคือควรเล่นอย่างรู้กาลเทศะ เทรนเนอร์ไม่ควรปรากฏตัวในช่วงการเรียนการสอน ช่วงเวลาปฏิบัติภารกิจ หรือ ศาสนกิจ (เห็นเริ่มมีพระโหลดมาเล่นกันแล้ว) และในเวลาประชุม นอกจากจะทำให้ผู้เล่นเสียสมาธิแล้ว ยังทำให้ผู้สอนและผู้นำประชุมต้องควักโทรศัพท์ออกมาล่าบ้าง เอ๊ย ไม่ใช่ ทำให้พวกเขาเกิดความไม่พอใจจนกลายเป็นปัญหาระหว่างบุคคลขึ้นมาอีก
ถ้ากลัวถูกแฮกอีเมล ก็สร้างอีเมลใหม่ขึ้นมาเพื่อเล่นเกมนี้โดยเฉพาะ หรือถ้ากลัวปัญหาระบบติดตามตัวผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) จะทำให้เจ้าของเกมรู้พิกัดของเราและอาจนำไปใช้ ก็พยายามไม่เปิดเล่นภายในที่พัก ที่ทำงาน หรือที่ส่วนตัวของเรา รวมทั้งไม่เล่นในจุดๆ นั้นเป็นประจำ ก็อาจช่วยได้ (บ้าง)
สำหรับ “ปัญหาความมั่นคง” ... พูดกันตรงๆ ผมอาจจะดูกังวลมากไปหน่อย แต่มันก็มีความเป็นไปได้ครับ!! โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงอย่างจังหวัดชายแดนใต้นั้น มีความเสี่ยงที่เกมนี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อคดี จากจุดที่เป็นโปเกสต๊อป และ ยิม ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่ามีจุดไหน และจุดนั้นหน่วยงานความมั่นคงสามารถดูแลคุ้มครองได้หรือไม่ ตรงนี้กองทัพควรโหลดเกมมาศึกษาอย่างเร่งด่วน ว่ามันอยู่ที่ใด และเสี่ยงภัยแค่ไหน หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงอาจแจ้งให้ทาง กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่เห็นว่าพยายามคุยกับเจ้าของเกมอยู่ในประเด็นการปักหมุดจุดต่างๆ อยู่นั้น ให้ช่วยเพิ่มในเรื่องของการถอดจุดโปเกสต๊อป และ ยิม ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยออกจากเกมหรือย้ายไปยังจุดที่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ด้วย
เอาจริงๆ จากที่ลองเล่นมาตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ ก็ค้นพบ “ข้อดี” หลายอย่าง เช่น ทำให้เราได้ออกกำลังกายมากขึ้น จากการเดินตามหาโปเกมอน โปเกสต๊อป จุดยิม หรือเดินฟักไข่ที่เราได้จากโปเกสต๊อป อันนี้คือตัวที่ทำให้เราต้องเดินมากขึ้น เพราะไข่แต่ละใบจะกำหนดระยะทางการเดินไม่เหมือนกัน อาทิ ๒ , ๕ และ ๑๐ กิโลเมตร เมื่อเดินจนครบกำหนดไข่ถึงจะฟักออกมาเป็นโปเกมอนได้ ถือเป็นการบังคับให้ต้องเดิน วิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้รู้จักรอบบ้าน หรือ ที่ทำงานเรามากขึ้น ทำให้ได้รู้ว่า เออ เฮ้ย ไอ้บ้านนี้มันมีรูปหน้าคนอยู่บนกำแพงด้วยเว้ย สังเกตในสิ่งที่มองข้าม และยังทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง สถานที่จริง อย่างที่เราได้เห็นบรรดาเทรนเนอร์ มากมายมาชุมนุมกันในสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า เพื่อตามจับตัวโปเกมอนกัน จนอาจได้พบกับมิตรภาพใหม่ๆ ที่เกิดจากการถามไถ่โปเกมอนก็เป็นได้
