xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวเศรษฐกิจกับพวกรอซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

อาจกล่าวได้ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลา “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” สำหรับรัฐบาล

ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เข้ามารุมล้อม ทั้งเศรษฐกิจระดับมหภาคและจุลภาค

ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความไม่มั่นคงของเศรษฐกิจจีน ที่ตลาดหุ้นร่วงจากความกังวลเรื่องค่าเงินหยวนอ่อนตัวลงต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี

มาตรการหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว หรือเซอร์กิต เบรกเกอร์ (Circuit Breaker) ซึ่งทางการจีนเริ่มนำมาใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม ก็ได้ “ทดลองระบบ” กันไปจริงๆ ถึงสองรอบ ในวันที่ 4 และ 7 มกราคมตามลำดับ โดยรอบหลังนี้เกิดขึ้นหลังจากเปิดตลาดมาราวครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และส่งผลให้ปิดการซื้อขายหุ้นไปตลอดวันนั้น

ผลกระทบของตลาดหุ้นจีนทำให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปจนดัชนี SET ลงถึงหลัก 1,200 เกือบแตะถึง 1,100 จุด

เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก และเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปด้วยกันทั้งหมด

แต่ประเทศไทยก็ถูกซ้ำเติมด้วยปัจจัยทั้งภายนอกภายใน ปัจจัยภายนอกนั้นก็ได้แก่การที่ชาติตะวันตกต่างๆ ช่วยกัน “เช็กบิล” โดยอ้างเรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเรื่องอื่นๆ ทำการบีบและกดดันไทยผ่านกระบวนการทางการค้าหลายอย่าง

ทั้งกรณีการให้ใบเหลืองใบแดงกีดกันสินค้าประมงไทย เรื่องการบินพลเรือนที่ลดอันดับของไทยลงไป ส่งผลให้การเพิ่มเส้นทางการบินไปหลายประเทศมีปัญหา

ส่วนปัจจัยภายในนั้น ก็มีทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำลงไปตามกลไกตลาดโลก เช่นเรื่องราคายางเนื่องจากยางพาราไทยเน้นการส่งออกกว่า 80%

เมื่อราคาตลาดโลกดิ่งลงเรื่อยๆ ด้วยยางล้นตลาดเนื่องจากมีผู้ผลิตเพิ่มขึ้น นอกจากเจ้าเดิมๆ อย่างไทยและมาเลเซียแล้ว ก็ยังมียางพาราที่จีนปลูกเอง หรือมาจ้างประเทศอื่นๆ ในอาเซียนปลูกด้วย ส่วนของไทยเราเองนั้น ยางที่เคยปลูกกันเฉพาะเพียงภาคใต้ ก็ขยายตัวไปปลูกกันเกือบทั่วประเทศ

นอกจากนี้ก็ยังมียางที่สังเคราะห์ได้จากพืชทดแทนที่เพิ่งประกาศออกมาโดยบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์เจ้าใหญ่บริษัทหนึ่ง ซึ่งแม้จะยังอยู่ในขั้นทดลองก็จริง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะนำมาใช้จริงได้ และแน่นอนว่าจะฉุดแนวโน้มราคายางพาราในระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวมให้ต่ำลงไปได้กว่านี้อีก

เรียกว่าราคายางในขณะนี้นั้นในระยะสั้นๆ ยังมองไม่เห็นว่าถ้าอ้างอิงราคากับตลาด และอุปสงค์อุปทานระดับโลกแล้ว ราคายางจะดีขึ้นได้อย่างไร และเมื่อไร

คำแนะนำของท่านนายกฯ ที่ให้หาพืชทดแทนไปก่อน เช่น สตรอเบอร์รี่หรือกล้วยหอม เอาเข้าจริงเป็นทางออกที่น่าจะดีและยั่งยืนสำหรับระยะกลาง

แต่ด้วยท่าทีและน้ำเสียง ก็กลายเป็นทำให้ชาวสวนยางบางส่วนไม่พอใจ จนในที่สุด รัฐบาลก็ตกลงรับซื้อไว้ในราคาที่น่าจะพอใจ เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น

จากนี้หน่วยงานของรัฐต่างๆ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ก็คงจะต้องไปหาวิธีการใช้ยางพาราให้เป็นประโยชน์ เพื่อเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ เช่น จะเอาไปปูถนน ทำพื้นสนามกีฬา ทำหมอนหรือที่นอนก็ว่ากันไป

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ก็เริ่มมีเสียงบ่นจาก SME ว่า ตลาดค้าปลีกระดับกลางและล่างนั้นเริ่มหดตัว ผู้คนลดการจับจ่าย คล้ายว่าเงินในระบบน้อยลง

กระนั้นในทางกลับกัน ห้างสรรพสินค้าระดับกลางและระดับบนต่างๆ ขยายตัวมากขึ้น ทั้งในต่างจังหวัดและเมืองหลวง ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ หรือห้างสรรพสินค้าระดับยักษ์ที่ทยอยเปิดกันทั่วทุกมุมเมือง เปิดทีไรคนก็แห่กันไปกินจนแน่น