ทำให้เราได้ออกไปพบยังสถานที่ใหม่ๆ อย่างในข่าวที่เห็นว่า มีผู้คนจำนวนมากแห่ไปยังสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กของจังหวัด เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณคดี สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อไปจับโปเกมอน สำหรับคนท้องถิ่นบางคนอาจเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องไปเพราะเกมนี้ ถ้าเคราะห์ดีมันก็อาจทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรจากพื้นที่มากขึ้น อย่างน้อยก็รู้ว่า เฮ้ย บ้านเรามีแบบนี้ด้วย
แถมยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นโอกาสทองของร้านค้า ที่อยู่ในบริเวณที่มีจุดโปเกสต๊อปอยู่ใกล้กันหลายเสา ขายดีมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเอง ก็ต้องรีบดำเนินการคุยกับทางเจ้าของเกม เพื่อขอความกรุณาให้ปล่อยตัวละครหายากบางตัวนำมาไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเกมนี้ จำเป็นที่จะต้องมาเพื่อจับโปเกมอนชนิดพิเศษที่นั่น
และนี่ยังเป็นโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ระหว่างพ่อแม่ลูก ให้ร่วมกันทำกิจกรรมนอกบ้าน ผมสังเกตจากเมื่อวันลงประชามติ หลายครอบครัวพากันมาเดินจับโปเกมอนกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็เหมารถสามล้อตระเวนหากันเลยก็มี ซึ่งช่วงเวลานี้อาจทำให้พวกเขาได้คุยในเรื่องเดียวกัน เกิดความไว้วางใจกัน จนไปสู่การยอมรับในกันและกัน เด็กก็อาจพร้อมที่จะฟังพ่อแม่มากขึ้น ในขณะที่มันก็อาจทำให้ผู้ปกครองเข้าใจความคิดของเด็กมากขึ้น
และที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ ... นี่เป็นเพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของเกมนี้เท่านั้น!! มีรายงานว่า เกมที่ปล่อยมาให้เล่นนี้เป็นเพียงแค่ ๑๐ % ของทั้งหมด ถ้าเราดูจากทีเซอร์เปิดตัวเกมเมื่อปีที่แล้วนั้น จะพบว่ามีหลายส่วนที่ยังไม่เปิดให้ทำกิจกรรม ทั้งการแลกเปลี่ยนโปเกมอนระหว่างผู้เล่น การนำโปเกมอนมาต่อสู้กับผู้เล่นอื่นทั้งแบบเดี่ยว และแบบทีม รวมทั้งการต่อสู้กับโปเกมอนระดับหัวหน้าที่ผู้เล่นทั้งหมดอาจต้องไปรวมตัวกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เพื่อร่วมกันเปิดฉากต่อสู้กับบอสส์
นี่คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปกับเกมนี้ ที่ทำให้คนรุ่นผม (หรือหลังจากผม) ได้หวนคืนความรู้สึกแบบวัยเยาว์เมื่อครั้งนั่งดูการ์ตูน โปเกมอน แล้วนึกจินตนาการตัวเองให้เป็นพระเอกของเรื่องอย่าง ซาโตชิ พาเจ้าโปเกมอนน้อยพิกาจูไปผจญภัย แต่บัดนี้กลับกลายเป็นเราได้สวมบทบาทและเลือกหนทางไปต่อสู้ในเกมที่มีโลกแห่งความเป็นจริงเป็นฉากได้ด้วยตัวเอง
ช่วงนี้สิ่งที่ฮิตที่สุดในบ้านเราคง นอกจากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๕๙ และคำถามพ่วงแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า “โปเกมอน โก” (Pokemon Go) ที่เพิ่งจะเปิดให้บริการในบ้านเราเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม (แย่งซีนก่อนวันลงประชามติไป ๑ วัน) พร้อมกับอีก ๑๕ ประเทศในทวีปเอเชีย และ กลุ่มประเทศโอเชียเนีย ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม, ไต้หวัน, ปาปัวนิวกินี, ฟิจิ, หมู่เกาะโซโลมอน, หมู่เกาะไมโคเนียเชีย, ปาเลา
ซึ่งเกมนี้ผลิตโดยบริษัท ไนแอนติก (Niantic) ร่วมกับ บริษัท โปเกมอน เจ้าของลิขสิทธิ์โปเกมอน แต่เดิมมีจุดกำเนิดมาจากมุกตลกในวันเอพริล ฟูล เดย์ ของกูเกิลแมปในปี ๒๕๕๗ ที่ให้คนส่องหาโปเกมอนในแผนที่ จนในปีถัดมาได้มีการเปิดตัวหนังตัวอย่างรูปแบบของเกมนี้ ก่อนจะเพิ่งเปิดให้บริการ ๔ ประเทศแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา
รูปแบบของเกม ณ ตอนนี้คือให้ผู้เล่นจับโปเกมอนผ่านสมาร์ทโฟนโดยใช้แผนที่จริง เพื่อสะสมเลเวล และสะสมโปเกมอนที่มีค่าพลังสูงๆ เพื่อเอาไปใช้ต่อสู้แย่งชิงยิม ที่ตั้งตามจุดต่างๆ อาทิ สถานที่สำคัญของพื้นที่นั้นๆ อย่างแถวถนนพระอาทิตย์ ก็มียิมอยู่ที่ป้อมพระสุเมรุ โดยผู้เล่นสามารถเก็บโปเกบอล ลูกบอลที่ใช้จับโปเกมอนได้ที่โปเกสต๊อป (Pokestop) หรือ กล่องสีฟ้าภายในแผนที่ ที่มีคนบ่นๆ กันว่า อยู่ตามศาลพระภูมิอะไรอย่างนี้
ซึ่งที่มันอยู่ตามศาลพระภูมิ มีรายงานว่า เป็นเพราะเกมๆ นึงที่ชื่อว่า อินเกรส (Ingress) เกมที่โด่งดังของค่ายไนแอนติก เนี่ยล่ะครับ เล่นผ่านแผนที่จริงเหมือนกัน โดยใช้เสาที่ดูมีเอกลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ที่ให้แต่ละทีมในเกมมาแย่งชิง ที่นี้ของบ้านเราก็มีคนส่งเสาโน้นนี่นั่นแต่ไม่ถูกใจเขาสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมีคนบอกว่าส่งศาลพระภูมิไปแล้วเขาบรรจุเป็นสัญลักษณ์ในเกม ก็เลยมีเกมเมอร์แห่กันส่งไปเพียบ พอค่ายนี้ทำเกมโปเกมอน จึงดึงเอาข้อมูลแผนที่เก่าจากเกมอินเกรสไปใส่ไว้ในเกมเสียเลย เพื่อประหยัดเวลา
และจริงๆ ไอ้จุดโปเกสต๊อป มันก็ไม่ได้มีแค่ศาลพระภูมินะครับ รูปปั้น ป้ายสัญลักษณ์ ก็ยังเป็นจุดให้ผู้เล่นมาหมุนเพื่อหาลูกบอลและไอเทมอื่นๆ อย่าง แท่งชุบชีวิต (Rivive) สเปรย์คืนค่าพลัง (Potion) เอาไว้ใช้รักษาโปเกมอน ,น้ำหอม (Incense) ไว้ใช้ดึงดูดให้โปเกมอนมาหา ,อาหารโปเกมอนที่ทำให้จับง่ายขึ้น (Razz Berry) , ลูร์ โมดูล (Lure Module) (กล่องสีฟ้าที่มีกลีบซากุระล้อมรอบ) ทำให้โปเกมอนสนใจมายังจุดโปเกสต๊อป , ไข่โปเกมอน และไข่ที่ใช้แล้วจะช่วยเพิ่มค่าพลังของเรา (Lucky egg) อีกด้วย
ว่าแต่เล่นแล้วได้อะไร?
ผมเชื่อว่าหลายคนคงกำลังได้สัมผัสกับเกมนี้กันแล้ว และก็มีหลายคนตัดสินใจลบทิ้งไปแล้วเช่นกัน เท่าที่ทราบมาจาก ๒ เหตุผล ๑.เล่นไม่เป็น ไม่เข้าใจในระบบการเล่น และ ๒.เบื่อ ... อันเนื่องมาจาก ได้ตัวโปเกมอนง่าย และ ยาก เกินไป บางคนบ้านอยู่ในเมืองแถมใกล้จุดโปเกสต๊อป อยู่ในบ้านนอนๆ อยู่ยังจับได้สบาย จนหมดความท้าทาย ในขณะที่บางคนอย่างชาวชนบทที่อยู่ไกลจุดโปเกสต๊อปก็ทำให้จับโปเกมอนได้ยากขึ้น (มาก!!) ทำให้ขี้เกียจเล่นและเลิกไปในที่สุด ส่วนคนที่เหลือก็ก้มหน้าก้มตาตามล่าโปเกมอนกันไป
แต่ก็มีบางพวกที่ยังไม่ได้โหลด หรือไม่คิดจะโหลดเกมมาเล่น แต่ก็ตีความในแง่ร้ายกับเกมในหลายๆ ด้าน บ้างก็ว่า อาจทำให้กลายเป็นสังคมก้มหน้ากันมากขึ้นเพราะมัวเอาแต่มองจอ , อาจถูกแฮกข้อมูลนำไปใช้จากระบบจีพีเอสหรืออีเมล จนไปถึงเป็นบ่อเกิดแห่งคดีอาชญากรรม และกระทบต่อความมั่นคง