หรือในกิจการร้านอาหารระดับบน ก็ปรากฏว่ามีลูกค้าแน่น พฤติกรรมการกินของคนในเมืองเริ่มเปลี่ยนแปลงไป การไปกินอาหารนอกบ้านมื้อละเกินพันบาทต่อคน เริ่มเป็นวิถีชีวิตของคนชั้นกลางมากขึ้น ใครไม่เชื่อก็ลองไปดูร้านอาหารระดับราคานี้ตามห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ดูก็ได้ ว่าคนแน่นถึงกับต่อคิวรอกินกันก็มี

เศรษฐกิจตอนนี้จึงมีทั้งที่หดและที่ขยาย แล้วแต่ว่าจะมองอย่างไร และรัฐบาลจะแก้จุดไหนทำอย่างไรให้เงินไหลเกลี่ยกันไปได้ทุกภาคส่วน

อย่างไรก็ตาม ก็เริ่มมีข่าวว่าต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในประเทศไทย หรือเริ่มมีการย้ายฐานการผลิต เนื่องจากหลายปัญหา ทั้งความไม่มั่นคงทางการเมือง และที่เริ่มมี “ตลาดใหม่” ที่เพิ่มเปิดขึ้นมา ทั้งในประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง หรือพม่าที่กำลังมาแรง ซึ่งก็เป็นวิสัยของนักลงทุนที่จะต้องหาช่องเข้าไปลงทุนในพื้นที่ที่มีโอกาสเติบโต และมีพื้นฐานที่จะโตขึ้นไปได้อีก แบบถึงก่อนก็มีสิทธิก่อน ต่างจากประเทศไทยที่เริ่มอยู่ตัวในระดับหนึ่งแล้ว และค่าแรงก็จัดว่าแพงกว่าประเทศรอบข้าง

คงต้องยอมรับกันว่า ปัญหาเศรษฐกิจของไทยนั้นมีอยู่จริง แต่จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ ขึ้นกับว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจะรับมือกันอย่างไร

หากปัจจัยแทรกที่แย่ยิ่งกว่า คือการที่มีพวก “รอซ้ำ” กันเอง ได้แก่กลุ่มที่ชื่นชอบในอำนาจเก่า หรือพวกที่เกลียดชังรัฐบาลทหาร ที่พร้อมจะซ้ำเติมทุกอย่างที่จะทำให้รัฐบาลซวดเซ โดยไม่สนใจความเสียหายโดยรวมของประเทศ ว่าถ้าจะแย่ก็แย่ด้วยกันนั่นแหละ

พวกเขาจะพยายามกระพือข่าว หรือแปลข่าว แม้แต่กระทั่งเต้าข่าวเอาก็ดี เช่น ข่าวเรื่องต่างชาติย้ายฐานการผลิต ข่าวลือจะปิดโรงงาน การลดการลงทุน หรืออย่างเร็วๆ นี้ ก็มีสำนักข่าวหนึ่ง (ที่รู้ๆ กันว่าเป็นเจ้าประจำและเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่า) ตีข่าวเสียครึกโครมใหญ่โต ว่าดิสนีย์แลนด์กำลังจะไปเปิดที่ลาว อนาคตทางเศรษฐกิจของลาวสดใสกว่าไทย

ในที่สุดเมื่อตรวจสอบกันแล้วก็พบว่าเป็นข่าวเต้า จริงๆ เป็นเพียงโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์โครงการหนึ่งของนักธุรกิจในลาว แต่เพราะทางสำนักข่าวในไทยฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดหรือเจตนาอย่างไรไม่ทราบ บิดเบือนไปเองว่าเป็นการลงทุนเปิดสวนสนุกของดิสนีย์

การปล่อยข่าวที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจไทย หรือพยายามให้บรรยากาศเหมือนกับว่าเศรษฐกิจไทยไร้อนาคตก็เพื่อให้คนที่ติดตามรับข่าวสารเกิดความวิตก ต้องจำกัดหรือลดการลงทุน พยายามเก็บเงินสด ไม่ใช้เงินเพราะคิดว่ากำลังจะเกิดข้าวยากหมากแพง ผจญพายุเศรษฐกิจลูกใหญ่แน่ๆ

เมื่อคนไม่ใช้เงิน โดยเฉพาะกลุ่มคนชั้นกลางที่เป็นกำลังซื้อหลักสำหรับธุรกิจ หรือกิจการระดับกลางและเล็ก ก็ยิ่งทำให้เกิดภพเหมือนกับว่า เงินกำลังจะหายไปจากระบบ การค้าซบเซา

แทนที่จะแค่เริ่มชะลอตัว กลายเป็นทำให้เศรษฐกิจแย่ เงินฝืดกันไปจริงๆ

ต้องย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจไม่มีปัญหา หรือทุกอย่างกำลังจะดี

เพียงแต่ขอให้มองภาพเศรษฐกิจอย่างที่มันเป็นจริงๆ อย่ามาก อย่าน้อยกว่านั้น ดูว่าเศรษฐกิจนั้นแย่ที่ตัวของมันเอง ที่เราสัมผัสได้จริงๆ

อย่าให้รู้สึกว่าเศรษฐกิจมันแย่ เพราะข่าวสารหรือแนวโน้มต่างๆ ที่ถูกพวกจ้องจะเหยียบซ้ำพยายามสร้างบรรยากาศกันขึ้นมา.
กำลังโหลดความคิดเห็น