แน่นอนครับจากข่าวไม่ค่อยดีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ทำให้ผมไม่ปฏิเสธว่า การรักษาความปลอดภัยที่ไม่ค่อยปลอดภัยแบบในบ้านเรา รวมทั้งพฤติกรรมของผู้เล่นบางคน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงไม่น้อย เช่น ถูกโจรกรรมมือถือ ,ใช้ลูร์ โมดูล ล่อลวงให้ผู้เล่นเข้าไปในจุดโปเกสต๊อปที่เปลี่ยว หรือ พูดจาล่อลวงให้เข้าไปในสถานที่ลับแล้วทำร้าย ชิงทรัพย์ และอุบัติเหตุบนทางเท้าและบนถนน อาทิ เดินตกท่อ ชนสิ่งกีดขวาง ถูกรถเฉี่ยวชน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าคงจะเห็นข่าวในห้วง ๑ - ๒ สัปดาห์
แล้วจะ “ทำอย่างไรให้เราไม่ซวย” ขนาดนั้น ... อย่างแรกต้องป้องกันตัวเองก่อนครับ!! เริ่มจากมือถือที่รับรองเกมนี้ค่อนข้างมีราคาสูง (คาดว่าน่าจะราคาหมื่นบาทขึ้นไปทั้งนั้น) จึงเป็นที่ล่อตาล่อใจของเหล่ามิจฉาชีพให้เข้ามาฉกชิงเสียเหลือเกิน จึงต้องมีวิธีที่อย่างน้อยจะช่วยให้พ้นสายตาของคนพรรค์นี้
วิธีป้องกันง่ายๆ ที่ผมทำอยู่และน่าจะช่วยได้ก็คือ "ไม่เดินถือโทรศัพท์ตลอดเวลาในระหว่างเล่น" โดยเฉพาะในโซนที่ความปลอดภัยต่ำ เช่น ริมถนน ในซอย หรือที่ที่เทรนเนอร์ (ชื่อที่ใช้เรียกพวกฝึกโปเกมอน) ไม่พลุกพล่าน หลายคนคงสงสัย อ้าวเฮ้ย แล้วจะรู้ได้ยังไงเมื่อโปเกมอนโผล่ขึ้นมา ผมใช้วิธีเสียบหูฟังแล้วพกมือถือไว้ในกระเป๋าขณะที่เดินแทนครับ เพราะในเกมจะมีการส่งสัญญาณเตือนสิ่งต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งเสียงติ๊งเมื่ออยู่ใกล้โปเกสต๊อป และเสียงแฉ่เมื่อพบตัวโปเกมอนในพื้นที่ ซึ่งเสียงมันค่อนข้างดังจนทำให้รู้สึกตัวได้อยู่ เมื่อถึงเวลานั้นจึงนำโทรศัพท์มือถือออกมาจัดการ
แน่นอนว่า พอได้ยินเสียงแล้วมันจะทำให้เราสะดุ้งจนต้องรีบควักโทรศัพท์ออกมาอย่างทันทีทันใด แต่ระหว่างนั้นขอให้มองรอบด้านว่าเรายืนกีดขวางใครหรือไม่ ถ้าใช่ให้หลบไปอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่ติดกับถนน เพราะเสี่ยงต่อการถูกวิ่งราวได้ง่าย เมื่อทำภารกิจก็อย่าเผลอ ให้คอยสอดส่องสายตาดูสิ่งรอบข้างไปด้วย
ส่วนผู้ใช้รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ถ้าขับรถอยู่ก็ขอความกรุณางดเล่นเถอะครับ โดยเฉพาะรถยนต์นอกจากจะผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก แล้วยังเสี่ยงมากๆ ต่ออุบัติเหตุ และการกีดขวางทางจราจรอีกด้วย สำหรับผู้โดยสาร จริงๆ ถ้าพบโปเกมอนอยู่บนถนนก็ยังสามารถจับได้โดยไม่ต้องหยุดรถแต่อย่างใด
เทรนเนอร์โดยเฉพาะสตรีที่มาคนเดียวไม่ควรเข้าไปในที่เปลี่ยว ที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือไปตามล่ากันในยามวิกาล เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดคดีอาชญากรรมจากผู้ไม่ประสงค์ดีได้ ล่าสุดเห็นข่าวว่ามีบางพื้นที่ให้ตำรวจโหลดเกมเพื่อจะได้ทราบว่ามีจุดใดบ้างที่ถูกวางโปเกสต๊อป และยิม อันนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะได้ดูแลรักษาความปลอดภัยกันได้มากขึ้น และก็ยังสามารถใช้ตรวจสอบวัยรุ่นบางกลุ่มที่ออกมาแข่งรถหรือทำผิดกฏหมายในยามวิกาลแล้วตีเนียนอ้างว่ามาจับโปเกมอนได้ด้วย อาทิ เช็กการใช้งานเกม เป็นต้น
บางสถานที่แม้จะมีโปเกสต๊อป หรือ ยิม ก็อย่าดันทุรังเข้าไปเลยครับ เช่น ภายในสถานที่ราชการ เขตหวงห้ามของทหาร ปล่อยให้เขาเล่นกันเองไปเถอะ หรือบางแห่งมีการจำกัดเวลาเข้าออก ก็อย่าไปถึงขนาดปีนรั้วเข้าไปขนาดนั้น นี่ยังดีที่ตอนที่เปิดให้เล่นในเมืองไทยเขาเอาจุดคะเนพิกัดโปเกมอนออกไปแล้ว มิฉะนั้นล่ะได้เห็นข่าวคนลักลอบเข้าสถานที่ต้องห้ามกันเพียบแน่ๆ
ที่สำคัญคือควรเล่นอย่างรู้กาลเทศะ เทรนเนอร์ไม่ควรปรากฏตัวในช่วงการเรียนการสอน ช่วงเวลาปฏิบัติภารกิจ หรือ ศาสนกิจ (เห็นเริ่มมีพระโหลดมาเล่นกันแล้ว) และในเวลาประชุม นอกจากจะทำให้ผู้เล่นเสียสมาธิแล้ว ยังทำให้ผู้สอนและผู้นำประชุมต้องควักโทรศัพท์ออกมาล่าบ้าง เอ๊ย ไม่ใช่ ทำให้พวกเขาเกิดความไม่พอใจจนกลายเป็นปัญหาระหว่างบุคคลขึ้นมาอีก
ถ้ากลัวถูกแฮกอีเมล ก็สร้างอีเมลใหม่ขึ้นมาเพื่อเล่นเกมนี้โดยเฉพาะ หรือถ้ากลัวปัญหาระบบติดตามตัวผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) จะทำให้เจ้าของเกมรู้พิกัดของเราและอาจนำไปใช้ ก็พยายามไม่เปิดเล่นภายในที่พัก ที่ทำงาน หรือที่ส่วนตัวของเรา รวมทั้งไม่เล่นในจุดๆ นั้นเป็นประจำ ก็อาจช่วยได้ (บ้าง)
สำหรับ “ปัญหาความมั่นคง” ... พูดกันตรงๆ ผมอาจจะดูกังวลมากไปหน่อย แต่มันก็มีความเป็นไปได้ครับ!! โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงอย่างจังหวัดชายแดนใต้นั้น มีความเสี่ยงที่เกมนี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อคดี จากจุดที่เป็นโปเกสต๊อป และ ยิม ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่ามีจุดไหน และจุดนั้นหน่วยงานความมั่นคงสามารถดูแลคุ้มครองได้หรือไม่ ตรงนี้กองทัพควรโหลดเกมมาศึกษาอย่างเร่งด่วน ว่ามันอยู่ที่ใด และเสี่ยงภัยแค่ไหน หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงอาจแจ้งให้ทาง กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่เห็นว่าพยายามคุยกับเจ้าของเกมอยู่ในประเด็นการปักหมุดจุดต่างๆ อยู่นั้น ให้ช่วยเพิ่มในเรื่องของการถอดจุดโปเกสต๊อป และ ยิม ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยออกจากเกมหรือย้ายไปยังจุดที่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ด้วย
เอาจริงๆ จากที่ลองเล่นมาตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ ก็ค้นพบ “ข้อดี” หลายอย่าง เช่น ทำให้เราได้ออกกำลังกายมากขึ้น จากการเดินตามหาโปเกมอน โปเกสต๊อป จุดยิม หรือเดินฟักไข่ที่เราได้จากโปเกสต๊อป อันนี้คือตัวที่ทำให้เราต้องเดินมากขึ้น เพราะไข่แต่ละใบจะกำหนดระยะทางการเดินไม่เหมือนกัน อาทิ ๒ , ๕ และ ๑๐ กิโลเมตร เมื่อเดินจนครบกำหนดไข่ถึงจะฟักออกมาเป็นโปเกมอนได้ ถือเป็นการบังคับให้ต้องเดิน วิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้รู้จักรอบบ้าน หรือ ที่ทำงานเรามากขึ้น ทำให้ได้รู้ว่า เออ เฮ้ย ไอ้บ้านนี้มันมีรูปหน้าคนอยู่บนกำแพงด้วยเว้ย สังเกตในสิ่งที่มองข้าม และยังทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง สถานที่จริง อย่างที่เราได้เห็นบรรดาเทรนเนอร์ มากมายมาชุมนุมกันในสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า เพื่อตามจับตัวโปเกมอนกัน จนอาจได้พบกับมิตรภาพใหม่ๆ ที่เกิดจากการถามไถ่โปเกมอนก็เป็นได้
ทำให้เราได้ออกไปพบยังสถานที่ใหม่ๆ อย่างในข่าวที่เห็นว่า มีผู้คนจำนวนมากแห่ไปยังสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กของจังหวัด เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณคดี สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อไปจับโปเกมอน สำหรับคนท้องถิ่นบางคนอาจเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องไปเพราะเกมนี้ ถ้าเคราะห์ดีมันก็อาจทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรจากพื้นที่มากขึ้น อย่างน้อยก็รู้ว่า เฮ้ย บ้านเรามีแบบนี้ด้วย
แถมยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นโอกาสทองของร้านค้า ที่อยู่ในบริเวณที่มีจุดโปเกสต๊อปอยู่ใกล้กันหลายเสา ขายดีมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเอง ก็ต้องรีบดำเนินการคุยกับทางเจ้าของเกม เพื่อขอความกรุณาให้ปล่อยตัวละครหายากบางตัวนำมาไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเกมนี้ จำเป็นที่จะต้องมาเพื่อจับโปเกมอนชนิดพิเศษที่นั่น
และนี่ยังเป็นโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ระหว่างพ่อแม่ลูก ให้ร่วมกันทำกิจกรรมนอกบ้าน ผมสังเกตจากเมื่อวันลงประชามติ หลายครอบครัวพากันมาเดินจับโปเกมอนกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็เหมารถสามล้อตระเวนหากันเลยก็มี ซึ่งช่วงเวลานี้อาจทำให้พวกเขาได้คุยในเรื่องเดียวกัน เกิดความไว้วางใจกัน จนไปสู่การยอมรับในกันและกัน เด็กก็อาจพร้อมที่จะฟังพ่อแม่มากขึ้น ในขณะที่มันก็อาจทำให้ผู้ปกครองเข้าใจความคิดของเด็กมากขึ้น
และที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ ... นี่เป็นเพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของเกมนี้เท่านั้น!! มีรายงานว่า เกมที่ปล่อยมาให้เล่นนี้เป็นเพียงแค่ ๑๐ % ของทั้งหมด ถ้าเราดูจากทีเซอร์เปิดตัวเกมเมื่อปีที่แล้วนั้น จะพบว่ามีหลายส่วนที่ยังไม่เปิดให้ทำกิจกรรม ทั้งการแลกเปลี่ยนโปเกมอนระหว่างผู้เล่น การนำโปเกมอนมาต่อสู้กับผู้เล่นอื่นทั้งแบบเดี่ยว และแบบทีม รวมทั้งการต่อสู้กับโปเกมอนระดับหัวหน้าที่ผู้เล่นทั้งหมดอาจต้องไปรวมตัวกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เพื่อร่วมกันเปิดฉากต่อสู้กับบอสส์
นี่คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปกับเกมนี้ ที่ทำให้คนรุ่นผม (หรือหลังจากผม) ได้หวนคืนความรู้สึกแบบวัยเยาว์เมื่อครั้งนั่งดูการ์ตูน โปเกมอน แล้วนึกจินตนาการตัวเองให้เป็นพระเอกของเรื่องอย่าง ซาโตชิ พาเจ้าโปเกมอนน้อยพิกาจูไปผจญภัย แต่บัดนี้กลับกลายเป็นเราได้สวมบทบาทและเลือกหนทางไปต่อสู้ในเกมที่มีโลกแห่งความเป็นจริงเป็นฉากได้ด้วยตัวเอง